บทที่691 ผลงานชิ้นเด็ด
เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว หานมู่จื่อไม่ทันได้คิดถึงเรื่องอื่นให้ละเอียด ก็ได้ให้ลุงหลินเลี้ยวกลับไป
“คุณนายน้อย จะไปตอนนี้เลยมั้ยครับ?”
“ใช่ค่ะ” หานมู่จื่อพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง เธอต้องไปดูที่หน้าประตูโรงเรียนเพื่อดูสักหน่อยว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ถ้านักข่าวล้อมรอบหน้าประตูโรงเรียนเอาไว้ เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเสี่ยวหมี่โต้วจะได้รับผลกระทบอะไรพวกนั้นหรือเปล่า
เมื่อลุงหลินเห็นเธอมีสีหน้าจริงจังออกมา ก็รีบขับมุ่งหน้าออกไปในทิศทางเป้าหมายที่เธอเอ่ยถึง
สิ่งที่ทำให้หานมู่จื่อรู้สึกผิดคาดขึ้นมาก็คือ ตอนที่ถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้วนั้น กลับพบว่าตรงด้านหน้าประตูโรงเรียนกลับเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีนักข่าวแม้แต่คนเดียว
หานมู่จื่อเกิดความแปลกใจขึ้นมา ทั้งๆที่หน้าประตูบริษัทของเธอยังถูกล้อมรอบจนแน่นเสียจนแม้แต่น้ำสักหยดก็ผ่านเข้าไปไม่ได้ขนาดนั้น แต่หน้าประตูโรงเรียนแห่งนี้กลับไม่มีนักข่าวแม้แต่คนเดียว นี่มันเรื่องอะไรกัน?
คิดอยู่ได้สักพัก จากนั้นหานมู่จื่อก็ได้เอ่ยออกมาว่า “ก็คงจะไม่มีอะไรแล้ว ไปบริษัทตระกูลเย่กันเถอะ”
“ครับ คุณนายน้อย”
หลังจากที่เดินทางมาถึงบริษัทตระกูลเย่นั้น หานมู่จื่อก็พบว่าบริเวณใต้ตึกบริษัทตระกูลเย่ ก็ไม่มีนักข่าวเลยเช่นเดียวกัน
เธอวิ่งวุ่นไปมาแล้วสามที่ตลอดทั้งเช้านี้ มีเพียงแค่หน้าประตูบริษัทของตนที่ถูกล้อมเอาไว้เสียจนแน่นหนา นี่มันทำไมกัน? หรือเธอดูน่ารังแกนักรึไง?
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ความคิดนี้ถึงได้ผุดขึ้นมาในหัว ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะว่านักข่าวพวกนั้นไม่กล้าเข้าไปยั่วอารมณ์เย่โม่เซินสินะ ก็เลยวิ่งกรูกันมายังบริษัทของเธอแทน
“คุณนายน้อย ต้องการจะโทรหาคุณชายเย่หรือเปล่าครับ?”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันขึ้นไปหาเขาเองดีกว่า ลุงหลิน วันนี้ลำบากคุณลุงแล้วที่ไปโน่นมานี่กับฉันตั้งหลายรอบ คุณลุงกลับไปพักก่อนเถอะ”
ลุงหลินคิดอยู่สักพักนึง ในเมื่อหานมู่จื่อจะต้องไปหาเย่โม่เซิน งั้นเขาจะอยู่ตรงนี้ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นก็เลยพยักหน้าตอบรับออกไป “ครับ คุณนายน้อย ถ้าคุณนายน้อยต้องการเรียกใช้ก็ค่อยโทรเรียกลุงหลินนะครับ”
“ขอบคุณนะคะลุงหลิน”
หลังจากที่ลุงหลินขับรถออกไป หานมู่จื่อก็เดินเข้าไปในบริษัทตระกูลเย่ตามลำพัง
แต่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่ามีเหล่าปาปารัสซีกำลังแอบซุ่มอยู่ห่างๆในมุมมืดที่ไม่ไกลออกไป คนที่กำลังซุ่มอยู่ตรงนั้น ความจริงแล้วมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เยอะเท่ากับที่หน้าบริษัทของหานมู่จื่อขนาดนั้น
ทางด้านของกลุ่มพวกที่กำลังหลบกันอยู่ในมุมลับ
“เห็นหรือเปล่า? ฉันบอกพวกนายแล้วว่าให้มาเตรียมดักรอกันอยู่ที่นี่ ไม่ผิดเลยเห็นมั้ยล่ะ? ในที่สุดคนที่อยากเจอก็มาแล้ว รีบถ่ายเร็ว”
“แม่ง ทำไมมันถึงเล็กขนาดนี้กันวะ? นี่มันถ่ายไปแล้วจะเอาไปตีพิมพ์ยังไงเนี่ย? มองไม่ชัดเลย มือที่จับกล้องก็อย่าสั่นสิวะ”
“นายตาบอดหรือไง? มือฉันสั่นที่ไหนกัน คนเล็กเกินไปต่างหาก ตำแหน่งนายก็เป็นคนเลือกเองนี่ เลือกที่ถ่ายมาอย่างนี้แล้วจะให้ฉันถ่ายยังไง?
“แม่งเอ๊ย!”
คนกลุ่มนี้หลบกันอยู่ตรงบริเวณที่ไกลออกมาจากหน้าประตูใหญ่พอสมควร นึกโมโหกันขึ้นมากันแบบสุดๆ “ไกลขนาดนี้ ถ่ายไปมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี แล้วภาพที่เห็นหน้าชัดๆก็ยังไม่มีอีก แม่งเอ๊ย! ทำไมบริษัทตระกูลเย่มันถึงต้องน่ากลัวขนาดนี้กัน?”
หานมู่จื่อที่เข้าไปในตัวอาคารไปแล้วไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องนี้เลย เธอไม่คุ้นเคยกับที่นี่นัก คิดจะมาหาเย่โม่เซินก็เข้ามาอย่างไม่คิดอะไรมากมาย
แต่ทว่าถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ไม่ใช่คนของบริษัทนี้ ดังนั้นก็เลยยังต้องทำตามหลักของแขกผู้มาเยือน จึงได้เดินมุ่งหน้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที
แผ่นโปสเตอร์แขวนติดอยู่เป็นเวลานาน พนักงานทั้งหลายของบริษัทตระกูลเย่ต่างสุมหัวเมาท์มอยกัน อีกทั้งในตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตยังเต็มไปด้วยข่าวของเย่โม่เซินกับหานมู่จื่อทั้งนั้น
ดังนั้นแล้วในตอนที่หานมู่จื่อเดินเข้าไปยังด้านหน้าประชาสัมพันธ์นั้น ตอนที่พนักงานประชาสัมพันธ์กำลังเตรียมที่จะเอ่ยถามว่าเธอได้นัดเอาไว้ก่อนหรือเปล่านั้น ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาก็พบว่า...
นี่ไม่ใช่ว่าที่คุณนายแห่งบริษัทตระกูลเย่หรือนี่? ไหนเลยจะกล้าถามอะไรมากมายล่ะ เอ่ยออกมาเสียงดังทันที “คุณนายน้อยเย่”
ทันทีที่หานมู่จื่อมาถึงคำพูดที่เตรียมจะพูดออกไปได้ถูกอีกฝ่ายทำให้เธอต้องเก็บกลับไปเสียอย่างนั้น จากนั้นก็มองอีกฝ่ายไปอย่างอึ้งตะลึง
“ทำไมเธอ...ถึงรู้...”
“คุณนายน้อยเย่ มาหาคุณชายเย่ใช่มั้ยคะ? ฉันนำทางไปเองค่ะ ทางนี้เป็นลิฟต์ส่วนตัวของท่านประธาน คุณนายน้อยเย่ขึ้นลิฟต์ตัวนี้ไปมันเร็วที่สุดแล้วค่ะ”
พูดจบก็อาสาเข้าไปกดลิฟต์ให้กับเธอจนเสร็จสรรพ ในตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออกนั้นก็ยังเอ่ยเสียงนอบน้อมออกมาว่า “คุณนายน้อยเย่ระวังค่ะ”
มุมปากของหานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย “ขอบคุณเธอนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่