บทที่1078 ขอความสบายใจ
ถูกลูกสาวต่อว่าออกมายู่ฉือจินทำได้เพียงหุบปากไป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนายทุนผู้มีชื่อเสียง แต่เรื่องจำพวกนี้มองผิวเผินแล้วมันก็ไร้ทางสู้ออกไป
หาหมอที่เก่งกว่านี้ เจอเคสแบบเย่โม่เซิน ก็พูดได้เพียงแค่ว่าทำได้เพียงแค่ดูว่าสติการรับรู้จากตัวผู้ป่วยแข็งแกร่งพอหรือเปล่า
ถ้าเขาอยากฟื้นขึ้นมา เขาก็ต้องฟื้นขึ้นมาแน่
หมอเก่งๆก็เรียกมาหมดแล้ว แล้วเขาจะยังทำอะไรได้?
นอกจากการจุดธูปไหว้พระ ยู่ฉือจินก็คิดหาวิธีที่ดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
แม้ว่าส้งอานจะต่อว่ายู่ฉือจินออกมา แต่ก็ไม่ได้เอาการพูดของยู่ฉือจินมาใส่ใจ
จากนั้นในตอนที่ไปหามู่จื่อก็ยังพูดเล่นกับเธอออกไป แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่หานมู่จื่อได้ยินไป สีหน้าก็แสดงถึงความจริงจังสุดๆออกมา จากนั้นก็เห็นดิบเห็นดีด้วยเสียได้
ส้งอานนิ่งแข็งเป็นหินไปชั่วขณะ
อะไรนะ?
เธอคิดว่าตาแก่นั่นแก่แล้ว ก็เลยเชื่องมงายไปหน่อย
แต่สังคมสมัยนี้ต่างล้วนไม่เชื่อเรื่องงมงายจำพวกนั้นกัน ทำไมมู่จื่อถึงได้...
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ส้งอานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา “มู่จื่อ เธอเป็นคนสมัยใหม่นะ ทำไมเธอถึง...เชื่องมงายเหมือนตาแก่นั่นกัน?”
ได้ยินอย่างนั้น หานมู่จื่อพูดอธิบายด้วยรอยยิ้มเบาๆ “คุณน้าคะ นี่ไม่ใช่เรื่องงมงายนะคะ ก็แค่ขอความสบายใจ”
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดถึงด้านนี้มาก่อน แต่ในเมื่อคุณตาของเย่โม่เซินได้เสนอออกมาแล้ว ก็ไปไหว้สักหน่อยไม่เห็นเป็นไร
ถึงแม้ว่าปกติเธอจะไม่ได้เชื่อเรื่องงมงายพวกนี้ แต่ก็เคารพยำเกรงต่อเทพยดา
“ขอความสบายใจ?” วิธีการพูดออกมาอย่างนี้ได้ทำให้ส้งอานยอมรับได้ เธอลูบคางใช้ความคิดอยู่นาน ก็ได้โอนอ่อนผ่อนตามไป
“เอาเถอะ ฉันได้ยินเขาว่ากันว่าภูเขาหลิงหยุนที่อยู่แบ่งกั้นตัวเมืองศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่งั้นเราก็ลองไปที่นั่นดูเอามั้ย?”
“แบ่งกั้นตัวเมือง?” อย่างนั้นแล้วไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาเดินทางนานมากเลยหรือไง
ส้งอานเหมือนกับว่าจะคิดคำนวณไปครู่หนึ่ง
“ไปกลับน่าจะประมาณสองวันได้ เธอจะทำใจปล่อยเขาไปได้ลงหรอ?”
หานมู่จื่อมองเย่โม่เซินที่สลบไสลอยู่ ว่ากันตามตรงแล้วเธอก็ทิ้งเขาไม่ลงอยู่แล้ว
แต่...
“เอาเถอะ ฉันผู้เป็นน้าสาวคนนี้ จะอยู่ดูแลเขาในช่วงสองวันนี้เอง สองวันนี้เธอก็ตั้งใจไปไหว้พระที่ภูเขาหลิงหยุน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เชื่อในสายนี้ แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไป ก็อย่ามัวช้าอยู่เลย อย่าลืมเคารพศรัทธาหน่อยล่ะ”
ส้งอานรับปากว่าจะเป็นคนดูแลเย่โม่เซินเองแล้ว หานมู่จื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก แล้วบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวเหยียนไป เสี่ยวเหยียนก็รีบบอกออกมาว่าตัวเองก็มีเรื่องที่จะขอเหมือนกัน เลยตัดสินใจที่จะไปกับหานมู่จื่อด้วย
เสี่ยวเหยียนกับหานมู่จื่อจะไปกัน เซียวซู่ก็ไม่วางใจเป็นธรรมดา ก็เลยต้องขอตามไปด้วย
เสี่ยวเหยียนในตอนแรกก็ไม่อยากจะตอบรับ แต่พอได้คิดดูแล้วผู้หญิงสองคนไม่ปลอดภัยนัก อีกทั้งมู่จื่อเองก็ยังเป็นคนท้องด้วยอีก ถ้าหากว่ามีเรื่องอะไรเธอคนเดียวเกรงว่าคงจะรับมือไม่ไหว
ถ้ามีเซียวซู่อยู่ด้วยล่ะก็ พอเกิดเรื่องขึ้นมาก็จะยังพอมีคนที่จะมาดูแลกันได้
คิดอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสี่ยวเหยียนก็ยอมตอบรับออกมา
ก่อนไป หานมู่จื่อก็ได้กลับไปเยี่ยมเย่โม่เซินที่โรงพยาบาล นั่งคุยอยู่ข้างเตียงกับเขาอยู่หลายคำ
ส่วนส้งอานกับยู่ฉือจินเพื่อเว้นช่องว่างให้กับทั้งสองคนจึงได้ออกมาจากห้องผู้ป่วย
ส้งอานรออยู่นาน มู่จื่อยังไม่ทันได้ออกมา คำเอ่ยเร่งของเสี่ยวเหยียนก็ออกมา
“น้าส้งดูสิคะมู่จื่อยังไม่มาเลยหรอ? ตอนนี้ก็ได้เวลาออกเดินทางแล้วนะคะ”
“ฉันไปดูให้นะ”
ส้งอานลุกขึ้นเดินเข้าไปหน้าห้องผู้ป่วย มองผ่านกระจกออกไปก็เห็นเข้ากับภาพที่หานมู่จื่อโน้มลงไปจูบริมฝีปากเย่โม่เซินเข้าพอดี ก็ได้จุ๊ปากออกมา จากนั้นก็หันกลับไป “เธอจะออกมาแล้ว รออีกเดี๋ยวนึงเถอะนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่