บทที่ 435 เหมือนกับคนโง่
หานมู่จื่อวางตะเกียบในมือลง สีหน้าเย็นชาสงบนิ่ง
“เธอทำเกินไปแล้วนะ”
“ถ้าเธอยังไม่ดูแลร่างกายอย่างจริงจังแบบนี้อีก ฉันยังจะทำยิ่งกว่านี้ เธอเชื่อไหม?” เสี่ยวเหยียนวางตะเกียบในมือลง แล้วมองเธออย่างเอาจริงเอาจัง
ใบหน้าของเธอมีความตั้งใจมาก ดูออกว่าไม่ได้ล้อเล่น
“ฉันจะบอกเธอนะหานมู่จื่อ แรงบันดาลใจมาเธอสามารถวาดเพิ่มอีกนิดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำตามอำเภอใจแบบนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองอดอาหารทั้งวันแล้ววาดรูปอยู่ในนั้น เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? เธอไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ เธอเป็นคนมีลูกแล้ว เธอคิดว่าร่างกายทำมาจากเหล็กเหรอ? หรือรู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่เน่าเปื่อย? โรคกระเพาะอาหารอาจเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก แต่เธอก็ห้ามไม่จริงจัง ถ้าหากวันใดวันหนึ่งอาการป่วยกำเริบตาย ฉันก็จะลักพาตัวเสี่ยวหมี่โต้ว แล้วเอาให้คนอื่นถึงเวลานั้นเธอก็อย่าปวดใจแล้วกัน!”
หานมู่จื่อ : “……”
คำพูดเหล่านี้ของเสี่ยวเหยียน สามารถพูดได้ว่าเกินไปแล้ว
แต่ว่า…หานมู่จื่อกลับไม่โกรธ
แม้กระทั่งเธอก็ยังคิดว่าถูกต้อง
พอคิดถึงเสี่ยวหมี่โต้วที่รอตัวเองอย่างร้อนใจเมื่อวานแล้ว ร่างเล็กๆ ที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนั้น ดวงตาซึมเศร้าและท่าทางน่าสงสาร พอคิดแล้วก็รู้สึกทนไม่ได้
แต่หานมู่จื่อไม่ได้พูดอะไร แล้วหยิบตะเกียบกับชามขึ้นมาใหม่และกินข้าวอย่างสงบ
เสี่ยวเหยียนมองท่าทางนี้ของเธอแวบหนึ่ง อดที่จะหัวเราะอย่างเย็นชาไม่ได้: “รู้สึกผิดแล้วใช่รึเปล่า? ดูสิหลังจากนี้เธอยังจะกล้าไม่กินข้าวแบบนี้อีกหรือเปล่า!”
หานมู่จื่อ: “ราชินีเสี่ยวเหยียน ฉันผิดไปแล้วยังไม่พอเหรอ? แต่เอาของพวกนี้ออกไปได้ไหม? ดูแล้วทนไม่ไหวจริงๆ ”
“หึ เดิมทีก็อยากให้เธอเป็นทุกข์มากกว่านี้ แต่พอเห็นท่าทางน่าสงสารแบบนี้ของเธอแล้ว ครั้งนี้ฉันยกโทษให้เธอก็แล้วกัน”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็เอื้อมมือไปนำของทอดที่มีกลิ่นหอมทั้งหมดออกจากโต๊ะ
หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ก็ออกมาจากโรงพยาบาลด้วยกัน
“ตอนโรคกระเพาะของเธอกำเริบ นอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งวันก็พอแล้ว? ไม่ถือโอกาสนี้อยู่พักอีกสักสองสามวันล่ะ?” เสี่ยวเหยียนเดินไปด้วยถามไปด้วย
หานมู่จื่อส่ายหัว: “ไม่ล่ะ ฉันยังมีเรื่องต้องทำ”
คนที่ขับรถมาส่งเสี่ยวเหยียนก็คือลุงหนาน ลุงหนานรออยู่ข้างนอก ทั้งสองร้องเรียกลุงหนาน จากนั้นทั้งหมดก็ขึ้นรถ
หลัจากขึ้นรถ หานมู่จื่อก็คิดอะไรได้ แล้วถามเงียบๆ
“ฉันยังมีทรัพย์สินอีกเท่าไหร่?”
พอได้ยิน เสี่ยวเหยียนก็อึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นก็คิดว่าตัวเองฟังผิดแล้ว
หลังจากนั้นเธอเอื้อมมือไปแคะหูตัวเองทันที
“เมื่อกี้ เธอพูดว่าอะไรนะ?”
หานมู่จื่อหันมามองเธอ: “ฉันยังมีทรัพย์สินอีกเท่าไหร่?”
เสี่ยวเหยียนมองเธออย่างหัวเราะร้องไห้ไม่ออก: “เธอถามคำถามนี้กำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม? เธอมีเงินที่ไหนกันล่ะ?”
พอได้ยิน หานมู่จื่อก็ขมวดคิ้ว
“เธอยังพอมีเงินอยู่นิดหน่อย แต่เธออยากจะซื้อบ้านใกล้โรงเรียนไม่ใช่เหรอ? ราคาห้องแถวนั้นแพงขนาดนั้น เงินนี้ของเธอไม่พอแน่นอน ตอนนี้บริษัทมีเงิน แต่พวกนั้นเป็นเงินทุนของบริษัท หรือว่า...”
“ไม่ได้” เสี่ยวเหยียนไม่ทันพูดจบก็ถูกหานมู่จื่อพูดตัดบท: “ใช้เงินของบริษัทไม่ได้”
“เธอเป็นอะไรไป? ฉันคิดว่าเงินพวกนั้นพอที่จะซื้อห้อง จู่ๆ เธอถามเรื่องนี้ทำไม?”
หานมู่จื่อมองเสี่ยวเหยียนแวบหนึ่ง หลังจากนั้นพูดในสิ่งที่ทำให้คนตกใจ
“ฉันต้องการยกเลิกสัญญา”
“อะไร?” เสี่ยวเหยียนคิดว่าตัวเองฟังผิดแล้ว “ยกเลิก ยกเลิกสัญญา? หมายความว่าอย่างไร? ยกเลิกสัญญากับเย่โม่เซิน?”
“อืม” หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ดังนั้นฉันต้องคำนวณสักหน่อย ถ้ายกเลิกสัญญาพวกเราต้องชดใช้ประมาณเท่าไหร่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่