บทที่146 ตรวจสอบร่างกายของเธอ
ในตอนนี้ในใจของหานเส่โยวไม่มีความรู้สึกสำนึกผิดแบบเมื่อครู่อีกแล้ว แต่เธอกลับภูมิใจเล็กน้อยในความหลักแหลมของตัวเอง เธอยกมุมปากแล้วพูดเตือนเสิ่นเฉียว: “เฉียวเฉียว ข้าวจะเย็นแล้วนะ เธอรีบกินเถอะ กินเสร็จแล้วฉันจะช่วยเธอจัดการเอกสาร จากนั้นเราจะได้เลิกงานไว ๆ”
เฉียวเฉียวเอ๊ยเฉียวเฉียว เธอจะมาโทษที่ฉันพรากเย่โม่เซินไปจากเธอไม่ได้นะ
ประเด็นคือเธอกับเย่โม่เซินอยู่กันคนละเส้นทาง พวกเธอไม่มีทางอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้หรอก
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว สู้ให้เธอเป็นคนที่อยู่ข้างกายเขาแทนจะดีกว่า แล้วถ้าหากว่าเย่หลิ่นหานไม่รังเกียจสถานภาพของเธอแล้วล่ะก็ ฉันคิดว่าเขาเหมาะกับเธอมากกว่านะ
“ไม่ต้องหรอก เธอเอาข้าวมาให้ฉันก็ลำบากแล้ว เดี๋ยวอีกสักพักกินเสร็จแล้วเธอกลับก่อนเถอะ”
เสิ่นเฉียวยิ้มให้เธอ
หานเส่โยวกลับยืนยันที่จะอยู่ต่อ
ไม่มีทางเลือก เสิ่นเฉียวจึงต้องยอมให้เธอช่วย ทั้งสองคนช่วยกันจนถึงสี่ทุ่มกว่า หานเส่โยวมองอาคารที่ว่างเปล่าแล้วเสนอขึ้นกับเสิ่นเฉียว: “ทำถึงตรงนี้น่าจะพอได้แล้วรึเปล่า? พวกเรากลับก่อนเถอะ ฉันมีรถเดี๋ยวฉันแวะไปส่งเธอเอง”
ในระหว่างที่กำลังยุ่งอยู่นั้น เสิ่นเฉียวเงยหน้ามองดูเวลา นี่มันก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ต่อให้เธออยากจะทำงานอีกสักพักแต่ก็ไม่สามารถจะทำให้หานเส่โยวต้องมาเดือดร้อนไปกับเธอแบบนี้ต่อไปได้ เธอพยักหน้ารับคำและเริ่มเก็บของ
หานเส่โยวไปส่งเสิ่นเฉียวที่บ้านตระกูลเย่ก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว เธอมองค่ำคืนที่เงียบสงบแล้วหานเส่โยวก็พูดขึ้น: “เฉียวเฉียวจ๊ะ พี่ฉันบอกว่า...”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ การกระทำของเสิ่นเฉียวก็หยุดลง นิ้วของเธอเกร็งและพูดขึ้น: “คือว่า...”
“ฉันพูดตรง ๆ กับเธอเลยนะ คนคนนั้นคือเย่หลิ่นหาน!”
ก่อนที่เสิ่นเฉียวจะลงจากรถไป หานเส่โยวพูดสิ่งนี้ออกมาเสียงดัง เมื่อพูดเสร็จ...หน้าผากของเธอก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่อ มือจับพวงมาลัยรถแน่น
หลังจากที่เธอพูดคำนี้ออกมาทำให้เสิ่นเฉียวตกตะลึงอยู่ตรงนั้น เธอตกตะลึงและนิ่งอยู่นานโดยไม่ตอบสนองใด ๆ
เธอคิดว่า...ตัวเองฟังผิดไป
ชื่อที่หานเส่โยวพูดเมื่อกี้ คือเย่หลิ่นหาน?
เธอหันกลับมามองหานเส่โยว ปากสั่นเล็กน้อย: “เส่โยว ทำไมจู่ ๆ เธอก็พูดชื่อเย่หลิ่นหานล่ะ?”
หานเส่โยวไม่พูดอะไรได้แต่มองเธอนิ่ง ๆ
เสิ่นเฉียวเม้มริมฝีปากลดความตื่นตระหนกในดวงตาของเธอและกระซิบ: “นี่มันก็ดึกแล้ว เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“เฉียวเฉียว สูทชุดนั้นเป็นของเย่หลิ่นหานนะ”
นี่สิ่งที่หานเส่โยวพูดตามหลังเธอมาอีกครั้งในตอนที่เสิ่นเฉียวเปิดประตูเตรียมตัวจะลงจากรถ ในเวลานั้น เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าหัวเธอกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ
ทำไมถึงเป็นเย่หลิ่นหาน?
พระเจ้ากำลังล้อเล่นอะไรกับเธอกันแน่?
“ฉันรู้ว่าถ้าบอกข่าวเรื่องนี้กับเธอไปมันจะเป็นยังไง...แต่ว่า...อีกฝ่ายคือเย่หลิ่นหานจริง ๆ นะ ตอนแรกฉันก็ลังเลว่าจะบอกเธอดีไหม แต่สองวันนี้ฉันก็คิดดูแล้ว อีกทั้งฉันฟังเธอเล่าเรื่องเมื่อตอนบ่าย จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเธออยู่กับ พี่เย่ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เลว คืนนี้ฉันเลยใช้ความกล้าเพื่อบอกเธอ”
เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร
หานเส่โยวยังไม่หยุด เธอพูดต่อ: “แน่นอนว่า ฉันรู้ว่าเธอต้องใช้เวลาในการยอมรับ...”
เสิ่นเฉียวหันหน้าไปอย่างรวดเร็วน้ำเสียงของเธอกังวลเล็กน้อย: “ล้อเล่นรึเปล่า? คนในคืนนั้น ดูยังไงก็ไม่เหมือนสไตล์ของเย่หลิ่นหาน!”
“เฉียวเฉียว คนเรามีรูปแบบการกระทำที่หลากหลายเมื่อเผชิญหน้ากับคนหรือสถานการณ์ที่ต่างกันไป ในเวลาปกติเขาอาจจะดูอบอุ่น แต่ในความเป็นจริงเขากลับเป็น...”
“เป็นไปไม่ได้!” เสิ่นเฉียวตัดบทเธออย่างรวดเร็วพร้อมส่ายหน้า
หานเส่โยวถอนหายใจ: “แต่ฉันก็ให้คำตอบกับเธอแล้ว ยังพอมีเวลา คืนนี้เธอลองทบทวนมันดูนะ”
เสิ่นเฉียวจ้องมองเธอด้วยแววตาที่ว่างเปล่าครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับให้ขับรถปลอดภัยและลงรถไป
แต่งเข้าตระกูลเย่มานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเฉียวกลับดึกขนาดนี้ บ้านตระกูลเย่เงียบสนิททั้งข้างบนและข้างล่าง มีเพียงสาวใช้กะดึกเฝ้ายามเท่านั้น และยังแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอกลับมา แต่ก็รีบกล่าวทักทายเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่