เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 96

"ก็ได้นะ" ไป๋มู่ชิงพยักหน้ารับแล้วเปิดประตูรถออกไป

ข้างๆก็เป็นห้างชื่อดังในเมืองซี ทั้งสองเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วผ่านร้านขายของเกี่ยวกับแม่และเด็ก ไป๋มู่ชิงหยุดเดินอย่างกะทันหัน "เหลียนเหยา ไปดูเสื้อผ้าเด็กกันเถอะ"

"ได้สิ" ผู่เหลียนเหยาคล้องแขนเธอแล้วเดินเข้าไปในร้าน หยิบชุดจากบนราวโชว์ลงมาให้ไป๋มู่ชิงดู "ดูสิ ชุดน่ารักมากเลย"

"น่ารักมาก" ไป๋มู่ชิงรับชุดไปดูอย่างมีความสุข เธอไม่รู้เลยว่าชุดเด็กตอนนี้ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้

พนักงานเดินมาถามอย่างมีมารยาท "ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะคลอดเมื่อไหร่เหรอคะ?"

"อีกประมาณห้าเดือนน่ะ" ไป๋มู่ชิงตอบไป

ผู่เหลียนเหยาเอ่ยขึ้น "อีกห้าเดือนเลยเหรอคะ? ตอนนั้นน่าจะเป็นฤดูร้อนแล้ว ซื้อตอนนี้อาจจะเร็วไปหรือเปล่าคะ?"

"ไม่หรอกค่ะ ชุดแบบนี้เด็กใส่ได้ทุกฤดูค่ะ" พนักงานหยิบอีกชุดลงมา "ถ้าคิดว่าผ้าอาจจะหนาไป ชุดนี้จะบางกว่านิดหน่อยนะคะ แล้วราคากับคุณภาพก็ดีมากด้วยค่ะ"

จากนั้นพนักงานก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "ดูเหมือนห้าเดือนอาจจะนานไป แต่แค่แว็บเดียวก็ผ่านไปแล้วค่ะ เสื้อผ้าเด็กต้องตากแดดฆ่าเชื้อ ซื้อเตรียมตัวไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ"

ในมือถือชุดน่ารักๆนี้ไปพร้อมฟังพนักงานพูดไปด้วย แต่ในใจไป๋มู่ชิงกลับสั่นวูบ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะได้คลอดหรือเปล่า ซื้อตอนนี้ก็เร็วไปจริงๆ

ไม่ เธอไม่ควรมีความคิดแบบนี้!

ไป๋มู่ชิงเรียกสติกลับมา เด็กในท้องต้องแข็งแรงแน่นอน รออีกไม่กี่วันผลตรวจออกมา หนานกงเฉินก็จะไม่มีข้ออ้างอะไรให้เธอไปทำแท้งอีก

ใช่ ลูกในท้องต้องไม่เป็นอะไร เธอรู้สึกได้

"พี่สะใภ้ดูตัวนี้ก็น่ารักนะคะ" ผู่เหลียนเหยาแทรกขึ้นขณะที่เธอตกอยู่ในภวังค์แล้วยื่นอีกชุดมาให้เธอ "สวยไหมคะ? ชมพูมากๆ"

"อื้อ สวยดี"

"ใช่สิ พี่รู้หรือยังคะว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?" ผู่เหลียนเหยาถามขึ้นอย่างสงสัย

"ยังไม่รู้เลย" ไป๋มู่ชิงยื่นชุดที่เลือกไว้ให้พนักงาน "สำหรับพี่จะชายจะหญิงก็ได้ พี่ชอบหมด"

"ใช่ นี่ยุคใหม่แล้วหนิ" ผู่เหลียนเหยาถามเสียงเบา "นี่พี่ซื้อแค่ชุดสองชุดให้พอหายคันมือก็พอแล้ว ทำไมซื้อเยอะขนาดนั่นล่ะคะ?"

"ยังไงก็ต้องซื้ออยู่ดี แล้วมีแต่ชุดน่ารักทั้งนั้นเลย" ไป๋มู่ชิงหันไปพูดกับพนักงาน "สี่ชุดนี้ เช็คบิลให้ด้วยค่ะ"

ในใจลึกๆของเธอ เธอเชื่อว่าเด็กไม่เป็นอะไรแน่นอน เพื่อที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นนี้เธอเลยซื้อทีเดียวเลยสี่ชุด

หลังจากที่ซื้อเสร็จ ทั้งสองก็ออกจากร้านแล้วเดินไปโซนเสื้อผ้าผู้หญิง

ผู่เหลียนเหยาบอกว่าเธอจะไปรับชุดที่สั่งตัดไว้เลยลากไป๋มู่ชิงไปด้วยพร้อมอธิบายกับเธอว่า "เสื้อผ้าที่นี่มีแต่แพงๆทั้งนั้น ต้องเป็นระดับไฮโซเท่านั้นถึงจะเอื้อมถึง"

"มองออกอยู่" ไป๋มู่ชิงยกถุงในมือขึ้น "แค่ชุดเล็กๆแค่นี้ยังต้องหลายพันเลย คนทั่วไปคงเข้าไม่ถึงจริงๆ แต่เพื่อลูกฉันยอมจ่าย"

"เงินแค่นี้เนี่ยนะ? วงเงินบัตรของพี่ชายไม่กำจัดนะคะ"

"ก็จริง ยังไงก็ซื้อให้ลูกเขาใส่" ไป๋มู่ชิงพูดยิ้มๆ

เธอเพิ่งพูดจบสีหน้าก็ตึงเครียดทันทีพร้อมกับหยุดก้าวขาด้วย

"เป็นอะไรคะ? พี่สะใภ้" ผู่เหลียนเหยาเห็นเธอหยุดเดินเลยหันไปถามเธอด้วยความสงสัย แต่เธอไม่ตอบอะไรเลยมองตามสายตาเธอไป

มองทะลุกระจกบานใหญ่ไปก็เห็นหนานกงเฉินนั่งบนโซฟาในร้านเสื้อผ้าผู้หญิง ในมือก็จับโทรศัพท์อยู่ไม่รู้ว่าดูอะไร

"พี่ชาย? ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?" ผู่เหลียนเหยาเอ่ยอย่างประหลาดใจ

เดิมทีหนานกงเฉินนั่งดูแมกกาซีนอยู่แต่พอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลยรีบกวาดสายตาดูให้จบแล้วค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ดข้อความ

เป็นข้อความจากบัตรเครดิต ว่ารูดจ่ายไป หนึ่งพันหกร้อยหยวน

บัตรสำรองของเขาให้แค่ไป๋มู่ชิงคนเดียวไม่เคยให้คนอื่นอีก กับผู้หญิงคนอื่นก็ให้แค่เช็ดเท่านั้น

นอกจากครั้งก่อนที่ไป๋มู่ชิงคืนเสื้อผ้ากลับไปแล้วเขาสั่งให้เธอไปซื้อกลับมา เธอก็ไม่เคยรูดบัตรของเขาอีก จนกระทั่งวันนี้

หนานกงเฉินที่กำลังนั่งคิดสงสัยอยู่ว่าไป๋มู่ชิงซื้ออะไรไปพันกว่าหยวน เลขาเหยียนก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ เธอใช่ชุดออกงานที่เซ็กซี่เดินออกมาพร้อมยืนยิ้มต่อหน้าเขา "เป็นยังไง? ชุดนี้ได้หรือเปล่า?"

หนานกงเฉินมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมเก็บโทรศัพท์ลงงแล้วลุกขึ้นยืน ยื่นมือข้างที่ไม่มีแผลไปดึงดอกกุหลาบบนไหล่ของเลขาเหยียนพร้อมยิ้มอ่อน "สายมาก"

สีหน้าท่าทางนั้น อย่างกับเลขาเหยียนเป็นภรรยาเขา ดูกลมกลืนไปหมด

ไม่สิ เขาไม่เคยทำท่าทางสนิทสนมขนาดนั้นกับภรรยาตัวเอง ไป๋มู่ชิงหัวเราะเยาะในใจ

"จริงเหรอ? งั้นฉันใส่ตัวนี้แหละ" เลขาเหยียนพูดอย่างมีความสุข

"ได้สิ"

พนักงานบริการไม่พลาดโอกาศที่จะเอ่ยชม "หุ่นของแฟนคุณชายดีขนาดนี้แถมยังสวยอีก ใส่ชุดอะไรก็ดูดีหมดเลยค่ะ โดยเฉพาะชุดนี้ วันปกติก็ใส่ได้ ไปร่วมงานปาร์ตี้กับเพื่อนก็สวยมากเลยค่ะ"

ผู่เหลียนเหยาทนฟังไม่ได้เลยพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด "พนักงานพวกนี้ก็จริงๆเลยเนี่ย พูดออกมาได้ทุกอย่างแค่อยากให้ลูกค้าซื้อ นั่นเลขาต่างหากแฟนบ้าอะไรล่ะ……นี่……พี่รอหนูด้วยสิ"

พอผู่เหลียนเหยาหันกลับมาไป๋มู่ชิงก็เดินจากไปแล้วเลยรีบเดินตามหลังเธอไป

พอตามทันไป๋มู่ชิงแล้ว ผู่เหลียนเหยาก็จับข้อมือเธอไว้ก่อนจะยิ้มแห้งๆ "พี่สะใภ้น่าจะรู้หนิคะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเลขาของพี่ชาย ไม่ใช่แฟนสักหน่อย อย่าเข้าใจพี่ชายผิดเลยนะคะ"

"ไม่หรอก สบายใจได้" ไป๋มู่ชิงหันมายิ้มกับเธอพร้อมกับหักห้ามความผิดหวังในใจไว้

เธอไม่ใส่ใจหรอกว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน ไม่ใส่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลขาเหยียนหรอก ไม่ใส่ใจ……

ผู่เหลียนเหยาสังเกตสีหน้าของเธอ"ดูสิ ยังไงก็สนใจอยู่ดีแล้วทำไมต้องหันหลังเดินหนีด้วย ทำไมพี่ไม่เดินเข้าไปแล้วบอกกับพนักงานที่ตาถั่วนั่นว่าพี่เป็นภรรยาของพี่ชายต่างหากล่ะ?"

ไป๋มู่ชิงยิ้มอย่างไม่แยแส "ถ้าทำอย่างนั้น เราก็พลาดของอร่อยๆสิ" พูดจบเธอก็เป็นฝ่ายคล้องแขนผู่เหลียนเหยาเอง "ไปเถอะ ไปเอาชุดเสร็จแล้วไปกินกัน ฉันหิวแล้ว"

"ได้ หนูก็หิวแล้วเหมือนกัน" ผู่เหลียนเหยาพูดยิ้มๆแล้วเดินไปทางร้านตัดชุด

พอไปรับชุดที่ชั้นสี่แล้ว ทั้งสองก็ยืนรอลิฟต์อยู่หน้าลิฟต์ ลิฟต์ใกล้มาถึงแล้วแต่พอผ่านชั้นสามประตูลิฟต์ก็เปิดออก เงาที่คุ้นเคยทั้งสองก็เดินเข้ามา

ไป๋มู่ชิงแอบถอนหายใจ ที่เธอเลือกขึ้นลิฟต์ก็เพราะไม่อยากเจอพวกเขา แต่ยังไงก็เจออยู่ดี

พอหนานกงเฉินกับเลขาเหยียนเห็นเธอสองคนสีหน้าก็ประหลาดใจเล็กน้อย สุดท้ายเลขาเหยียนก็เอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท "คุณหญิงน้อยทำไมมาที่นี่เหมือนกันเลย?"

"มาเดินเล่นน่ะ" ไป๋มู่ชิงยิ้มอ่อนให้แต่กับหนานกงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆเธอไม่แม้จะชายตามองเขา

ชุดที่เลขาเหยียนกำลังใส่อยู่เป็นชุดที่เธอลองเมื่อกี้ นั่นเป็นชุดยาวสีดำสุดเซ็กซี่ เหมาะกับหุ่นของเธอจริงๆแถมยังจับคู่กับเสื้อคลุมสีแดงอีก ดูๆไปแล้วช่างหรูหราเหมือนหงส์ดำเลย

ลิฟต์ไปถึงชั้นสอง เนื่องจากมีคนเดินเข้ามาเลย ไป๋มู่ชิงเลยถูกเบียดไปยืนข้างๆเลขาเหยียน

ถึงแม้ในลิฟต์จะมีเสียงคนคุยเล่นกัน แต่บรรยากาศก็ยังอึดอัดอยู่ดี หนานกงเฉินไม่มีทางคุยกับไป๋มู่ชิงก่อนแถมยังวางแขนลงบนไหล่ของเลขาเหยียนอีกพร้อมดึงตัวเขาเข้าไปใกล้

เลขาเหยียนก็แสดงสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงความผิดปกติระหว่างหนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงได้ทั้งๆที่เธอกำลังคิดคำอธิบายเกี่ยวกับท่าทางกับหนานกงเฉินอยู่ แต่หนานกงเฉินกลับราดน้ำมันเข้ากองไฟอีก เธอคงไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วแหละเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

ทั้งหมดมีแค่ไม่กี่ชั้น และแล้วลิฟต์ก็หยุดลงที่ชั้นหนึ่ง ประตูเปิดออกช้าๆ ไป๋มู่ชิงเดิมอยากให้คนอื่นออกไปก่อนแต่คนข้างหลังกลับเบียดเธอให้ออกไปก่อน เหมือนเธอถูกผลักออกมายังไงอย่างนั้น

ขณะที่ทุกคนกำลังเดินออกมา พอไป๋มู่ชิงก้าวออกมาก็รู้สึกว่ามีแรงกระแทกเข้าที่เอวของเธอ

"อ้า--!" เลขาเหยียนร้องตกใจขึ้นจนเอนตัวออกไปจะทับตัวไป๋มู่ชิงจนขาของไป๋มู่ชิงพลิกแล้วร่างกายก็ไปชนกับถังขยะหน้าลิฟต์

ถังขยะไม่สูงมาก ไป๋มู่ชิงเลยชนเข้าที่ท้องน้อยฝั่งซ้ายพอดี จนเธอร้องปวดขึ้น "เจ็บ……"

เนื่องจากเลขาเหยียนใส่ส้นสูงอยู่เธอเลยรีบยันตัวเองลุกขึ้นจากตัวของไป๋มู่ชิง แต่ไป๋มู่ชิงกลับนอนเจ็บขดตัวอยู่ที่พื้น

"พี่สะใภ้เป็นอะไรไปคะ?" พอผู่เหลียนเหยาเห็นไป๋มู่ชิงนอนขดอยู่เลยรีบพุ่งเข้าไปพยุงตัวเธอขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับตำหนิเสียงเข้มเลขาเหยียน "ทำไมเธอไม่ระวังขนาดนี้ พี่สะใภ้เป็นคนท้องนะ!"

สีหน้าของเลขาเหยียนที่ตกใจอยู่พอได้ยินว่าไป๋มู่ชิงท้องก็ยิ่งตกใจไปกว่าเดิม พร้อมพยุงตัวไป๋มู่ชิงขึ้นแล้วเอ่ยไปด้วย "ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ มีคนผลักฉันจากข้างหลัง ขอโทษจริงๆนะคะ……"

"พวกเธอหยุดขยับก่อน ฉันปวดท้อง" ไป๋มู่ชิงเอ่ยขออย่างขมวดคิ้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด