เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 97

"จริงสิ หนูเป็นคนแบบนี้แหละ อะไรก็แชร์แต่ยกเว้นผู้ชาย นี่เป็นหลักการของหนู" ผู่เหลียนเหยาตบหลังมือเธอเบาๆ "เรื่องนี้พี่ต้องดูหนูเป็นตัวอย่าง"

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของไป๋มู่ชิงค่อยๆหายไปแล้วไม่ได้พูดอะไร

หนานกงเฉินไม่ใช่ของเธอแต่แรก ปัญหานี้คงต้องให้ไป๋ยิ่งอันมาจัดการเอง

ผู่เหลียนเหยาเห็นสีหน้าหม่นหมองของเธอเลยเปลี่ยนประเด็นว่า "ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องพวกนี้เลย หนูสั่งให้คนไปซื้ออาหารเย็นมาแล้ว เดี๋ยวก็จะมาส่งแล้ว"

"ขอบใจ"

"ไม่เป็นไรหรอก" ผู่เหลียนเหยาพูดอ่อนโยน "พี่พักเถอะ หนูไม่รบกวนพี่แล้ว"

พอคุณหญิงได้ข่าวว่าไป๋มู่ชิงเข้าโรงพยาบาล ท่านก็ถามหนานกงเฉินอย่างโมโหว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู่เหลียนเหยารีบอธิบายว่าตอนที่พวกเธอกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ๆไป๋มู่ชิงก็รู้สึกไม่สบายถึงไปโรงพยาบาล คุณหญิงถึงได้วางใจไปบ้าง

วันรุ่งขึ้นคุณหญิงเลยรีบมาโรงพยาบาลแต่เช้า พอเห็นว่าไป๋มู่ชิงไม่ได้เป็นอะไรมากถึงโล่งใจ

คุณหญิงเรียกหมอที่รับผิดชอบมาให้ตรวจร่างกายเธออย่างละเอียด ดูว่าเด็กในท้องเป็นอะไรหรือเปล่า

พอได้ยินคำว่าตรวจร่างกายอย่างละเอียด ไป๋มู่ชิงใจวูบไป ถึงเธอจะเชื่อว่าเด็กจะไม่เป็นอะไร แต่พอต้องตรวจขึ้นมาเธอก็หวั่นๆใจอยู่

ถ้าเด็กมีปัญหาจะทำยังไงดีล่ะ? เธอก็จะไม่มีเหตุผลข้ออ้างเพื่อที่จะเก็บเด็กไว้อีก

พอตรวจทุกอย่างเสร็จ คุณหมอก็บอกกับคุณหญิงว่าต้องรอผลออกสองวัน คุณหญิงเลยให้เสี่ยวลวี่อยู่ดูแลไป๋มู่ชิงจากนั้นท่านก็กลับไป

ตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้หนานกงเฉินไม่โผล่มาเลย แต่ไป๋มู่ชิงก็เดาได้ว่าต้องเป็นอย่างนี้ ไม่คาดหวังให้เขามาแล้วก็ไม่ต้องการด้วย

หลังจากที่คุณหญิงเดินจากไปไม่นาน ก็มีคนมาเคาะประตูห้องแล้วเปิดเข้ามา เป็นเลขาเหยียนนั่นเอง เธอยืนเอ่ยทักทายขึ้นอย่างมีมารยาทที่หน้าประตู "คุณหญิงน้อย รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ?"

ไป๋มู่ชิงมองไปที่ใบหน้าที่สมส่วน แต่งหน้าได้ดูดีต่างจากคนเมื่อวานที่ใส่ชุดยาวเซ็กซี่สีดำมาก เธอยิ้มอ่อนมุมปากให้ "ดีขึ้นแล้ว ขอบใจนะ"

เลขาเหยียนเดินเข้ามาพร้อมวางของฝากในมือลงบนโต๊ะ "เมื่อกี้ฉันถามคุณชายว่าคุณชอบกินอะไร แล้วเขาบอกว่าคุณหญิงน้อยชอบขนมกับไอศกรีมร้านนี้ ฉันคงซื้อไอศกรีมมาให้ไม่ได้เลยเอาขนมมาฝากค่ะ"

ไป๋มู่ชิงมองไปที่กล่องขนมบนโต๊ะก่อนจะตอบน้ำเสียงปกติ "ขอบคุณ"

ความเย็นชาของเธอจนทำให้เลขาเหยียนรู้สึกอึดอัด แต่เธอคงเจอสถานการณ์แบบนี้มาเยอะจากการทำงานเธอเลยรีบปรับตัวปรับอารมณ์ก่อนจะเอ่ยขึ้น "คุณหญิงน้อย ฉันไม่รู้ว่าคุณจะอยากฟังคำอธิบายหรือเปล่า แต่ด้วยหน้าที่ฉันว่าฉันควรจะอธิบาย ฉันกับคุณชายเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องปกติ เมื่อวานมีงานจำเป็นที่คุณชายเฉินต้องไป ทีแรกฉันคิดว่าเขาจะพาคุณไป ฉันยังเตรียมชุดกับรองเท้าให้คุณแล้ว แต่คุณชายเฉินบอกว่าคุณไม่ค่อยสะดวก เลยให้ฉันไปแทน ที่เห็นเราเลือกชุดกันที่ห้างเมื่อวานก็เพราะมันจำเป็นกับงาน"

เห็นเธอไม่ตอบอะไร เลขาเหยียนเลยเอ่ยต่อ "เรื่องที่ฉันชนคุณในลิฟต์ ฉันขอโทษจริงๆนะคะ แต่ฉันขอสาบานเลยว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าใครผลักฉันออกมาแรงขนาดนั้นถึงไปชนคุณหญิงน้อย ยังดีที่คุณกับลูกไม่เป็นอะไรไม่งั้นฉันต้องเป็นคนบาปแน่ๆ"

ไป๋มู่ชิงก็ยังคงมองไปไม่เอ่ยอะไรเหมือนเดิม

เลขาเหยียนที่รับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดีตลอดแต่พอเห็นเธอแสดงปฏิกิริยานี้ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

ในความทรงจำคุณหญิงน้อยหนานกงเป็นผู้หญิงที่ใจดี ถ้าไม่ทำให้โกรธจริงๆคงไม่แสดงความเย็นชาขนาดนี้หรอก

เธอสูดหายใจเข้าเบาๆก่อนจะเอ่ยอย่างระมัดระวัง "คุณหญิงน้อย กำลังฟังที่ฉันพูดหรือเปล่าคะ?"

ไป๋มู่ชิงรู้สึกตัวสักทีพร้อมเงยหน้าขึ้นยิ้มอ่อน "ได้ยินแล้ว คุณกำลังบอกว่าคุณไม่ได้เป็นอะไรกับคุณชายเฉิน"

"ใช่ค่ะ ฉันอยากให้คุณเชื่อใจฉัน ไม่สิ ควรจะเชื่อใจคุณชายเฉิน"

"ถ้างั้น……" ไป๋มู่ชิงมองไปที่เธอพร้อมยิ้มเย็นมุมปากใส่ "ตอนที่คุณชายเฉินยกบ้านสวนจูให้คุณ คุณก็เชื่อมั่นตัวเองแบบนี้เหรอ?"

เลขาเหยียนอึ้งไป ไม่คิดว่าเธอจะเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา

ไป๋มู่ชิงเห็นว่าเธอไม่รู้จะตอบยังไงเลยพูดไปอีกว่า "ทำไม? ความมั่นใจเมื่อกี้หายไปไหนล่ะ?"

"คือ……" เลขาเหยียนคิดไปคิดมาสุดท้ายเลยเอ่ยขึ้นว่า "คุณหญิงน้อยอย่าเข้าใจผิดนะคะ คุณชายเฉินไม่ได้ยกบ้านสวนจูให้ฉัน แต่แค่ยืมชื่อของฉันไปเท่านั้น"

"เหรอ? ทำไมต้องยืมชื่อเธอมาจดทะเบียนล่ะ? ทำไมไม่ใช้ชื่อฉัน?"

"อันนี้……ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน" เลขาเหยียนไม่รู้จะตอบยังไง

"งั้นก็ไม่ต้องพูด" ไป๋มู่ชิงถอนหายใจเบาๆ ก้มหน้าลงไปไม่สนใจเธออีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด