“ฉันทำเอง”หนานกงเฉินคว้าเยือกนมไปแล้วเท นมให้คนละแก้ว
ไป๋มู่ชิงมองเขาที่กำลังเทนมอยู่ เธอรู้สึกว่าต้องเป็นเพราะหนานกงเฉินรู้ว่าเธอมีแผลใต้แขนเสื้อเลยคว้าเยือกนมไปเท่แน่นอน
ไม่เพียงไป๋มู่ชิงที่ตกใจกับเรื่องนี้ คนอื่นๆบนโต๊ะล้วนรู้สึกตกใจเหมือนกัน ปกติหนานกงเฉินยังขี้เกียจที่จะเทนมดื่มเอง อย่าว่าเเต่เทให้คนอื่นเลย ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากหลังจากแต่งงาน
คุณผู้หญิงกระหึ่มเบาเบา ให้ทุกคนรีบกินข้าว
ถึงแม้ช่วงนี้คุณผู้หญิงอยากจะยุยงให้เขาสองคนอยู่ด้วยกัน แต่พอเห็นเขาสองคนเข้ากันได้ใจก็แอบรู้สึกเป็นห่วงกระทันให้ขึ้นมา ลูกสาวตระกูลไป๋คนนี้เดิมก็เป็นคนที่ไม่ได้ลิขิตไว้ว่าจะได้คู่กับเฉิน หากเขาสองคนเกิดมีความรู้สึกต่อกันและกันขึ้นมา มันจะส่งผลกระทบต่อเฉินที่จะหาคนที่ถูกลิขิตไว้หรือเปล่า
เพราะคุณผู้หญิงรู้ดี ถ้าหากหนานกงเฉินรักใครเข้า ก็จะรักจนฟ้าดินสลาย!
หนานกงเฉินกินข้าวเช้าเพียงเล็กน้อย แล้วปล่อยช้อนซ้อมไว้บนโต๊ะกำลังจะไป แต่คุณผู้หญิงสั่งไม่ให้เขาไปที่บริษัททุกครั้งหลังที่เขามีอาการป่วย
หนานกงเฉินคิดไปคิดมา กลับตกลง
ก่อนหน้านี้เขาอดไม่ได้ที่จะหนีออกจากบ้านนี้ไป หากว่ากลับไม่ได้ก็จะไม่กลับมา เพราะบ้านนี้มีแต่ยาที่ดื่มไม่หมดแล้วยังมียายและอาจารย์หวังที่ค่อยบ่นข้างหูตลอด และมีคำสั่งที่เขาไม่สามารถทำสำเร็จได้
แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรใดใด เป็นเพราะอะไร เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เขาตอบรับอย่างไม่คัดค้านอะไร ทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกปลาบปลื้มขึ้นทันใด เมื่อก่อนอยากให้หนานกงเฉินพักผ่อนอยู่บ้านสักวัน ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่ยอมอยู่ คุณผู้หญิงโกรธมากจนไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดี
พี่เหอหัวเราะแล้วบอกกับคุณผู้หญิงว่า “คุณหญิงคะ ฉันคิดว่านายหญิงน้อยจะเป็นดาวที่พาโชคดีให้ตระกูลเรา คุณชายใหญ่เชื่อฟังคุณผู้หญิงแล้ว
คุณผู้หญิงกระหึ่มอย่างไม่สบอารมณ์แล้วบอกว่า “เสียดายอาจารย์หวังหาผิดคน เธอไม่ใช่คนที่คู่ควรกับเฉิน”
“อืม มันก็ถูกไปอีกอย่าง” คุณผู้หญิงทำสีหน้าอย่างเสียดายสุดๆ
หนานกงเฉินที่ถูกขังไว้ในบ้านรู้สึกเบื่อสุดๆ อยากไปห้องสมุดเพื่อจัดการงานเร่งด่วนสักหน่อย ห้องกลับถูกคุณผู้หญิงสั่งคนล็อกไว้
เขาเดินไปเดินมาในสวนหลังบ้าน เขากลับเข้าไปที่ประตูมาถึงห้องอีกฝั่ง
ไป๋มู่ชิงยังคงวาดภาพน้ำมันของเธออย่างตั้งใจ. ตั้งใจจนขนาดหนานกงเฉินเข้ามายังไม่รู้ตัว
หนานกงเฉินยืมพีงประตูข้างๆแล้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “เธอไม่รู้สึกว่าเธอต้องหาทำอะไรกับฉันหรอ?”
ไป๋มู่ชิงตกใจแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณจะมัวทำงานในห้องทำงาน เลยไม่กล้าเข้าไปรบกวน ”
“ห้องทำงานถูกคุณยายล็อกแล้ว”
“อ้อ.ไม่น่าคุณถึงมาเที่ยวเล่นที่ฉัน ” แล้วเธอก็พูดต่อว่า “อีกนิดฉันก็เสร็จแล้ว พอฉันเสร็จฉันก็จะไปกับคุณ”
หนานกงเฉินเห็นรูปวาดน้ำมันสีที่ตรงหน้าของเธอแล้ว มีความคิดที่จะจุดไฟเผามันทิ้ง ทุกวันนี้รู้แต่จะวาดอย่างเดียว จนมือตัวเองเป็นแผลยังวาดต่อ และอีกอย่าง ภาพที่วาดยังเป็นผู้ชายกับคนอื่น
ความจริงแล้วไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเธอวาดได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสีและเสน่ห์ของภาพวาดก็พอใช้ได้ และนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้ เขาสนใจว่าเธอเมื่อไหร่จะหยุดวาดรูปซักที
“คุณอยากให้ฉันทำอะไรกับคุณละ?”ไป๋มู่ชิงถามไปที่เขา
“เธอทำอะไรเป็นบ้างละ”
“ฉันหรอ? สิ่งที่ฉันทำเป็นเยอะเเยะมากมายเลยนะ”
“เทนนิสเป็นไหม?”
“แน่นอน ฉันถนัดเลย! ”ไป๋มู่ชิงพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวด ค่อยนึกได้ว่าปากตัวเองพร่อยไปเอง แน่นอนว่าหนานกงเฉินยิ้มทันที “งั้นเราไปตีเทนนิสกัน”
“”อะ......เออ ไม่เอาดีกว่า”ตีเทนนิส? เป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงเยอะ
“ทำไมไม่เอา”
“เพราะ?......”ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมาแล้ว แล้วยกมือที่มีแผลของเธอขึ้น :”เพราะมือฉันยังมีแผลอยู่ เล่นเทนนิสไม่ได้”
หนานกงเฉินพึ่งนึกได้ว่าเธอมีแผลที่มือ ดูแล้วคงเล่นเทนนิสไม่ได้
“งั้นเราไปเล่นโบว์ลิ่งไหม?”
“มันไม่ค่อยสะดวก”ไป๋มู่ชิงพูดอย่างลังเล
หนานกงเฉินทำได้เพียงยกเลิกความคิดนี้ มือของเธอมีแผล และไม่อยากจะบังคับเธอมาก ทำได้เพียงกลับไปห้องตัวเอง
ไป๋มู่ชิงรู้สึกได้ว่าเขาผิดหวัง ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอท้องอยู่ ไม่สามารถทำอะไรที่ใช้แรงเยอะ
ไป๋มู่ชิงแต้มสีจุดสุดท้ายแล้วว่างพู่กันลง
ใช้เวลาครึ่งเดือน เสร็จจนได้ เธอถอยไปข้างหลังก้าวหนึ่ง มองคู่รักที่มีความสุขในภาพ เธอรู้สึกภูมิใจกับฝีมือตัวเอง
เธอเก็บของทั้งหมดเสร็จ แล้วล้างมือให้สะอาด โทรหาหยวนกุย พอหยวนกุยได้ยินว่าเธอวาดรูปเสร็จแล้ว พูดอย่างดีใจว่า”จริงหรอ? ฉันอยากจะไปดูหน่อย”
“ฉันจะส่งให้เธอไปดูวันหลังนะ หวังว่าเธอกับเฟยหยางจะชอบ ”
“ชอบสิ ไม่ว่ารูปวาดจะเป็นยังไงพวกเราก็ชอบทั้งหมดแหละ ”หยวนกุยหัวเราะอย่างชอบใจ “งานเเต่งว่างแผนได้เกือบเสร็จแล้ว รอภาพของเธอเท่านั้นแล้ว”
“จริงหรอ? งั้นรอน้ำหมึกแห้งแล้วฉันจะส่งไปให้เธอเลย”
“ดีเลย ขอบคุณนะ”
“เธอเคยขอบคุณแล้ว “ไป๋มู่ชิงตอบด้วยเสียงหัวเราะ “งั้นแค่นี้นะ ฉันไม่คุยกับเธอละ ”
“ทำไม? พอเเต่งงานแล้วก็เอาแต่อยู่กับสามี ไม่สนใจกันแล้วเหรอ”
“ที่ไหนละ ฉันแค่กลัวเธอยุ่ง”
“ฉันจะยุ่งแค่ไหนก็มีเวลาคุยกับเพื่อนแหละ”หยานกุยหัวเราะคิกคิกคักคัก”ฉันล่อเล่นหน่า เอาละว่างสายละนะ”
พอว่างสายเสร็จ ไป๋มู่ชิงว่างโทรศัพท์ สายตามองลงพื้นอย่างไม่รู้ตัว เธอรีบว่างโทรศัพท์ขนาดนี้ หรือว่า เธอคิดว่าฉันจะไปอยู่กับสามี
เธอหัวเราะออกมาด้วยความอาย เดินออกจากประตูไป มาถึงหน้าประตูห้องของหนานกงเฉิน ยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วพลักเข้าไป
เขาอยู่คนเดียวต้องเหงาแน่ๆ ควรจะไปอยู่ข้างเขาบ้าง ไม่งั้นครั้งต่อไปคงไม่ยอมพักผ่อนอยู่บ้านแน่นอน
พอเธอพลักประตูเข้าไปแล้ว กลับไม่เห็นหนานกงเฉินอยู่ในห้อง เธอเดินไปที่ระเบียง พอมองจากระเบียงลงไปก็เห็นหนานกงเฉินนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างริมสระ
วันนี้อากาศสดชื่น ไม่มีลม เหมาะกับการไปพักผ่อนข้างนอกมากๆ
เธอหันหลังแล้ว เดินไปข้างล่าง
มีเพียงหนานกงเฉินที่อยู่ในสวนดอกไม้คนเดียว รอบข้างสงบเหลือเพียงแค่เสียงนก ตระกูลหนานกงอยู่ในพื้นที่กึ่งชานเมืองห่างจากเมื่องประมาน10กิโลเมตร อากาศและวิวดี สวยมากๆ เหมาะแก่การอยู่อาศัย
ปกติไป๋มู่ชิงก็ชอบไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้บ้าง แต่น้อยมากที่จะเห็นหนานกงเฉินอยู่อยู่ที่สวนดอกไม้
พอเธอใกล้ถึงตัวของหนานกงเฉิน เธอก็เดินช้าและเงียบลง เข้าไปนั่งยองๆข้างหลังเขาอย่างระมัดระวัง เพื่อแอบดูจอโทรศัพท์เขา
หนานกงเฉินเอียงจอไว้ และใส่หูฟังไปด้วย เธอคิดว่าหนานกงเฉินดูหนัง แต่เธอคิดผิด หนานกงเฉินไม่ได้ดูหนัง แต่กำลังเล่นเกมส์อยู่
ตอนนี้เขากำลังสู้กับคู่แข่งปิงโฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองคนไม่มีใครยอมแพ้ใคร
ไป๋มู่ชิงแปลกใจ ใจคิดปกติเขาไม่ได้เล่นเยอะ ทำไมสกิลเร็วขนาดนี้ และยังสามารถสู้กับกัปตันได้
พอสองคนสู้กันไปไปมามา ปิงโฟงถูกหนานกงเฉินฉวยโอกาศข้างหลัง เร็วมาก ฝั่งโทรศัพท์พูดออกมาว่า “รู้ไหมพฤติกรรมอะไรในเกมส์น่าเกลียดที่สุด? ฉวยโอกาศ!”
“ฉันคิดว่านายจะตอบว่า แย่งภรรยา”หนานกงเฉินตอบไปอย่างเร็ว “อ้อ ฉันไม่สนใจหรอกนะพวกเป็นเจ้าชายที่ใครเห็นใครก็รัก ฉันสนใจแต่จะแย่งภรรยา ”
“นายบอกว่านายเป็นสามีของเธอ มีหลักฐานอะไร”
“บอกสัดส่วนถือว่าเป็นไหม?”
“36,24,36”
"นายแน่ใจว่านายเป็นสามีเธอ....."
ไป๋มู่ชิงพอได้ยินคำนนี้ รีบยืนไปหน้าเขา แล้วเอาโทรศัพท์หนานกงเฉินออกทันที
หนานกงเฉินมองมาที่เธอแล้ว เอาหูฟังออก”แอบฟังพอแล้วหรอ?”
ที่แท้หนานกงเฉินก็รู้ว่าเธออยู่ข้างหลังมาโดยตลอด ไป๋มู่ชิงอายจนหน้าแดง มองไปที่โทรศัพท์เขาแล้วพูดว่า “คุณไม่เล่นไม่ใช่หรอ?ทำไมเลเวลขึ้นเร็วขนาดนี้ละ?”
“
“ระดับสมองฉันแล้ว ต้องเหมือนเธอเล่นทุกคืนทุกวันเพื่อให้เลเวลขึ้นหรอ?”
เอาสะไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออก เป็นผู้ชายที่ขี่โอ้อวดจริงๆ!
“เธอกับเขาเป็นอะไรกัน?”หนานกงเฉินถามเธอกระทันหัน
“หมายความว่าไง? ฉันกับเขาเป็นคู่รักภรรยาในเกมแบบปลอมๆไง”
“ถ้าเป็นแค่นั้น ทำไมเขาถึงได้ใช้ใจกับเธอขนาดนี้? รู้จักสัดส่วนเธอได้ดีขนาดนี้ ?”เมื่อกี้หนานกงเฉินแค่พูดสัดส่วนไปงั้นๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับแบบนี้
เขาลุกขึ้นไปแล้วถามเธอว่า”พูดมาดีดี นอกจากเพื่อนในเกมส์แล้วยังมีอะไรอีก?”
ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมาแล้วพูดตะกุกตะกัก”กะ ก็แค่ศิษย์เก่าด้วยกัน เเต่เขาบอกว่าเขาคือรุ่นพี่ที่จบก่อนฉัน 3รุ่น เรียนหมอ ไม่ใช่คณะเดียวกัน และฉันก็ไม่เคยเจอเขาด้วย และยิ่งไม่รู้ว่าที่เขาพูดจริงหรือปลอมด้วย”
นี้เป็นความจริง ปิงโฟงเองที่ลากเธอเข้ากลุ่มเกมส์แล้วขอเธอแต่งงานในเกมส์เพื่ออับเลเวล
ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไร ยังไงผู้เล่นทุกคนก็ต้องตามหาคู่รักเพื่ออับสกิลตัวเอง เลยยอมตกลงเขาไป
หนานกงเฉินพยักหน้า ยิ้มจนหน้าแป้น”ที่เเท้ก็รักข้ามโลกนี้เอง”
“พูดบ้าบออะไร ”ไป๋มู่ชิงมองบนให้เขา “กัปตันปิงโฟงมีมารยาทมากเลยนะ”
มีมารยาทจนไม่เคยคุยเรื่องความรักกับเธอเลย แน่นอน ที่ปิงโฟงมีมารยาทกับเธอขนาดนี้ก็เพราะตอนนั้นเธอคบกับหลิงอันหนาน เธอเคยบอกเรื่องนี้กับปิงโฟงด้วย
ไป๋มู่ชิงตรวจดูการเข้าของเขาแล้ว เห็นว่าเขาเข้าทุกวันเลย แล้วหันกลับไปถามอย่างหาเรื่องว่า “ไหนบอกว่าตัวเองไม่ได้เข้าเล่นทุกวันทุกคืนเพื่อนขึ้นเลเวลละ ก็เห็นเห็นอยู่ๆ”
หนานกงเฉินแย่งโทรศัพท์เขาจากมือเธอ ไป๋มู่เฉินยิ้มเยาะเย้ยว่า”หรือว่าคุณชายเฉินเล่นเกมส์ในเวลาทำงาน? แบบนี้ไม่ดีน้าาาา”
“เธอคิดว่าฉันจะว่างขนาดนั้นเลยหรอ? ”หนานกงเฉินมองเขาด้วยหางตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...