บทที่1456 นับว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ไม่รู้เหมือนกันว่ารอนานแค่ไหน ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าที่มั่นคงดังขึ้นที่นอกห้องประชุม พอสวี่เย็นหวั่นได้ยินเสียงฝีเท้านั้นก็หันหน้าไปทันที
ไม่ได้เจอกันนานไม่เท่าไหร่ แต่ว่าหานชิงผอมไปกว่าแต่ก่อนมาก แค่มองแว๊บเดียวก็รู้ว่าช่วงนี้เขาไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สายตายังแดงก่ำด้วยเส้นเลือด
เพราะว่าเรื่องของเสี่ยวเหยียน เขาต้องเหนื่อยทั้งกายและใจอย่างแน่นอน
ต้องเป็นห่วงเสี่ยวเหยียนด้วย แล้วก็ต้องจัดการกับตระกูลเห้อด้วย ทั้งสองเรื่องนี้ต้องใช้พลังงานอย่างหนักหน่วง
พอเห็นหานชิงเป็นแบบนี้ ความรู้สึกผิดและความเศร้าในใจของสวี่เย็นหวั่นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เพราะว่าความสัมพันธ์ของตัวเอง ทำให้ทุกคนต้องได้รับบาดเจ็บ บางที เธอไม่ควรจะกลับจีนมาเลย ถ้าเกิดว่าเธออยู่ที่เมืองนอกล่ะก็ ตอนนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นเยอะแยะแบบนี้หรอก
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเรื่องนี้รึเปล่า ท่าทีที่หานชิงมีต่อเธอนั้นมันเย็นชามากยิ่งขึ้น ตอนเข้ามานั้นไม่แม้แต่จะทักทายเธอด้วยซ้ำ ลากเก้าอี้แล้วก็นั่งลง หลังจากนั้นก็มองหน้าเธออย่างเย็นชา
สวี่เย็นหวั่นรู้ว่าตัวเองผิด ถึงแม้ว่าจะรู้สึกทุกข์ใจ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ได้แต่เดินเข้าไปแล้วยื่นซองเอกสารให้หานชิง
หานชิงไม่ได้รับ เธอก็ยื่นมือวางเอกสารนั้นไว้บนโต๊ะ
“นี่คือข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดของบริษัท”
พอได้ยินดังนั้น หานชิงก็หรี่ตาลง เหมือนกับว่าไม่เข้าใจว่าเรื่องที่เธอต้องการจะทำในวันนี้คือเรื่องอะไรกันแน่
“เห้อเหลียนจิ่งกับฉันรู้จักกัน และก็เพราะว่าฉันรู้เรื่องของเสี่ยวเหยียน เขาเจ็บใจแทนฉัน ดังนั้นถึงได้ทำเรื่องพวกนี้ลงไป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนทำ แต่ว่าฉันก็ควรรับผิดชอบ เรื่องที่จะทำให้ตระกูลสวี่ฟื้นคืนอีกครั้งนั้น ฉันก็ไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากนายได้อีกแล้ว เอกสารพวกนี้ฉันได้จัดการไว้เรียบร้อยแล้ว”
หานชิงไม่ได้เปิดเอกสารพวกนั้น และก็ไม่ได้ตอบอะไรด้วย ได้แต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้น ผ่านไปนานถึงถามออกมา “ฉันก็แค่อยากรู้ว่า เรื่องที่วางเพลิงนั้น เธอรู้เหตุการณ์ภายในรึเปล่า? ”
ความหมายก็คือเขาถามเธอว่า เธอรู้ไหมว่าเขาจะวางเพลิง ถึงแม้ว่าเธอจะรู้แต่ว่าเห็นด้วยเงียบๆ แบบไม่ออกเสียง หรือว่าเธอไม่รู้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
สวี่เย็นหวั่นมองเขา เม้มปาก หลังจากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าของเขา
“เรื่องนี้ ถ้าเกิดว่านับว่าเป็นการวางเพลิงมันเกิดขึ้นทั้งสองครั้งแล้ว ครั้งหนึ่งอยู่ที่ร้านกาแฟ ตอนนั้นฉันนัดเสี่ยวเหยียนออกมาคุยกัน ตอนนั้นเห้อเหลียนจิ่งวางแผนจะลงมือ แต่ว่าฉันห้ามเขาไว้ ฉันบอกเขาว่าฉันไม่ได้อยากได้ชีวิตใคร ฉันนึกว่า……เขาน่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ไม่คิดเลยว่า……”
เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่า เห้อเหลียนจิ่งจะทำเรื่องแบบนี้ในงานแต่งงานของเขาวันนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือเขาลากเธอเข้าไปด้วย
หรือบางทีเขาอาจจะไม่กลัวการติดคุกเลย นี่คือสิ่งที่สวี่เย็นหวั่นมาคิดได้ภายหลัง
“ดังนั้น เธอรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาอาจจะทำอันตราย แต่ว่าก็ปกปิดไว้ไม่บอกยังงั้นเหรอ? ” สายตาที่หานชิงมองเธอนั้นสูญเสียอุณหภูมิทันที มองเธอเหมือนกับว่ามองคนตายยังไงยังงั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่เย็นหวั่นเห็นสายตาแบบนี้จากหานชิง ต่อให้เขาจะไม่เคยชอบเธอเลยตั้งแต่เด็กจนโต แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับปฏิบัติตัวต่อลูกสาวชนชั้นสูง ไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้รังเกียจ
แต่ว่าตอนนี้ สายตาแบบนี้มันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว
หัวใจของสวี่เย็นหวั่นเจ็บเหมือนโดนเข็มทิ่ม หายใจแทบไม่ออก
“ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น” เธอตื่นตระหนกรีบอธิบาย “คืนก่อนที่พวกเธอจะแต่งงานกัน ฉันไปดื่มเหล้า และก็ดื่มจนเมามาก ตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกวันหนึ่งถึงนึกขึ้นได้ว่าต้องไปเข้าร่วมงานแต่งงานของพวกเธอ หานชิง ฉันสวี่เย็นหวั่นชอบนายมาก ชอบนายตั้งแต่เด็กจนโต ฉันอยากให้นายหันกลับมามองฉันหน่อย แล้วก็รอคอยวันที่จะได้เป็นภรรยาของนาย แต่ว่าในเมื่อนายไม่ชอบฉัน ตระกูลสวี่ของฉันก็ไม่ได้อนุญาตให้ทำร้ายชีวิตผู้คน ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ ”
พอได้ยินดังนี้ หานชิงกลับหัวเราะเยาะออกมา
“นายไม่เชื่อฉันเหรอ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่