ไม่ถึงครึ่งเดือนต่อมา สภาพอากาศในเมืองหลวงก็ถึงจุดที่แผดเผาสูงสุดของปี อากาศในเมืองร้อนมากจนผู้คนล้วนแต่อยากจะอยู่ในบ้าน ไม่มีใครอยากออกไปไหนทั้งนั้น
แอเรียนและแอริสโตเติลใกล้จะล้มป่วยจากความชื้นนี้ ภูมิต้านทานต่อความร้อนของแอริสโตเติลต่ำมากจนแอเรียนกลัวว่าเขาจะเป็นลมแดดถ้าเธอพาเขาออกจากบ้าน
ทุกวันนี้เธอจึงไม่ค่อยได้พาเขาออกไปที่สวนและจะพาเขาเดินเล่นในตอนเย็นช่วงที่พระอาทิตย์ตกเท่านั้น ไม่ว่าคฤหาสน์เทรมอนต์จะใหญ่แค่ไหน มันกลับดูเล็กลงมากในช่วงเวลาเช่นนี้ การที่ต้องอยู่แต่ข้างในบ้านทั้งวันนั้นค่อนข้างจะน่าเบื่อมากเลยทีเดียว
พักหลัง ๆ นี้มาร์คยุ่งมากจนแอเรียนและแอริสโตเติลแทบจะไม่ได้เจอเขาเลย เขาจะออกไปทำงานก่อนที่แอเรียนจะตื่นและกลับมาบ้านเมื่อเธอเข้านอนไปแล้ว เธอเริ่มสงสัยว่าแอริสโตเติลจะลืมหน้าดาด๊าของเขาหรือไม่ ถ้าขืนยังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป
ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็อยู่บ้านเดียวกันแต่กลับไม่เคยได้เห็นหน้ากันเลย และทารกก็มักจะมีความทรงจำที่ไม่ดี มันจึงจะไม่น่าแปลกใจเลยถ้าสมอร์จะลืมหน้ามาร์ค
ณ ตึกเทรมอนต์ ทาวเวอร์ ในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด
สีหน้าของมาร์คเยือกเย็นที่สุด เขาเอนกายพิงโต๊ะทำงานโดยใช้มือจับที่ขอบโต๊ะเพื่อพยุงตัวเอง บรรยากาศที่ตึงเครียดทำให้เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาต่างตัวสั่นด้วยความกลัว
“พวกคุณตามหาที่ดินผืนหนึ่งมานานแต่สุดท้ายมันก็ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น คุณคิดว่าอเลฮานโดรจะคายสิ่งที่เขาได้ไปแล้วออกมาเหรอ? เขาแย่งที่ดินที่พวกเราเฝ้ามองมานานไปจากเราแล้ว นี่พวกคุณโง่หรือไง? สมองของพวกคุณทำมาจากแป้งหรืออะไร? แล้วทำไมพวกคุณไม่ใช้แป้งนั้นสร้างกำแพงสะเลยล่ะ!”
ใช่แล้ว หลังจากที่ได้ทำการวิจัยทางตลาดมาแล้ว พวกเขาก็ตระหนักว่าทรัพย์สินที่มีศักยภาพทางธุรกิจทั้งหมดถูกอเลฮานโดรครองไปหมดโดยไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว พวกเขาเหลือเพียงแต่ทรัพย์สินธรรมดา ๆ ที่ไม่มีใครต้องการเป็นทางเลือก มันคือทรัพย์สินที่คน ๆ หนึ่งจะซื้อเมื่อสิ้นหวังเท่านั้น ซึ่งการซื้อสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
มีนิยายหลายเรื่องที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวเลยค่ะและมีแต่เรื่องเดิมฯไม่มีเรื่องใหม่ฯให้อ่านบ้างเลย...