เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 73

"คุณชายเฉินเขา......เมื่อวานกินอาหารพื้นเมืองเลยท้องเสียค่ะ" ไป๋มู่ชิงตอบพลางหัวเราะ

"คุณชายเฉินกินอาหารพื้นเมืองในตลาดหรอคะ?" สีหน้าของเลขาเหยียนถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจอย่างหนัก เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม?

"ใช่ค่ะ" ไป๋มู่ชิงพยักหน้า

เลขาเหยียนประหลาดใจอยู่พักใหญ่ กว่าจะดึงสติกลับมาได้จึงพยักหน้า: "ก็ได้ค่ะ คุณให้คุณชายเฉินพักผ่อนให้หายดีนะคะ ฝากแจ้งเขาว่าเรื่องตึกดิฉันจะจัดการให้เองค่ะ"

"ได้ค่ะ รบกวนเลขาเหยียนด้วยนะคะ"

หลังจากเลขาเหยียนจากไป ไป๋มู่ชิงปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง หนานกงเฉินกลับไปที่เตียงแล้ว เขาขดตัวอยู่ในผ้าห่ม จ้องเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ

หัวเราะก็หัวเราะไปแล้ว แกล้งก็แกล้งไปแล้ว ไป๋มู่ชิงเดินไปรินน้ำอุ่น แล้วหยิบยาจากกล่องยายื่นให้เขา: "กินยาเถอะ รับรองว่าหายทันพรุ่งนี้แน่นอน"

"ฉันต้องการหายวันนี้" หนานกงเฉินพูดอย่างหงุดหงิด

เขาต้องการหายวันนี้? เอาอีกแล้ว นิสัยเผด็จการไร้เหตุผล ไป๋มู่ชิงกรอกตามองบนอย่างจนคำพูด เธอยังอยากให้เขาหายภายใน1นาทีเลย แต่จะเป็นไปได้ยังไง?

"ซื้อยาอะไรมาบ้าง? เอาให้ผมดูให้หมด" หนานกงเฉินพูดต่อ

ไป๋มู่ชิงจึงหยิบถุงใส่ยาแล้วเดินไปหาเขา ข้างในนอกจากยาช่วยย่อย ยาแก้ท้องเสีย ยังมียาแก้อักเสบอีก หนานกงเฉินเปิดกล่องยาทั้งหมด แกะยาออกแล้วกลืนทั้งหมดลง ตามด้วยน้ำอุ่น

ทั้งหมดนี้ผ่านไปไวจนไป๋มู่ชิงไม่สามารถห้ามทัน เธอจ้องเขาแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ: "คุณบ้าไปแล้วหรอ กินแบบนี้ระวังเป็นพิษนะ"

หนานกงเฉินวางแก้วลงบนโต๊ะ เอนตัวลง ซุกตัวลงในผ้าห่ม ชายตามองเธอแล้วพูดว่า: "เธอออกไปเดินเล่นตามอัธยาศัยได้แล้ว ห้ามมากวนผมก่อนเที่ยง"

ไป๋มู่ชิงเมื่อโดนไล่ จึงพยักหน้ารับ แล้วออกจากห้องนอนของเขาไป

แม้ว่าหนานกงเฉินจะให้ไป๋มู่ชิงออกไปเดินเล่นเอง แต่ไป๋มู่ชิงก็เป็นห่วงเขา จึงอยู่ในโรงแรม

ตลอดเช้าวันนั้น ไป๋มู่ชิงนอกจากแอบเข้าไปดูอาการของหนานกงเฉินหลายรอบ ก็คือนั่งเล่นเกมส์มือถือบนเก้าอี้ในสวน

จนใกล้ๆ เที่ยง เธอจึงกลับไปต้มโจ๊กรสเกลือที่ครัวชั้น1 พอดูเวลา ก็เริ่มสับสนว่าควรปลุกหนานกงเฉินให้ตื่นมากินมื้อเที่ยงไหม

ไม่ได้กินมื้อเช้า ตอนนี้ต้องหิวมากแน่ๆ

เธอยังคิดไม่ตกว่าควรปลุกไหม เริ่มมีเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังมาจากบันไดชั้นบน ตามมาด้วยเงาของหนานกงเฉินปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

หนานกงเฉินที่อยู่ตรงหน้าเธอสวมสูทเข้ารูป สวมรองเท้าหนังขัดเงา ไม่ได้อยู่ในสภาพแย่เหมือนเมื่อเช้า และยังฟื้นตัวเป็นคนแข็งแรงสดใสเหมือนปกติ

"ไม่ถ่ายท้องแล้วหรอ?" ไป๋มู่ชิงเงยหน้ามองเขาเดินลงมาจากชั้นบน ถามด้วยรอยยิ้ม

หนานกงเฉินมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ พูดประชดว่า: "ทำให้เธอผิดหวังสินะ?"

"ไม่ใช่สักหน่อย" ไป๋มู่ชิงตอบ "ดูเหมือนยาพวกนั้นได้ผลดีเลยนะ"

เห็นเขาเดินตรงไปที่ประตู เธอจึงรีบไปดึงแขนเขาไว้: "อย่าเพิ่งไปสิ ฉันทำโจ๊กรสเกลือไว้ กินก่อนออกไปเถอะ"

เธอพาหนานกงเฉินไปยังโต๊ะอาหารพลางพูดว่า: "ไม่สบายท้องก็อย่าไปกินอาหารโรงแรมเลย กินของรสจืดบำรุงกระเพาะดีกว่า"

หนานกงเฉินตื่นมาเพราะหิว แม้จะหิวมาก แต่ไม่อยากกินอาหารเลย กินอาหารมันๆ เลี่ยนๆ ไม่ลงแน่นอน เมื่อได้ยินไป๋มู่ชิงทำโจ๊กไว้ จึงเดินตามเธอกลับมา

ตอนนี้นอกจากกินโจ๊กจืดๆ ก็กินอย่างอื่นไม่ลงเหมือนกัน

ไป๋มู่ชิงตักโจ๊กให้เขาถ้วยหนึ่ง และของตัวเองอีกถ้วยหนึ่งแล้วนั่งกินตรงข้ามเขา

"เดี๋ยวคุณจะไปไหน? ตึกใหม่หรอ?" เธอถาม

หนานกงเฉินตอบ'อืม'เบาๆ

"สะดวกพาฉันไปด้วยไหม?" จู่จู่ไป๋มู่ชิงก็ถามขึ้น เธออยู่ในโรงแรมมาครึ่งวันเช้าแล้ว ไม่อยากอยู่โรงแรมต่อในช่วงบ่ายแล้วจริงๆ

"เธอบอกว่าเธอคุ้นชินกับที่นี่มากไม่ใช่หรอ? ทำไมไม่ไปเดินเล่นเองล่ะ?"

"เดินเล่นคนเดียวไม่เห็นสนุกเลย"

หนานกงเฉินก้มหน้ากินโจ๊กต่อ โดยไม่พูดอะไร

หลังกินเสร็จ ไป๋มู่ชิงวิ่งไปหยิบกระเป๋าที่ชั้นบน และตามหนานกงเฉินออกไป

หนานกงเฉินไม่ได้ตอบตกลง แต่ก็ไม่ได้ห้าม เธอเลยทึกทักว่าเขาตกลงแล้ว

ทั้งสองมาถึงออฟฟิศฝ่ายขายใจกลางตึก เลขาเหยียนเห็นทั้งสองเดินมาจึงเดินเข้าไปรับ ประเมินหนานกงเฉินแล้วถามด้วยความเป็นห่วง: "คุณชายเฉิน ได้ยินมาว่าคุณท้องเสีย ตอนนี้หายแล้วหรอคะ?"

"หายแล้ว" หนานกงเฉินตอบพลางมองไป๋มู่ชิงที่อยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนี้แอบยิ้มจริงๆ ด้วย

เขาคิดไม่ตก แค่ท้องเสียต้องตลกขนาดนี้? ต้องขำขนาดนี้ด้วยหรอ? อีกอย่างเธอเป็นสาเหตุด้วยนะ

เลขาเหยียนมองไป๋มู่ชิงแล้วเดิมตามหนานกงเฉินเข้าไปยังห้องทำงาน

ไป๋มู่ชิงเดินวนในห้องโถงฝ่ายขายครบ 1 รอบ ไม่อยากเป็นจุดสนใจ จึงกลับไปออฟฟิศนั่งลงบนโซฟาตัวยาว

โครงสร้างของออฟฟิศชั้นสองเป็นกระจก จากจุดที่เธออยู่สามารถมองเห็นห้องทำงานอย่างชัดเจน ตอนนี้หนานกงเฉินกำลังประชุมย่อยกับฝ่ายกฎหมาย เลขาเหยียนนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของเขา คุยกับเขาเป็นระยะๆ

บรรยากาศราบรื่นจนทำให้คนอื่นอิจฉา ใช่ เธออิจฉาเลขาเหยียนมาตลอดสามารถอยู่ใกล้กับหนานกงเฉิน และเป็นที่ต้องการตลอดเวลา

ไม่เพียงแค่ภรรยาที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบคนนี้เท่านั้น พนักงานหญิงในบริษัทส่วนใหญ่ก็คงอิจฉา?

ไป๋มู่ชิงเห็นหนานกงเฉินทำงานครั้งแรก คล้ายกับที่เธอจินตนาการไว้ ตั้งใจจริงจัง รับผิดชอบละเอียดรอบคอบ บุคคลิกหนานกงเฉินอย่างแท้จริง!

เนื่องจากวันนี้ตื่นเช้า ตอนบ่ายก็ไม่ได้งีบ ไป๋มู่ชิงนั่งดูนิตยสารบนโซฟา เริ่มรู้สึกง่วง

ถ้ารู้ว่าอยู่ที่นี่แล้วน่าเบื่อขนาดนี้ นอนรอที่โรงแรมดีกว่า เธอแอบรู้สึกเสียใจ เปิดนิตยสารไปอีกหลายหน้า เธอคอพับลง ทนไม่ไหวหลับไปในที่สุด

คนในห้องทำงานเล็กสามารถเห็นเหตุการณ์ด้านนอกได้เหมือนกัน เลขาเหยียนเห็นไป๋มู่ชิงหลับไป จึงขยับตัวใกล้หนานกงเฉิน กระซิบว่า: "คุณชายเฉิน นายหญิงน้อยหลับอยู่บนโซฟา"

หนานกงเฉินเงยหน้ามองไปข้างนอก เห็นไป๋มู่ชิงฟุบหลับไปบนพนักโซฟาจริง

"มีผ้าห่มไหม?" เขาถามเสียงเรียบ

"มีค่ะ" เลขาเหยียนพยักหน้า

"หยิบให้เธอผืนนึง" หนานกงเฉินพูดจบแล้ววิเคราะห์สัญญาในมือต่อ

เลขาเหยียนลุกขึ้น ไปหยิบผ้าห่มให้ไป๋มู่ชิง

หลังจบประชุมย่อย พนักงานฝ่ายกฎหมายออกจากทำงาน หนานกงเฉินปิดแฟ้มลง เงยหน้าพูดกับเลขาเหยียน: "คุณช่วยไปสืบเรื่องเรื่องนึงให้ผมหน่อย"

"เรื่องอะไรคะ คุณชายเฉิน"

"เกี่ยวกับขั้นตอนการซื้อและผลลัพธ์การซื้อขายบ้านสวนจู ผมต้องการแบบครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด"

"บ้านสวนจู?" เลขาเหยียนประหลาดใจ ถามอย่างลังเล: "เอ่อ......คุณชายเฉิน เรื่องนี้ตอนนั้นผู้อำนวยการเหอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยอย่างง่ายๆ และราบรื่นไม่ใช่หรอคะ? คุณอยากให้ดิฉันสืบอะไรหรอคะ?"

ท่านผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดคนปัจจุบันเหอเฟิง เป็นคนที่ท่านรองประธานเสิ่นพาเข้าหนานกงกรุ๊ปเมื่อสิบกว่าปีก่อน พอหนานกงเฉินเข้ามาในบริษัทหลัก เคยถูกย้ายมาเป็นผู้ช่วยพิเศษของประธานบริษัท และถูกย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดเมื่อวามปีก่อน เพราะเขาได้เลื่อนขั้น เลขาเหยียนซึ่งเป็นหัวหน้าเลขาในตอนนั้นมีผลการทำงานที่โดดเด่นจึงได้มารับตำแหน่งผู้ช่วยพิเศษของประธานบริษัท

ช่วงซื้อบ้านสวนจูเป็นช่วงที่เหอเฟิงรับตำแหน่งผู้ช่วยพิเศษของประธานบริษัท แม้เลขาเหยียนจะพอทราบเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เคยร่วมจัดการเรื่องนี้เลย

"คุณยังจำได้ไหมว่าตอนนั้นเหอเฟิงรายงานผลลัพธ์เรื่องนี้กับผมว่ายังไงบ้าง?"

"ฉันจำได้ว่าเขาบอกว่าได้ซื้อบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในเมืองให้ตระกูลจู คนตระกูลจูดีใจมาก ความจริงไม่ใช่แบบนี้หรอคะ?"

"ใช่ บ้านหลังนั้นผมเคยไป"

"เอ่อ......แล้วยังไงหรอคะ? คุณชายเฉินอยากให้ดิฉันสืบเรื่องอะไรกันแน่คะ?"

ช่วงนี้ผมได้ยินข่าวลือมาว่าตอนนั้นที่เหอเฟิงซื้อบ้านสวนจู ได้บีบให้คุณยายของตระกูลจูเสียชีวิต" หนานกงเฉินขมวดคิ้ว ครุ่นคิด

เมื่อวานไป๋มู่ชิงพูดถึงเรื่องนี้ เขาไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้กับเรื่องที่เขารับรู้ต่างกันมากเกินไป

เขาจำได้ว่าตอนที่เขาซื้อบ้านสวนจู ตระกูลจูไม่มีคุณยายคนนี้อยู่แล้ว

"หรือว่าคุณยายตระกูลจูไม่ได้เสียไปตั้งนานแล้วหรอคะ?" เลขาเหยียนพูดอย่างไม่เข้าใจ

"ผมก็อยากรู้เหมือนกัน" หนานกงเฉินเบนสายตาออกจากไป๋มู่ชิง ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชา

เลขาเหยียนพยักหน้าครั้งหนึ่ง: "ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณชายเฉิน"

"อืม ขอคำตอบเร็วที่สุด" หนานกงเฉินลุกจากเก้าอี้ เดินไปยังเก้าอี้ทำงานของตนเองเริ่มทำงานต่อ

ไป๋มู่ชิงตื่นจากภวังค์ พบว่าตัวเองหลับอยู่บนโซฟา มีผ้าห่มคลุมตัว

เธอขยี้ตา กวาดสายตามองรอบๆ เห็นหนานกงเฉินในกำแพงกระจก จึงดึงสติกลับมาได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านและไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นห้องทำงาน!

เธอหลับในห้องทำงานของหนานกงเฉินหรอ น่าอับอายที่สุด!

หญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มคนที่ง่วงง่ายจริงๆ ถ้าเป็นเธอเมื่อก่อนไม่มีทางเลยที่จะง่วงโดยไม่สนเวลาและสถานที่? ยังหลับไปต่อหน้าคนอื่น น่าอับอายสุดๆ?

อีกอย่างวันนี้เป็นวันเปิดตึก พนักงานเข้าๆ ออกๆ เยอะมากแน่ๆ คงเห็นสภาพเธอหลับกันหมดแล้ว?

หนานกงเฉินดูเอกสารหมดไปฉบับหนึ่ง กำลังจะยกน้ำที่วางอยู่มุมโต๊ะขึ้นดื่ม เหลือบไปเห็นไป๋มู่ชิงที่ยืนตัวตรงอยู่ที่ประตู เนื่องจากเธอเพิ่งตื่น ตอนนี้เธอผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย

"ตื่นแล้วหรอ?" เขาถาม

ไป๋มู่ชิงรู้สึกเขินจนใช้นิ้วดึงชายเสื้อตัวเอง สีหน้าตำหนิอย่างชัดเจน: "ทำไมคุณไม่ปลุกฉันล่ะ?"

"ปลุกเธอทำไม? เดินไปเดินมาให้ผมรำคาญใจ?"

"แต่ว่า......ที่นี่มีคนมากมาย น่าอายจะตาย" ไป๋มู่ชิงพูดด้วยความอาย: "ฉันไม่เป็นอะไรหรอก สำคัญคือกลัวว่าคุณจะขายหน้าเอา"

"ชินแล้ว"

"หมายความว่ายังไง?" ไป๋มู่ชิงไม่เข้าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด