เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 850

บทที่849 เจอกันอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าความหมายจะสื่อออกไปอย่างนั้น แต่พี่หลินก็ไม่อาจพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังอย่างนั้นออกไปได้

เธอยิ้มออกไปเล็กน้อย “บริษัทของเราเพียงแค่ไม่อยากลำบากคุณหนูตวนมู่เพียงเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้คุณเข้ามาทำงานที่บริษัทเรานะคะ”

ตวนมู่เสว่สะบัดมือออกไป ท่าทางประจบสอพลอที่ดูสุภาพอ่อนโยนเมื่อสักครู่ได้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย “ฉันไม่ได้กลัวลำบาก จัดตำแหน่งอะไรตามใจพี่มาให้ฉันก็ได้ คุณปู่ยู่ฉือไม่ได้บอกพี่ไปแล้วหรือไง? ทำไมพี่ถึงทำอย่างนี้อีก? ก็แค่จัดตำแหน่งให้ฉันสักอย่างเท่านั้นเองไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย”

คำพูดออกมาได้อย่างไม่ถูกใจผู้ฟังนัก พี่หลินขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย พร้อมเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ถ้าคุณหนูตวนมู่คิดว่าการตั้งตำแหน่งขึ้นมาชั่วคราวให้กับคุณหนูมันง่ายขนาดนั้น ก็เชิญกลับไปตั้งที่บริษัทตระกูลตวนมู่ของคุณเถอะค่ะ อย่าว่าแต่ตำแหน่งทั่วๆไปเลย แม้แต่ตำแหน่งในผู้บริหารระดับสูงเองคุณหนูตวนมู่อยากจะจัดตั้งยังไงก็สามารถทำได้ตามต้องการ ฉันคิดว่า บริษัทของพวกคุณไม่มีทางมีใครกล้าว่าอะไรหรอกค่ะ”

“...เธอพูดออกมาได้ยังไง?” ตวนมู่เสว่ถลึงตาออกมา มองพี่หลินไปอย่างโกรธเกรี้ยว “เธอคิดว่าเธอเป็นผู้อาวุโสที่ทำงานมานาน มีอายุมากกว่าหน่อยแล้วกล้ามาแนะนำฉันงั้นหรอ? ฉันเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวนมู่ เป็นคนที่คุณปู่ยู่ฉือเรียกเข้าบริษัทมาด้วยตัวเอง เธอกล้าพูดอย่างนี้กับฉันงั้นหรอ!”

พี่หลินเลิกตาขึ้นมอง เธอไม่ใช่คนที่เกรงใจใคร จึงเอ่ยเสียงเรียบเย็นออกไปว่า “ที่คุณพูดมามันก็ไม่ผิด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตวนมู่ แต่ฉันไม่ใช่คนบริษัทตระกูลตวนมู่ของพวกคุณ ฉันเป็นเลขาของท่านประธาน ฟังคำสั่งของท่านประธานเพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าคุณหนูตวนมู่มีปัญญา ก็ให้ลองไปหานายท่านดูว่าสามารถจัดตั้งสักตำแหน่งนึงที่มีอำนาจมากกว่าท่านประธานเพื่อมาควบคุมฉันเถอะค่ะ”

ตวนมู่เสว่ “...”

หานมู่จื่อที่ยืนอยู่ข้างๆช็อกอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าพี่หลินจะพูดวาจาเผ็ดร้อนได้ถึงขนาดนี้ ดูสิเนี่ยทำเอาอีกฝ่ายพูดไม่ออกเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะตนที่เป็นต้นเหตุให้ตวนมู่เสว่อยากเข้ามาทำงานในบริษัท

เรื่องวุ่นวายนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เธอก่อขึ้นมาด้วยเหมือนกัน ให้พี่หลินออกหน้าเองตลอดก็ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว หานมู่จื่อจึงเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกไป ทิ้งคำพูดออกไปด้วยเสียงเบาหวิว

“ฉันว่าเธอกลับไปเสียเถอะ ถึงยังไงคุณหนูใหญ่แห่งตวนมู่ผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะใช้เส้นสายแล้วก็ยังไม่สำเร็จ ไม่ลองเผชิญหน้าใช้ความสามารถตัวเองเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยดูล่ะ? บางที เธออาจจะยังมีโอกาสก็ได้?”

คำพูดพวกนั้นแน่นอนว่าเธอตั้งใจพูดออกไป ภาพจำที่เธอมีต่อตวนมู่เสว่นั้นแย่มาก รู้ทั้งรู้ว่าเธอกับเย่โม่เซินรักกัน แต่กลับยังอยากจะแทรกเข้ามาอีก

เธอพูดออกมาอย่างดีว่าเป็นการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม แต่อันที่ไม่น่าฟังเลยนั่นก็คือความจริงแล้วมันอยู่ที่เธอคิดที่แย่งชิงของของคนอื่นไปต่างหาก

แย่งของของคนอื่นยังไงมันก็คือแย่ง ทำไมยังจะต้องพูดให้ตัวเองดูดีเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างนั้นอีก?

ถ้าเธอกล้ายอมรับว่าตัวเองกำลังแย่งคนรักของคนอื่น อย่างนั้นแล้วหานมู่จื่อก็คงอาจจะคิดว่าเธอคนนี้ช่างตรงไปตรงมาเสียจริง กล้าทำกล้ารับ แต่เธอกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะยอมรับออกมาเลยด้วยซ้ำ

ไม่เพียงแต่จะไม่มีความกล้าที่จะยอมรับออกมา คำพูดของเธอก็ยังคอยพูดให้ร้ายคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างนั้นแล้วเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกรงใจเธออีก

และก็เป็นไปอย่างที่คิด ตวนมู่เสว่ที่เดิมทีก็กลัดกลุ้มหาที่ระบายอารมณ์โกรธเกรี้ยวของตัวเองไม่ได้ พอดีกับหานมู่จื่อที่ได้ปรากฏตัวออกมาพอดี เธอจึงใช้สายตาเกลียดชังมองไปยังหานมู่จื่อ เอ่ยออกไปอย่างจงเกลียดจงชัง “เธออย่ารีบดีใจไปก่อนเลย พี่เซินเป็นของฉัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ใกล้ตัวเขา เธอก็ไม่อาจได้คบกับเขา ขอเพียงแค่เขาเป็นคนของตระกูลยู่ฉือ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องแต่งงานกับฉัน ถึงตอนนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นตอนไหนเธอก็ไม่ใช่อยู่ดี ถ้าฉันไม่ใช่เธอ ก็ควรจะรู้จักประเมินตัวเอง แล้วรีบไสหัวออกไปจากที่นี่เสีย”

หานมู่จื่อมองเธอไปด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ เอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม “ด้วยคำพูดเดียวกันนั้นฉันขอแย้งสักประโยคแล้วกัน ว่าถ้าเธอรู้จักประเมินตัวเองบ้าง ก็รีบกลับไปจัดตั้งตำแหน่งงานที่บริษัทของพวกเธอเถอะ มาก่อเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ต่อไปอีก ชื่อเสียงของตระกูลตวนมู่ของคุณใกล้จะถูกคุณทำลายย่อยยับไปแล้วนะคะ”

“เฮอะ ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

ตวนมู่เสว่ยกชายกระโปรงขึ้นผันร่างเดินออกไป ในตอนที่เดินออกไปนั้นก็ได้จ้องมองหานมู่จื่อไปอย่างเอาเป็นเอาตาย

สายตาที่ทั้งโหดเหี้ยมและทั้งดุร้ายคู่นี้ เหมือนอย่างกับงูพิษที่กำลังแลบลิ้นออกมา ทำให้รู้สึกได้ถึงความอันตราย

ภายในใจของหานมู่จื่อชะงักกึก แต่ก็กลับมาสงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เธอเดินออกไป พี่หลินก็เดินเข้ามา “เมื่อกี้นี้ให้ฉันพูดกับหล่อนเองก็ได้ ไม่มีอะไรแล้วเธอออกมาหาเรื่องใส่ตัวไปทำไมกัน?”

พูดจบ พี่หลินถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หานมู่จื่อมองเธอเล็กน้อย “พี่หลิน ฉัน...”

“เธออะไร? ฉันเป็นเลขาของบริษัท แล้วยังแก่กว่าตั้งหลายปี ถึงแม้ว่าหล่อนจะโกรธแค้นแค่ไหนก็ไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก แต่กับเธอ? หล่อนมองเธอเป็นศัตรูหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอก็ยังเป็นศัตรูหัวใจกันจริงๆอีก ฉันได้กลิ่นบรรยากาศที่คุขึ้นมาแล้วสิ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่