บทที่ 100 ฝึกการโคจรพลังแค่วันเดียวได้อย่างไร?
“รับทราบครับ” ซูเย่พยักหน้า และกอดหมวกเอาไว้แนบอก “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องฝึกซ้อมหน้าตาเฉย
“ผู้กองครับ เด็กคนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อซูเย่เดินออกไปแล้ว เสี่ยวจุนถึงได้ขยับเท้าเข้ามาสอบถามหวังเหาพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย
หวังเหาหันกลับมาตอบเสียงเข้ม
“นายน่ะ มาฝึกกับฉันหน่อยสิ”
“ว่าไงนะครับ?”
เสี่ยวจุนมองหน้าผู้บังคับบัญชาของตนเองด้วยความสงสัย
“มาสู้กับฉันหน่อย ฉันอยากรู้ว่านายพัฒนาฝีมือไปถึงไหนแล้ว”
หวังเหาพูดออกไปอีกครั้ง
“ผมเก่งมากกว่าเดิมหลายเท่าแล้วนะครับ ถ้าผมเอาชนะได้ ผู้กองเลื่อนตำแหน่งให้ผมด้วยก็แล้วกัน!”
เสี่ยวจุนยิ้มกริ่ม และกระโดดเข้ามาบุกโจมตีโดยทันที
แต่เขาเพียงประชิดตัวหวังเหาได้เท่านั้น ผู้เป็นหัวหน้าก็ใช้นิ้วมือจิ้มลงไปที่ลำตัวของเสี่ยวจุน
“ตุบ”
เสี่ยวจุนล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
“คนเราจี้จุดกันง่าย ๆ แบบนี้ได้เลยเหรอเนี่ย?”
หวังเหาเบิกตามองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาแค่อยากลองใช้งานดูเล่น ๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถใช้ได้ผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง
“เอาล่ะ เราต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนรับทราบโดยเร็วที่สุด”
หวังเหาเดินออกไปจากห้องฝึกซ้อมโดยไม่สนใจลูกน้องที่นอนอยู่บนพื้นแม้แต่น้อย
“เอ่อ ผู้กองครับ…ผู้กองทำได้ยังไงเนี่ย?”
“กลับมาช่วยผมก่อนสิ ผู้กอง!”
เสี่ยวจุนยังคงไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ และทำได้เพียงส่งเสียงร้องตะโกนอยู่ในห้องฝึกซ้อมเท่านั้น
…
การจี้จุดบนร่างกายมนุษย์สามารถทำได้ง่ายดายจริงหรือ?
ซูเย่ยิ้มกริ่ม
การจี้จุดจะใช้ได้ก็แค่สำหรับคนที่ยังเปิดจุดลมปราณได้ไม่ครบถ้วนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เปิดจุดลมปราณได้ทั้งหมดแล้ว ต่อให้จี้จุดไปจนตายก็ไร้ประโยชน์
แต่วิธีการจี้จุดก็นับเป็นหนึ่งในวิชาการต่อสู้เช่นกัน โดยเฉพาะกับฝ่ายตรงข้ามที่ไม่รู้ว่าบนร่างกายมนุษย์มีจุดอ่อนเหล่านี้อยู่ด้วย นั่นก็ยิ่งเป็นข้อได้เปรียบของเขามากขึ้น
ซูเย่เดินถือหมวก VR กลับไปที่หอพัก
“กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว…”
ซูชือกับจินฟานที่ลงทุนลงมานั่งรอรับบนขั้นบันไดหน้าหอพักแสดงสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าซูเย่เดินถือหมวก VR กลับมาแล้ว
เมื่อทุกคนกลับเข้าไปอยู่ในห้องพักเรียบร้อย จินฟานก็ไม่ลืมที่จะล็อคประตูห้อง
“นี่…” ซูชือเดินยิ้มเข้าไปหาซูเย่พร้อมกับถามว่า “เป็นยังไงบ้างเพื่อน? อย่าโทษเราเลยนะที่ก่อนหน้านี้ไม่บอกอะไรนาย พอดีพวกฉันเซ็นสัญญารักษาความลับเอาไว้แล้วน่ะ นายก็คงต้องเซ็นเหมือนกันใช่ไหม”
“นั่นแหละประเด็นสำคัญ” จินฟานเดินเข้ามาขนาบข้างซูเย่ และตบไหล่เขาพร้อมกับยิ้มปลอบโยน “จากนี้ไป เราสามคนก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการแล้ว ไม่ว่ารู้ข้อมูลอะไร เราจะนำมาแบ่งปันกันทั้งหมด เพื่อนกันไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว สำหรับเรื่องที่พวกเราปิดบังนายก่อนหน้านี้ หวังว่านายคงไม่โกรธ…”
“ฉันไม่โกรธพวกนายอยู่แล้ว” ซูเย่ตอบกลับไปพร้อมยิ้มกว้าง “เรื่องแบบนี้ฉันจะโกรธพวกนายได้ยังไง อีกอย่างถ้าพวกนายบอกฉัน พวกนายก็ต้องเดือดร้อนน่ะสิ”
“ใช่ ๆๆ เห็นไหม ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องไม่โกรธพวกเราแน่”
ซูชือกับจินฟานพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที
“ฉันอยากกินกุ้งเผา เลี้ยงฉันหน่อยสิเพื่อน”
ซูเย่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ซูชือกับจินฟานพูดอะไรไม่ออก ได้แต่นิ่งอึ้ง
จะให้เลี้ยงกุ้งเผาอย่างนั้นหรือ
แบบนี้โกรธกันยังจะดีเสียกว่า!
…
เป็นเวลา 22:00 น.
ซูเย่สวมหมวก VR และเข้าสู่โลกแห่งเกม
จากคำแนะนำที่หวังเหาให้ไว้ก่อนหน้านี้ ซูเย่นึกว่าเมื่อเข้ามาแล้วเขาจะได้เห็นโลกแห่งเกมที่เปลี่ยนไป แต่ที่ไหนได้ สิ่งที่ซูเย่พบเจอก็คืออีเมลหนึ่งฉบับแบบที่เขาเคยได้รับตอนเล่นด้วยหมวกใบเก่าซึ่งขโมยมาครั้งที่แล้ว
นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
แต่ว่า
เมื่ออ่านอีเมลจบ ซูเย่ก็แกล้งทำเป็นฝึกโคจรพลังลมปราณตามคำแนะนำอยู่พักใหญ่
เพราะเขาทราบว่าหมวก VR ที่กำลังใช้งานอยู่ในขณะนี้คงฝังตัวแกะรอยพฤติกรรมผู้ใช้งานเอาไว้เป็นแน่แท้
ชายหนุ่มจึงต้องแกล้งฝึกไว้ก่อนเพื่อไม่ให้มีพิรุธ
หลังจากนั้นอีกพักใหญ่
ซูเย่ถึงได้เปิดดูลำดับคะแนนในปัจจุบัน
ปรากฏว่าผู้เล่นเกมที่สามารถเลื่อนขึ้นมาอยู่ในเลเวล 20 ได้สำเร็จ มีเกินกว่าหนึ่งล้านคน
ชายหนุ่มลองคำนวณอยู่ในใจ
“ถ้ามีคนอัพเลเวลขึ้นมาถึงระดับ 20 ได้สำเร็จหนึ่งล้านคน ก็ต้องมีหลายหมื่นคนที่เริ่มฝึกการใช้พลังลมปราณแล้ว ด้วยจำนวนผู้ฝึกยุทธ์ที่มากมายถึงขนาดนี้ ถือว่าน่ากลัวมากเกินไป ตกลงแล้วรัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”
ผู้คนที่ทำการรวบรวมพลังปราณธรรมชาติหลายหมื่นคนต่อวันย่อมทำให้พลังปราณบนโลกมนุษย์ลดน้อยลงมากกว่าเดิม นี่คือสิ่งที่คุ้มค่าแล้วอย่างนั้นหรือ?
ซูเย่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเข้าเล่นเกม Fantasy Dream ตอนนี้พุ่งทะลุ 100 ล้านคนไปแล้ว เดือนต่อไปจะต้องมีผู้เล่นที่เลื่อนระดับขึ้นมาอยู่ในเลเวล 20 ได้อีกจำนวนไม่น้อย และเมื่อประเมินว่ามีคนเล่นเกมนี้ทั้งประเทศ จำนวนผู้คนที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์ก็จะมากขึ้นโดยปริยาย
พลังปราณธรรมชาติจะเพียงพอหรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]