เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 662

สรุปบท บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

ตอน บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก จาก เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ที่เขียนโดย สือหวู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 661 ด้วยการจูบประทับริมฝีปาก

อีกทั้งเขายังได้ซื้อของขวัญเสร็จแล้ว และรอตัวเองอยู่ทางด้านนั้น เธอที่อยู่ทางด้านนี้กลับ......

คิดถึงฉากนี้ ในใจของหานมู่จื่อก็เริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมา เธอได้คิดและกัดริมฝีปากไว้ ใจลอยไปถึงตอนที่ได้พบกับเย่โม่เซิน เอาเรื่องจริงบอกกับเขาไปก็ได้แล้วดีไหม

แต่ว่า......หลังจากพูดล่ะ?

อ้างอิงจากอารมณ์ของเขาแล้ว เขาจะโกรธอย่างกะทันหันไหม หลังจากนั้นก็ไม่สนใจตัวเองแล้ว?

หานมู่จื่อปวดหัว จากนั้นก็ได้ยื่นมือออกมาบีบแล้วบีบอีกไปยังหัวคิ้วของตัวเอง และได้ถอยอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจนปัญญา

“เป็นแฟนหนุ่มโทรศัพท์ให้เธอใช่ไหม?” คุณอาได้มองเธอแล้วทีหนึ่ง และตัดสินใจคุยเล่นกับเธอไปกี่ประโยค

หานมู่จื่อไม่มีชีวิตชีวาอะไร และได้พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกด้วยความหดหู่ไม่มีชีวิตชีวา

ถ้าเช่นนั้นแฟนของเธอก็สนใจเธอดีนี่ เพียงแต่ว่าที่รถติดนี้ก็คือไร้หนทาง

“อืม”

เพราะว่าหานมู่จื่อไม่มีจิตใจที่จะพูดกับเขาจริงๆ ดังนั้นคุณอาก็ไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมทำให้ตัวเองอับอายอีกแล้ว รถได้เคลื่อนย้ายไปทางด้านหน้าทีละครั้งทีละครั้ง หานมู่จื่อรอจนหงุดหงิดแล้ว ทำได้เพียงพิงหลับตาพักผ่อนอยู่ตรงนั้น

ก็ไม่รู้ว่าตอนไหน นึกไม่ถึงว่าเธอได้หลับไปแล้ว และได้ยินเสียงคุณอาเรียกเธอเสียงหนึ่ง เธอถึงได้ตื่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“ใกล้ถึงแล้ว”

หานมู่จื่อมองไปทางด้านนอกแล้วทีหนึ่ง และได้พบว่าสิ่งปลูกสร้างบริเวณรอบไปเปลี่ยนไปจนคุ้นเคยขึ้นมา จากนั้นก็ได้ขยี้ตาไปมา และได้พบว่าทุกทิศทางก็ได้มืดลงมาแล้ว รถไปราบรื่นไปทางด้านหน้า และได้ค่อยๆเข้าใกล้ชุมชน

ที่ไกลออกไป หานมู่จื่อได้เห็นถึงเงาของคนหนึ่งที่สง่าสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงประตูชุมชน รูปร่างที่สูงและตรงได้ดึงดูดสายตาของคนที่ได้จับจ้องไปเข้ามาไม่น้อย

เพราะว่าได้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้ว ดังนั้นไฟทางของประตูชุมชนก็ได้สว่างแล้ว เงานั้นก็ได้ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงประตู เงาที่อยู่ไกลออกไปถูกไฟทางได้ลากจนยาวมากยาวมาก แสงไฟสีเหลืองสลัวได้ตกไปอยู่บนตัวของเขาราวกับว่าให้คนนี้มีรัศมีมากหนึ่งชั้น ทำให้ลายเส้นของเย่โม่เซินก็ได้ดูเหมือนอ่อนโยนขึ้นมา

หานมู่จื่อมองฉากนี้ไว้ ทันใดนั้นจมูกก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีความตื้นตันใจอยู่หน่อย

เธอได้เม้มริมฝีปากแล้วเม้มอีก หลังจากที่รอรถจอดก็ได้เปิดประตูรถเดินเข้าไปทางเย่โม่เซิน

ได้ยินเสียงดังขึ้น หน้าด้านข้างของผู้ชายที่สง่าก็ได้ขยับแล้วขยับอีก หลังจากนั้นก็ได้มองเข้ามาทางเธอ

เดิมทีลูกตาดำที่ดำมืดหลังจากที่ได้เห็นถึงเธอแล้ว ในสายตาก็ได้มีสีสันสว่างเพิ่มมากขึ้นแล้ว ไม่ได้รอให้หานมู่จื่อเดินเข้าไปเย่โม่เซินก็ได้เดินก้าวเท้ายาวๆมาถึงตรงหน้าเธอแล้ว หลังจากนั้นก็ได้กุมมือเล็กๆเย็นๆของเธอเอาไว้

“เย่……”

เพิ่งจะเรียกหานมู่จื่อแค่คำเดียว ก็ได้ถูกเย่โม่เซินลากเดินเข้าไปทางด้านในของชุมชน เธอไม่ทันได้มีท่าทีโต้ตอบ ก็ได้ประมาณว่าเป็นเพราะว่าใจอ่อน ดังนั้นจึงทำได้เพียงเดินตามอยู่ทางด้านหลังของเขาไว้ ม่านตาได้ห้อยลงมองฝีเท้ากับเงาของคนทั้งสองด้านล่างไว้ด้วยสติปัญญาเดี๋ยวหลุดเดี๋ยวโผล่

จนกระทั่งได้เข้าไปในลิฟต์แล้ว เย่โม่เซินยังคงไม่ได้พูดอะไรกับเธอแม้แต่ประโยคเดียว และได้มีจิตใจเคร่งขรึมในการยืนอยู่ตรงนั้น หานมู่จื่อสามารถรู้สึกได้ถึงไอเย็นที่เบาบางที่ได้บุ่มบ่ามออกมาจากบนตัวของเขา ยังมี......ความโกรธ

เธอได้กัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้มือของตัวเองได้ถูกเขาจับไว้แน่น แต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

จนถึงตอนออกจากลิฟต์ หานมู่จื่อได้ถูกเขาลากไว้เดินออกไปด้วยกันแล้ว หานมู่จื่ออดไม่ได้แล้ว จากนั้นก็ได้เงยหัวขึ้น: “เย่โม่เซิน ฉัน......”

คำพูดยังพูดไม่จบ คนนั้นตรงด้านหน้าก็ได้หมุนตัวเข้ามาอย่างกะทันหัน นำเธอกดอยู่บนกำแพงทางด้านหลัง หลังจากนั้นก็ได้กดเข้ามาแล้ว

“วู”

ตรงหน้าได้ดำลง ริมฝีปากของหานมู่จื่อได้ถูกปิดไว้แล้ว

จูบของเย่โม่เซินก็แทบจะตกลงมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ริมฝีปากที่ร้อนแผดเผาได้พลิกไปพลิกมาทีละรอบอยู่ที่เธอ มือใหญ่ๆข้างหนึ่งได้กลัดอยู่บนเอวที่เล็กๆบางๆ มืออีกข้างหนึ่งก็ได้คลึงอยู่ด้านบนคางของเธอ งัดริมฝีปากและกัดของเธอให้เปิดออก

หานมู่จื่อได้มีท่าทีโต้ตอบเข้ามา และได้กระซิกๆคิดที่จะผลักเขาออก ไม่ขยับก็ยังดี เมื่อขยับก็เหมือนกับคือเป็นสัมผัสกับการกลับหัวของท่อนนั้นของเย่โม่เซินแล้ว ร่างกายที่หนักของเขาได้กดเข้ามา หานมู่จื่อรู้สึกว่าหลังของตัวเองได้ถูกกดบีบแน่นไว้ เดิมทีเสื้อเชิ้ตบางๆก็ขวางความเยือกเย็นของกำแพงไว้ไม่ได้

ความเยือกเย็นของหลังกับความร้อนทางด้านหน้าล้วนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จูบของผู้ชายทั้งโหดทั้งเหี้ยม นำเธอโจมตีจนไม่มีที่ที่จะหลบได้

ท่าทางกับแววตาแบบนี้......

กล่องเสียงของเย่โม่เซินได้เดือดพล่าน น้ำเสียงก็ยิ่งมีเสียงแหบแล้ว

“ได้ รับปากเธอ”

ชีวิตก็สามารถให้เธอได้ ยังมีอะไรไม่สามารถรับปากได้

“นายรับปากแล้วจริงๆ?” ดูเหมือนว่าหานมู่จื่อจะมีความไม่กล้าที่จะเชื่ออยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้ก็ได้ยืนยันกับเขาอีกรอบ: “ถ้าเช่นนั้นฉันพูดแล้วนานห้ามโกรธนะ ฉัน......ได้พบกับเย่หลิ่นหานแล้ว......”

ตอนที่พูดถึงชื่อนี้ หานมู่จื่อรู้สึกว่าลมหายใจของคนตรงหน้าได้เย็นลงมาแล้วโดยฉับพลัน

เธอได้รีบเปลี่ยนคำพูด: “นายพูดแล้วว่าไม่โกรธ ห้ามคืนคำ”

เมื่อเย่โม่เซินได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทำได้เพียงกดความโกรธไว้อยู่ในใจ และได้มองคนตรงหน้าไว้: “หลังจากนั้นล่ะ?”

“หลังจากนั้น......ดูเหมือนว่าเขาป่วยแล้ว ฉันก็เลยเรียกรถพยาบาล นำเขาส่งไปถึงโรงพยาบาลแล้ว”

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ความโกรธสุดขีดของเย่โม่เซินได้กลับกลายเป็นยิ้ม และเป็นรอยยิ้มของความถากถาง: “ ดังนั้นเธอก็เลยไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนแล้ว?”

หานมู่จื่อรีบร้อนส่ายหัว “ฉันไม่ได้ไปเป็นเพื่อนด้วยกัน ฉันคือภายหลังได้เรียกรถไป อย่างไรเสียเขาก็ได้ล้มลงอยู่ตรงหน้าฉัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่อาจจะไม่สนใจไยดีได้ใช่ไหม? เพียงแต่ว่าฉันสามารถรับประกันกับนานได้ ก็แม้ว่าที่ล้มอยู่บนพื้นวันนี้เป็นคนผ่านทางคนหนึ่ง ฉันก็จะไปดูเขาที่โรงพยาบาล ยิ่งไม่ต้องพูดถึง......”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ลังเลแล้วครู่หนึ่ง สายตาของเย่โม่เซินได้หรี่ขึ้น “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอะไร?”

“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉันกับเขารู้จักกัน หากว่าแม้ไปดูก็ไม่ไปดูสักหน่อย ถ้าเช่นนั้น......ก็ไม่สมเหตุสมผลไม่สามารถอธิบายได้แล้วใช่ไหม?”

“เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ก็แม้ไม่ไปดู เขาก็ไม่สามารถเอาเธอมาทำยังไงได้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์ว่าเธอ”

“แต่ว่าฉันก็ได้เห็นเขาล้มลงตรงหน้าของฉันอย่างชัดเจน ฉันทำไม่ได้ นายเข้าใจฉันได้ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่