เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 104

บทที่ 104 กองเชียร์ของท่านเทพ X กับเจ้าเวรกรรม

“เสี่ยวเย่ นายทำได้ยังไงวะ ทำไมอัพเลเวลได้ไวขนาดนี้?” เมื่อหายจากอาการตกตะลึงแล้ว ซูชือก็ส่งข้อความเสียงไปหาซูเย่ทันที

“เพราะฉันเก่งกว่าพวกนายไงล่ะ”

ซูเย่ส่งข้อความเสียงตอบกลับมา

หมอนี่ขี้โม้อีกแล้ว!

ซูชือได้แต่สบถอยู่ในใจ และดึงซูเย่เข้าร่วมกลุ่มของตัวเอง

มันเป็นกลุ่มที่มีชื่อว่า ‘พิชิตสวรรค์ด้วยมือเปล่า’

ซูเย่พูดอะไรไม่ออก

“ทุกคนส่งเสียงต้อนรับผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดประจำเซิร์ฟเวอร์ตอนนี้หน่อยเร็ว” ซูชือพูดเข้าไปในกลุ่ม “พวกเรามาช่วยกันอัพเลเวล และพิชิตสรวงสวรรค์แห่งนี้ด้วยมือเปล่ากันเถอะ พวกเราจะต้องทำให้เกม Fantasy Dream โด่งดังมากกว่านี้ให้ได้!”

ในกลุ่มของซูชือมีสมาชิกอยู่หลายสิบคน

นี่คือกลุ่มคนที่ชายหนุ่มตั้งใจรวบรวมสมัครพรรคพวกเอาไว้ เพื่อใช้ฝึกฝนวิทยายุทธ์ของกันและกัน

ทุกคนต่างก็เป็นผู้เล่นที่สามารถเปิดจุดลมปราณได้สำเร็จ

แต่หลังจากส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มแล้ว กลับไม่มีใครสนใจพูดคุยกับเขาเลย

ซูชือรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องรีบพูดเพิ่มเติมเข้าไปว่า

“ดูเหมือนพวกนายคงจะยุ่งกันอยู่สินะ ฉันเองก็ไม่มีเวลาแล้วเหมือนกัน ทุกคนก็ตั้งใจอัพเลเวลกันให้ดีล่ะ!”

หลังจากส่งข้อความเสียงล่าสุดเรียบร้อยแล้ว ซูชือก็ส่งข้อความส่วนตัวไปอธิบายกับซูเย่ว่า

“นี่เป็นกลุ่มที่รวมเด็กจากมหาลัยเราเอาไว้ จินฟานกับฉันเป็นคนตั้งขึ้นมาเองเลยนะ”

ผลปรากฏว่า

ซูเย่ก็ไม่ตอบข้อความของเขาเหมือนกัน

“หึหึ…”

ซูชือผู้เสียหน้าเป็นที่สุดได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความกระอักกระอ่วนใจ และพูดกับตัวเองว่า “จินฟานกับเสี่ยวเย่นี่มันชักจะเมินฉันมากเกินไปแล้วนะ!”

“แต่ดูเหมือนทุกคนคงยุ่งอยู่กับการอัพเลเวลแล้วล่ะ เราเองก็ไปอัพเลเวลบ้างดีกว่า”

ในเวลาเดียวกันนี้

ซูเย่เพิ่งจะสังหารตัวบอสในเขตแผนที่ระดับ 24 ได้สำเร็จ และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาอยู่ที่เลเวล 22 แล้ว

ชายหนุ่มเปิดดูข้อมูลสถานะของตนเองในปัจจุบัน

แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจที่ได้เห็นว่ามีช่องแสดงผลของคะแนนบางอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

ค่าวรยุทธ์ : 2 คะแนน

ซูเย่นึกถึงสิ่งที่หวังเหาเคยพูดขึ้นมาทันที

เมื่อเริ่มเข้าเล่นเกมค่าวรยุทธ์ของทุกคนจะเป็นศูนย์ แต่ถ้าสามารถเก็บสะสมจนมีถึง 10 คะแนนได้เมื่อไหร่ พวกเขาก็จะได้เข้าสู่โลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือพวกเขาต้องเคลียร์แผนที่ระดับ 30 ให้ได้ก่อนนั่นเอง โฉมหน้าที่แท้จริงของเกม Fantasy Dream ถึงจะเปิดเผยออกมา

“แต่ตอนนี้เราช้าลงหน่อยดีกว่า”

ซูเย่ยกมือขึ้นมาจับคางตัวเองอย่างใช้ความคิด

ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าท่านเทพ X สามารถอัพเลเวลได้รวดเร็วมากเกินไปจึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

ส่วนตัวละครที่เขากำลังเล่นอยู่ในขณะนี้มีการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ ซูเย่ไม่อยากตกเป็นจุดสนใจของใครอีกแล้ว

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ต้องการอัพเลเวลให้มันรวดเร็วเกินไปนัก

ดังนั้น อีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 23 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!” บนท้องฟ้าปรากฏข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาอีกครั้ง

“เวร! อัพเลเวลได้อีกแล้วเหรอเนี่ย?”

“นี่มันแค่ครึ่งชั่วโมงเองนะ เขาสามารถอัพจากเลเวล 22 ขึ้นไปเลเวล 23 ได้ยังไง? ส่วนฉันขนาดเลเวล 21 ยังไม่มีปัญญาเลยด้วยซ้ำ!”

“พอท่านเทพ X หายตัวไป ก็มีเทพคนใหม่ปรากฏตัวอีกแล้วเหรอ?”

“เจ้าเวรกรรมคนนี้มันตั้งใจมาโค่นล้มท่านเทพ X ใช่หรือเปล่า?”

ทุกคนพูดคุยกันด้วยความสนใจ และไม่มีใครรู้เลยว่าผู้เล่นที่เป็นปริศนารายใหม่คนนี้ เพราะเหตุใดถึงได้มีฝีมือแข็งแกร่งขนาดนั้น

พวกเขาพูดคุยกันไปพลางไล่ฆ่าสัตว์ประหลาดไปด้วย

ผลก็คืออีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง ในขณะที่ทุกคนยังพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 24 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ผู้เล่นทุกคนล้วนนิ่งอึ้งตะลึงงัน

“หมอนี่เป็นใครกัน? ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็สามารถอัพเลเวลได้อีกแล้ว วันนี้เขาอัพขึ้นมาได้สี่เลเวลแล้วนะ นี่มันความรวดเร็วระดับเดียวกับท่านเทพ X ชัด ๆ!”

“อย่างน้อยท่านเทพ X ก็มีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควร แต่เจ้าเวรกรรมคนนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน?”

ขณะนี้

ในใจของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยคำถาม

ณ เขตแผนที่ระดับ 22

เนินเขาแห่งหนึ่งใกล้กับพื้นที่ชุ่มน้ำ

สองพี่น้องไป๋จือเหยียนกับไป๋จือหรานต้องมีอันหยุดชะงักหลังจากจัดการตัวบอสประจำแผนที่ได้สำเร็จ

“ ‘เวรกรรม ทำไมถึงตั้งชื่อยากเย็นขนาดนี้ฮะ’ งั้นเหรอ?” ไป๋จือหรานซึ่งใช้ชื่อนามแฝงว่า ‘ฉันก็แค่อายุ 3 ขวบ’ พูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “คนคนนี้เก่งเกินไปแล้ว เผลอแป๊บเดียวก็ขึ้นไปอยู่เลเวล 24 แล้วเหรอเนี่ย แถมยังตั้งชื่อได้ไม่เหมือนใครอีก ฉันว่าเหมือนเขากำลังดูถูกเราอยู่เลยนะพี่จ๋า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]