บทที่822 ใครกล้าวิจารณ์คุณในทางไม่ดี
แย่แล้ว
เธอจะอธิบายยังไงดี
จะบอกกับเขาที่ความจำเสื่อมไปตรงๆ ว่าคุณตาของคุณอาจจะไม่ยินยอมให้พวกเราอยู่ด้วยกัน ฉันก็เลยต้องปกปิดเรื่องของพวกเราไว้ ไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ
เย่โม่เซินคงจะคิดว่าเธอเป็นบ้า
คิดไปคิดมา สุดท้ายหานมู่จื่อก็ได้แต่พูดด้วยท่าทางน่าสงสาร “ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทไม่กี่วัน ถ้าเดินออกมาพร้อมกับคุณ แล้วทุกคนเห็น พวกเขาจะคิดยังไงกับฉันล่ะคะ”
แต่เย่โม่เซินกลับคิดไปแล้วว่าเธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขากำลังคบกันอยู่ ในใจรู้สึกโมโหเล็กน้อย พอได้ยินที่เธอพูด เขาก็ยังนั่งนิ่ง สีหน้าของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม
หานมู่จื่อได้แต่ยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของเขาไว้ “หรือคุณอยากจะเห็นฉันถูกคนอื่นพูดวิจารณ์ไปในทางไม่ดีคะ”
เย่โม่เซินขับรถไปด้วยมองมือขาวนุ่มของเธอไปด้วย มือคู่นั้นเล็กแค่นิดเดียว แค่เขาง้างมือก็สามารถกุมไว้แล้ว คิดได้แบบนี้ สีหน้าบึ้งตึงของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมาหลายส่วน แววตาที่มองเธอก็ไม่เย็นชาเหมือนเมื่อตะกี้แล้ว แต่ความไม่พอใจยังคงมีเหลืออยู่เล็กน้อย
ถนนสายนี้ไม่ค่อยมีคน เย่โม่เซินจึงจับพวงมาลัยรถมือเดียว ส่วนมืออีกข้างยื่นมือออกไปคว้ามือของหานมู่จื่อมากุมไว้
มือขาวนุ่มนิ่มถูกฝ่ามือใหญ่ของเขากุมไว้ เย่โม่เซินมองทางไปด้วยบีบมือของเธอเล่นไปด้วย “ใครกล้าวิจารณ์คุณในทางไม่ดี ก็ถือว่าไม่ให้เกียรติผม พนักงานทุกคนในบริษัท คนที่คิดจะมีปัญหากับผมจะมีสักกี่คนกัน”
หานมู่จื่อ “…”
น่าจะไม่มีใครกล้าเลยมั้ง
ใครจะกล้ามีปัญหากับเจ้านายตัวเองกัน ถ้าทำอย่างนั้นก็ถือว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง หานมู่จื่อคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดแบบนี้ ภายในใจรู้สึกอบอุ่นมาก
เธออดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้นมา “พวกเขาไม่กล้าพูดต่อหน้าคุณ แต่ก็สามารถลับหลังคุณได้นี่คะ”
บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพทหารนับหมื่นหรือพายุกระสุนก็มีวิธีป้องกันได้ จะมีก็แต่คำนินทาที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถห้ามได้
และเรื่องนี้ ผลกระทบมันรุนแรงยิ่งกว่าสองเรื่องแรกมาก
เป็นไปตามที่คาด หลังจากที่เย่โม่เซินได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็ขมวดคิ้วขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเม้มปากอยู่ ทำให้เส้นเลือดตรงปลายคางปูดขึ้นมาชัดมาก
“เมื่อตะกี้ฉันแค่พูดไปเรื่อยเท่านั้นเองค่ะ คุณไม่ต้องเอามาใส่ใจ คนอื่นจะพูดอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉัน และฉันเองก็ไม่ได้สนใจคำพูดนินทาพวกนั้นด้วย”
ที่เธอใส่ใจ มีแค่เขาเท่านั้น
แต่เธอกลับบอกกับเขาไม่ได้ ว่าคุณตาของคุณอาจจะไม่ยอมให้พวกเราคบกัน ดังนั้นพวกเราจะให้คุณตาของคุณรู้เรื่องนี้ไม่ได้
เฮ้อ
ถึงแม้หานมู่จื่อจะบอกว่าไม่ใส่ใจ แต่คำพูดพวกนี้กลับแทรกลึกเข้าไปในกระแสเลือดและกำลังเข้าไปจู่โจมในหัวใจของเขา เย่โม่เซินจะจำคำพูดพวกนี้ไว้
เย่โม่เซินขับรถไปส่งเธอที่หน้าคอนโด เขานึกขึ้นได้ว่าวันนี้ยู่ฉือจินบอกให้เขากลับไปที่บ้านเร็วๆ ท่านมีเรื่องจะคุยกับเขา
แต่กลับได้ยินหานมู่จื่อพูดขึ้นมาซะก่อน “เดี๋ยวเราไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกันนะคะ ตู้เย็นในบ้านเราไม่มีของแล้ว”
ในบ้านเราอย่างนั้นเหรอ
เย่โม่เซินมองหน้าเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
“ได้ครับ”
หลังจากเดินลงจากรถ ทั้งสองคนก็เดินขึ้นไปบนห้อง และเจอเข้ากับเจ้าของตึกที่กำลังจะพาสุนัขออกไปเดินเล่นพอดี
หานมู่จื่อคิดในใจ ทำไมเจ้าของตึกถึงได้ออกมาได้เหมาะเจาะขนาดนี้
เวลาเจอกัน ทำไมมันถึงได้บังเอิญเหมาะเจาะกันขนาดนี้ ทุกครั้งที่เจอกับเจ้าของตึกถ้าไม่ใช่ตรงหน้าประตู ก็มักจะเจอกันในลิฟต์
“มู่จื่อ พาแฟนกลับมาด้วยอีกแล้วเหรอ พวกคุณสองคนดูรักกันมากเลย”
เจ้าของตึกกล่าวทักทายหานมู่จื่ออย่างเป็นกันเอง พอพูดเสร็จก็มองไปทางเย่โม่เซินเล็กน้อย ช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆเลย ตัวเองหน้าตาก็สวย อีกทั้งยังมีแฟนที่หน้าตาหล่อเหลาอยู่ข้างกายแบบนี้
หานมู่จื่อยิ้มแหย ตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอกลับรู้สึกถูกคนข้างๆกอดเอวไว้ซะก่อน หลังจากนั้นเธอก็เห็นว่าเย่โม่เซินผงกหัวทักทายเจ้าของตึก ก่อนจะเรียกเธอไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่