Chapter 31 บุตรชายผู้เป็นดั่งดวงใจ
“ลูก....”
เส่าหลิงเสียงสั่นเมื่อเด็กตัวแดงๆ ถูกอุ้มมาวางไว้แนบอก นางมองใบหน้าจิ้มลิ้มของบุตรชายแล้วก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งยินดีเอาไว้ได้
“เจ้าก้อนแป้งถูกพันจนเป็นก้อนกลมแล้ว”
นางใช้ปลายนิ้วแตะที่ปลายจมูกและริมฝีปากกระจิริด เวลานี้เด็กชายตัวน้อยถูกพันด้วยผ้าสีขาวจากนั้นจึงห่อคลุมด้วยผ้ามงคลสีแดงอีกชั้น
“อี้เหริน...แม่ให้เจ้ามีนามว่าอี้เหริน”
หญิงสาวเอ่ยชื่อบุตรชายก่อนจะบรรจงจูบลงบนหน้าผากแผ่วเบา เป็นการต้อนรับเด็กน้อยสู่โลกใบนี้ นางจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บุตรของนางมีชีวิตที่สว่างสดใสดุจพระอาทิตย์
“หลานยายช่างหน้าตาน่าเอ็นดูเหลือเกิน”
“เด็กตัวน้อยๆ นี่ช่างดูบอบบางจริงๆ รีบโตไวๆ มาวิ่งเล่นในสวนผลไม้กับปู่นะเสี่ยวเหริน”
สองตายายยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองเจ้าตัวน้อยที่ขยับยุกยิกไปมาโดยที่ยังไม่ลืมตา
“ข้า...”
น้ำเสียงทุ้มทำให้เส่าหลิงมองไปยังคนตัวโต เห็นเขาค่อยๆ ขยับมายืนอยู่ข้างเตียงนางจึงเมินหน้าหนีไปทางอื่นเสียดื้อๆ
“ข้าขออุ้มลูกได้หรือไม่”
ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเด็กชายตัวน้อย ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงแค่ได้เห็นหน้า เขาก็รู้สึกรักเด็กคนนี้จนหมดหัวใจ
นอกจากถางเล่อถงจะไม่ได้คำตอบแล้ว ภรรยายังกอดลูกน้อยแล้วแสร้งปิดเปลือกตาหลับไปเสียเฉยๆ เขาจึงไม่ได้เซ้าซี้แต่เดินคอตกออกไปนั่งนอกกระท่อมอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
เป็นที่คุ้นตาเสียแล้วที่จะได้เห็นแม่ทัพตัวโตเดินไปมาอยู่ในสวนผลไม้ของจื่อโม่ และก็เป็นภาพที่ชินตาเช่นกันที่จะเห็นเส่าหลิงเมินแม่ทัพราวกับเป็นอากาศธาตุ
“บุตรสาวของเจ้าช่างใจแข็งเสียจริง”
จื่อโม่เอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันแค่เพียงสองคนกับภรรยา เพราะปลีกตัวออกมาช่วยกันตากผลไม้แห้ง แน่นอนว่าหลายวันมานี้ลูกเขยที่มียศเป็นถึงแม่ทัพมายืนช่วยตากผลไม้แห้งทุกวัน อีกทั้งยังอาสาช่วยบรรทุกผลไม้ไปส่งให้แม่ค้าในตลาด หาบน้ำกินน้ำใช้จากแม่น้ำมาที่กระท่อม ผ่าฟืน ช่วงหุงหาอาหาร อีกทั้งยังซักผ้าอ้อมของบุตรชายทุกเช้า ดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อย
เพราะยืนช่วยตากผลไม้บ่อยๆ จึงได้ซักถามพูดคุยกันถึงเหตุผลที่เส่าหลิงหอบลูกในท้องหนีมาก เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดสองสามีภรรยาก็ถึงกับพูดไม่ออก ความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลมีความแค้นเป็นดั่งมรดกตกทอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวไร้ค่า (หน่วง/หื่น)