เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 103
สรุปบท บทที่ 103 ซูเย่รับคำท้า!: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]
อ่านสรุป บทที่ 103 ซูเย่รับคำท้า! จาก เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดย Internet
บทที่ บทที่ 103 ซูเย่รับคำท้า! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 103 ซูเย่รับคำท้า!
“สวัสดีครับอาจารย์ ศิษย์พี่”
เมื่อมาถึงที่หมาย ซูเย่ก็โค้งคำนับปรมาจารย์ฮัวเหรินเชิงและหลี่เคอหมิงศิษย์พี่ของเขา
“เสี่ยวเย่มาถึงแล้วหรือ?”
ปรมาจารย์ฮัวพยักหน้ารับรอยยิ้ม “มาเถอะ นั่งลง”
ซูเย่พยักหน้าเชิงขอบคุณและนั่งลงบนโซฟา
“ฉันได้ยินว่าเคอหมิงพูดว่านายฝังเข็มเก่งงั้นเหรอ?”
ทันทีที่ซูเย่นั่งลง ปรมาจารย์ฮัวก็เอ่ยถาม
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้า
“เอาล่ะ งั้นฝังเข็มให้ฉันหน่อย”
ปรมาจารย์ฮัวหยิบเข็มเงินชุดหนึ่งขึ้นมาแล้วยื่นให้ซูเย่
ซูเย่หยิบเข็มเงินและเริ่มฝังเข็มให้ปรมาจารย์ฮัวอย่างว่าง่าย เข็มเงินเข็มแรกแทงลงไป และเขาก็ได้ชี่*[1]ทันที
“ใช้ได้ ไม่เลว”
มีแววความประหลาดใจเล็กน้อยในดวงตาของปรมาจารย์ฮัว เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “ฝีมือการฝังเข็มของเธอดีมาก ดีกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”
“อาจารย์หมายความว่าอะไรหรือครับ?”
ซูเย่เอ่ยถามทั้ง ๆ ที่เขาเข้าใจแล้ว
“คำท้าของหลี่จื้อหง เธอไปได้”
ปรมาจารย์ฮัวพูดพร้อมรอยยิ้ม “แต่จำไว้หนึ่งประโยค ห้ามทำให้แพทย์แผนจีนอับอาย”
“ไม่ต้องกังวลครับ”
ซูเย่ยิ้มและพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“อืม”
ปรมาจารย์ฮัวยิ้มพลางพยักหน้า “ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันจะจัดการต่อเอง ตาเฒ่าแก่อย่างฉันก็ควรที่จะออกไปยืดเส้นยืดสายเสียบ้าง”
“ให้ผมไปเถอะครับอาจารย์”
หลี่เคอหมิงกล่าวอย่างรวดเร็ว
“ผมว่า อาจารย์กับศิษย์พี่คงไม่มีโอกาสนั้นหรอกครับ”
ซูเย่กล่าวทิ้งท้าย ทำให้ฮัวเหรินเชิงและหลี่เคอหมิงหัวเราะร่าอย่างเบิกบานใจ
……
เมื่อออกจากบ้านของปรมาจารย์ฮัว ซูเย่ก็เดินทางกลับมหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความถึงสองพี่น้องไป๋
‘ฉันไม่ได้เล่นเวยป๋อ ขอยืมเวยป๋อของเธอตอบกลับหลี่จื้อหงหน่อยได้ไหม บอกไปว่า แม้ว่าฉันจะเรียนแพทย์แผนจีนทีหลัง และระดับของฉันในวงการแพทย์แผนจีนถือว่ายังอ่อนด้อย แต่เนื่องจากการที่คุณหลี่จื้อหงเอ่ยชื่อชัดเจนขนาดนี้ ฉันก็จะรับคำท้าด้วยฐานะนักศึกษาแพทย์แผนจีน และถ้าฉันพิสูจน์ได้ว่าแพทย์แผนจีนมีผลจริง ขอให้คุณหลี่จื้อหงบริจาคเงินหนึ่งล้าน แต่ถ้าการพิสูจน์ของฉันล้มเหลว ฉันจะเป็นคนบริจาคหนึ่งล้านเอง!’
เนื่องจากตอนนี้สองสาวกำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์ และความนิยมของพวกเธอก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ การขอให้พวกเธอช่วยตอบจะทำให้ความนิยมในเรื่องนี้สูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูเย่รู้ว่าหลี่จื้อหงพยายามทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องราวใหญ่โตตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเจาะจงเลือกตัวเขา
และในเมื่ออีกฝ่ายต้องการทำให้เรื่องราวใหญ่โต งั้นเขาก็ขอพายเรือตามน้ำส่งเสริมอีกฝ่าย ทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกนิด!!
แบบนี้จะได้สนุกยิ่งกว่าเดิม!
……
สถาบันดนตรีซิงเหมิง
เมื่อได้รับข้องความจากซูเย่ สองสาวฝาแฝดก็ตกตะลึง
‘เขาจะรับคำท้าจริงเหรอ?’
สองพี่น้องส่งข้อความถามกลับ ‘นายมั่นใจนะ?’
‘อืม’
ซูเย่รับคำหนักแน่น ‘โพสต์อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ก็โอเคแล้ว’
‘โอเค ถ้านายมั่นใจก็ตามนั้น’
สองพี่น้องไป๋พิมพ์ข้อความโพสต์บนเวยป๋อทันที
‘ซูเย่ไม่สะดวกโพสต์เอง เราเลยช่วยโพสต์เวยป๋อแทนเขา คำตอบของซูเย่คือ ‘แม้ว่าผมจะเรียนแพทย์แผนจีนทีหลัง และระดับของผมในวงการแพทย์แผนจีนถือว่ายังอ่อนด้อย แต่เนื่องจากการที่คุณหลี่จื้อหงเอ่ยชื่อชัดเจนขนาดนี้ ผมก็จะรับคำท้าด้วยฐานะนักศึกษาแพทย์แผนจีน และถ้าผมพิสูจน์ได้ว่าแพทย์แผนจีนมีผลจริง ขอให้คุณหลี่จื้อหงบริจาคเงินหนึ่งล้าน แต่ถ้าการพิสูจน์ของฉันล้มเหลว ฉันจะเป็นคนบริจาคหนึ่งล้านเอง!’ เราสงสัยว่าผู้อาวุโสหลี่จื้อหงจะยอมรับหรือไม่?’
เมื่อเวยป๋อนี้ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน ก็ราวกับมีระเบิดลง
‘เดี๋ยวก่อนนะ ขนาดคำแถลงขอให้เทพธิดาของฉันเป็นคนส่ง? ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสามคนคืออะไร???’
‘นี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันสูญเสียความรัก จิตใจของฉันพังทลายลงอย่างสมบูรณ์’
ผู้ติดตามของสองพี่น้องไป๋ต่างคร่ำครวญ อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตที่สนใจเรื่องนี้อยู่ล้วนแต่ตามมาที่โพสต์ของสองพี่น้องไป๋อย่างรวดเร็ว
‘ซูเย่รับคำท้าจริง ๆ เหรอ เขาคู่ควรแล้วกับตำแหน่งแชมป์ของรายการอนาคตแพทย์แผนจีน เขาแข็งแกร่งพอแล้วจริง ๆ!’
‘บอกว่าระดับยังอ่อนด้อย แต่กลับท้าโดยใช้การบริจาคเงินหนึ่งล้านหยวนเป็นเดิมพัน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สุดยอด!’
‘ฮ่าฮ่าฮ่า เผือกลูกใหญ่ ๆ จ้า เผือกจ้าเผือก ม้านั่งเล็กแถวหน้าเตรียมจองที่ให้ดีนะ!’
ไม่นานแฟนคลับของซูเย่ก็ตามมา
‘ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ซูเย่ สู้เขา!’
‘เชื่อมั่นในตัวเอง นายคือแชมป์ นายทำได้แน่นอน!’
‘มาเถอะซูเย่ พวกเราจะเชียร์นายเสมอ!’
……
ยามนี้หลี่จื้อหงกำลังเพลิดเพลินกับการอาบน้ำพร้อมกับดื่มไวน์อยู่ในห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทระดับ 5 ดาวของโรงแรมนานาชาติย๋าเตี่ยนน่า
ห้องเพรสซิเดนเชียล สวีท ราคา 88,888 หยวนต่อคืน …ซึ่งถ้าปกติเขาคงจะไม่กล้าและไม่อยากมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่โรงแรมแบบนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้เงินของตัวเอง
เงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐที่ชายคนนั้นบอกไว้ ได้โอนเข้ามาที่บัญชีของเขาแล้ว
ในการเผชิญกับการต่อสู้ที่กำลังจะชนะ สนุกกับชีวิตเสียบ้างคงไม่เป็นไร
เมื่อเห็นคำตอบจากพี่น้องไป๋หลี่จื้อหงพลันยิ้มเล็กน้อย
“ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนขี้ขลาด!”
เขาจึงตอบกลับทันที ‘เจอกันพรุ่งนี้ สถานที่จะประกาศในภายหลัง’
เวลานี้ ชาวเน็ตต่างแตกตื่นยิ่งกว่าเดิม
‘พรุ่งนี้?’
‘สดชื่นดีจัง พรุ่งนี้มีเรื่องสนุกให้ดู!’
‘ฉันคิดว่าเขาจะยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เสียอีก ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะรับคำท้าเลยแบบนี้ ซูเย่ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ!’
……
“เสี่ยวเย่ เวยป๋อของสองพี่น้องไป๋นายเป็นคนบอกให้พวกเธอโพสต์จริงเหรอ?”
ทันทีที่ซูเย่เปิดปะตูห้องพัก ซูชือและจินฟานก็ล้อมเขาไว้ทันทีและถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
บางคนในวงการแพทย์แผนจีนคิดว่าซูเย่ทำได้
แต่ก็มีผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีนจำนวนมากที่ไม่คิดอย่างนั้น และเปี่ยมไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องชื่อเสียงของผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีน
“เรียนแค่ครึ่งปีก็ไปรับคำท้ามั่วซั่วเสียแล้ว”
“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการหลอกไปเชือด เป็นถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยมองไม่ออกหรือว่านี่เป็นหลุมพรางที่ชัดเจนขนาดนี้ ยังจะไปยอมรับคำท้าอีก”
“หลี่จื้อหงผู้นี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว เจาะจงเลือกนักศึกษาที่เรียนแพทย์แผนจีนเพียงครึ่งปีเพื่อทำการท้าทาย นี่มันกลั่นแกล้งกันชัด ๆ เขาบังคับให้หน้าตาของวงการแพทย์แผนจีนอยู่กับเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ไร้ยางอายเป็นที่สุด”
“แม้ว่าซูเย่จะเป็นศิษย์ของปรมาจารย์ฮัวเหรินเชิง แต่อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งเรียนแพทย์แผนจีนมาเพียงครึ่งปี ความสามารถของเขาจะพอรับมือการท้าทายของหลี่จื้อหงงั้นหรือ!?”
มีแพทย์แผนจีนจำนวนมากที่สงสัยว่าซูเย่มีความสามารถพอที่จะเป็นตัวแทนของทั้งวงการแพทย์แผนจีนหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าแพทย์แผนจีนใช้ได้จริง ถ้าไม่มีความสามารถมากพอก็ไม่ควรออกไปรับคำท้า
“เจ้าหนูน้อยคนนั้น ใครให้ความกล้าเขาไปรับคำท้ากัน”
“ความรู้จากที่เรียนในมหาวิทยาลัยจะไปพออะไร แพทย์แผนจีนต้องใช้เวลาในการฝึกฝน คนที่รู้แค่ว่าต้องอ่านหนังสือสอบ ไม่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อน มีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวแทนของพวกเรางั้นเหรอ?”
“ฉันคิดว่าวงการแพทย์แผนจีนจะมีคนเก่งเพิ่มขึ้นมา ที่ไหนได้เป็นแค่ไอ้เด็กหน้าอ่อน ถ้าแพ้ขึ้นมาจะทำยังไง?”
“วิชาแพทย์แผนจีนเน้นคำว่า ‘มั่นคง’ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจโรคจ่ายยา หรือแม้แต่ชีวิตและการทำงาน ล้วนเน้นย้ำคำว่า ‘มั่นคง’ ถ้าถูกกระตุ้นด้วยประโยคสองประโยคก็กระโดดออกไปรับคำท้า เช่นนั้นเด็กคนที่ชื่อซูเย่ก็มีนิสัยหยิ่งยโสเกินไป”
ในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้คนในวงการแพทย์แผนจีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างด่าว่าซูเย่
ในมุมมองของพวกเขา ความสามารถของซูเย่ไม่สามารถเป็นตัวแทนของวงการแพทย์แผนจีนทั้งหมดได้ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงรอดูเท่านั้น
ถ้าไม่ได้จริง ๆ แล้วซูเย่แพ้ขึ้นมา พวกเขาก็แค่ขึ้นไปแก้หน้าให้ก็พอแล้ว
……
‘สถานที่ เมืองหนานตู พรุ่งนี้สิบโมงเช้า ห้องประชุมชั้น 3 ของโรงแรม Athena International’
หลี่จื้อหมิงประกาศสถานที่นัดหมาย
สองสาวพี่น้องไป๋ส่งข้อความมาให้กำลังใจซูเย่ ‘สู้ ๆ นะ’
เมื่อรู้สถานที่นัดหมาย ชายหนุ่มก็ทำการจองเที่ยวบินทันที
……
ตีห้าวันรุ่งขึ้น ซูเย่ตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้า ขึ้นเครื่องรอบที่เช้าที่สุดเพื่อมาเมืองหนานตู
เวลาแปดโมงเช้า
ซูเย่มาถึงโรงแรม Athena International ตรงเวลา
ในตอนนี้สื่อมวลชนต่างก็มารอก่อนแล้ว แม้ว่าจำนวนไม่เยอะถึงขนาดปิดล้อมประตูทางเข้าโรงแรม แต่ก็เห็นได้ชัดว่าค่อยข้าแออัด
ทันทีที่ซูเย่มาถึง บรรดานักข่าวพลันเข้ามารุมล้อมเขาอย่างตื่นเต้นทันที
แม้ว่าหลี่จื้อหงจะเป็นผู้ริเริ่มคำท้านี้ และแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ฮวาเซียงเก๋อ แต่ในสายตาของนักข่าว พวกเขาต่างมองว่าผู้ที่ควรได้รับความสนใจมากที่สุดในการท้าครั้งนี้คือซูเย่!
การที่สื่อมวลชนมาก็เพื่อหาประเด็นทำข่าวที่จะได้รับความสนใจ ดังนั้นซูเย่จึงตกเป็นเป้าหมายอย่างไม่ต้องสงสัย!
แต่เดิม ผู้สื่อข่าวต้องการสัมภาษณ์ซูเย่เป็นการส่วนตัว แต่ซูเย่กลับเดินผ่านพวกเขาเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรมอย่างรวดเร็ว
บรรดาผู้สื่อข่าวจึงทำได้เพียงเดินตามมาติด ๆ
เมื่อเข้าไปในล็อบบี้ ซูเย่มาที่ห้องประชุมบนชั้นสามภายใต้การนำทางของพนักงานโรงแรม
ห้องประชุมทั้งหมดได้รับการออกแบบและจัดวางเหมือนฉากงานแถลงข่าวทั่วไป หลี่จื้อหงกำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะบนเวที และด้านข้างเขามีที่นั่งอยู่หนึ่งที่สำหรับซูเย่
ในเวลานี้ห้องประชุมเต็มไปด้วยนักข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ
เมื่อเห็นซูเย่ หลี่จื้อหงลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมฉีกรอยยิ้มประดับบนใบหน้าและเชื้อเชิญให้ซูเย่นั่งลงข้างเขา
[1]การได้ชี่ 得气 หรือปฏิกิริยาต่อเข็ม (needling sensation) หมายถึง ความรู้สึกถึงการออกฤทธิ์ของเข็มเมื่อแทงเข็มลงไปถึงจุด โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกปวด, ชา, พองแน่น หรือรู้สึกหน่วงบริเวณรอบจุดที่ฝังเข็ม ในขณะเดียวกันแพทย์ฝังเข็มจะรู้สึกว่าเข็มในมือตึงแน่นเหมือนถูกหน่วงเอาไว้ ซึ่งการได้ชี่มีความสำคัญมากในการฝังเข็มให้ได้ผลในการรักษา
บทใหม่
ประวัติการอ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]