บทที่ 110 ซูเย่เรียกฝนไล่คน!
“กลัวงั้นเหรอ?”
ลูกไฮโซเอ่ยเสียงเย็น
“ฉันจะบอกแกให้รู้ไว้นะ วันนี้ฉันจะอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าไม่ชดใช้เงิน ก็ไสหัวไป!”
“รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ไสหัวไป อย่ามากวน”
ใบหน้าของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยย่ำแย่ลง และรู้สึกสับสนในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นเศรษฐี ส่วนตัวเขาทั้งไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ ทางสถาบันคงไม่มีทางเข้าข้างเขาแน่นอน และในที่สุดเขาก็จะต้องเป็นฝ่ายผิด
ถ้าไม่ไปต้องจ่ายห้าแสนหยวน?
ถ้าไปก็อาจจะตกงาน?
จะทำไงดี?
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“เขาตั้งใจไปชนรถนายรึไง นายให้เขาจ่ายชดใช้อะไร?”
ซูเย่ก้าวเดินออกจากกลุ่มคนที่ล้อมรอบ
เมื่อเห็นว่าซูเย่มีการเคลื่อนไหว เฉินเซียนเยว่และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกโล่งใจ พวกเขาเชื่อใจซูเย่!
“หืม?”
ลูกไฮโซหันมามองซูเย่
“เจ้าเวรกรรม?”
ทันทีที่เขาเห็นซูเย่ก็จำซูเย่ได้ทันที เขายิ้มเยาะเย้ยพลางกล่าว “นายเก่งมากในเกม แต่นี่ไม่ใช่เกม นี่คือความเป็นจริง ฉันขอแนะนำว่าอย่ามายุ่ง”
ระหว่างพูด อีกฝ่ายก็หันหน้ามาประจันกับซูเย่โดยตรง
ซูเย่เดินไปด้านข้างของอีกฝ่าย พร้อมกับยกมือชี้ไปที่ตำแหน่งที่มีพลังปราณติดอยู่บนร่างของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย
พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ใช้ปราณกับคนธรรมดา ตอนนี้ฉันสามารถยัดนายเข้าตารางได้”
เมื่อลูกเศรษฐีได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เขาไม่ได้คาดคิดว่าซูเย่จะเห็นสิ่งที่แอบทำ!
“ถ้าไม่อยากถูกจับ ก็ไสหัวไป!”
ซูเย่เอ่ยพูดเสียงเบา
ลูกเศรษฐีมองที่ซูเย่ด้วยใบหน้ามืดมน นี่เขาถูกคุกคามงั้นเหรอ!?
ชายลูกเศรษฐีพลันพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่ไป นายจะทำอะไรฉันได้!”
ขณะพูดก็หันหน้ากลับไปอีก เขายังคงมองขึ้นไปและตะโกนขึ้นไปที่หอพักของไป๋จือหราน “ไป๋จือหราน ฉันรักเธอ!”
“ดูเหมือนว่านายต้องการให้ฉันจับนายตอนนี้”
ซูเย่จ้องมองลูกคนรวยอย่างเฉยเมยพลางกล่าว “ฉันเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของทีมสืบสวน!”
สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยิน
สมาชิกอย่างเป็นทางการของทีมสืบสวน!
เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร! เพราะไม่ว่าจะรวยและมีอำนาจเพียงใด ตราบใดที่ทีมสืบสวนมีส่วนร่วม แม้ว่าจะบริจาคทรัพย์สินของครอบครัวจนหมด ก็ยากที่จะพาเขาออกจากการจับกุมของทีมสืบสวนได้
เขาเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองที่ยังไม่ได้รับตำแหน่งโดยตรง และยังไม่ได้เข้าสู่ทีมอย่างเป็นทางการ
แต่เจ้าเวรกรรมกลับเข้าทีมแล้วงั้นเหรอ? หมายความว่าอีกฝ่ายไปถึงขั้นสามแล้วน่ะสิ
ลูกไฮโซคนนั้นมองหน้าซูเย่อย่างเคืองใจ
“พรุ่งนี้มาใหม่ก็ได้วะ!”
จากนั้นก็หันหลังกลับและตะโกนสุดเสียงอีกครั้ง “พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาใหม่ ไป๋จือหรานที่รัก ความรักที่ฉันมีต่อเธอจะไม่มีวันตัดขาด!”
เมื่อพูดจบ เขาเหลือบมองซูเย่แล้วขับรถออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ที่มากับชายคนนี้ก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่อเห็นดังนั้น ในที่สุดหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางเหลือบมองไปที่ซูเย่อย่างซาบซึ้ง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ถ้างั้นเขาจะไปขอลาป่วย พรุ่งนี้เขาจะไม่มาเด็ดขาด!
คนที่มุงดูรอบ ๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์ว่าลูกคนรวยจากไปแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไป
“ติ๊ดติ๊ด!”
ซูเย่ได้รับข้อความ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นไป๋จือหรานส่งมา
‘ขอบคุณนะ’
อีกฝ่ายขอบคุณซูเย่ที่เข้ามาช่วย
‘เรื่องเล็ก’
ซูเย่ตอบกลับทันที
คืนวันเดียวกัน พี่น้องของพรรคถูโช่วจย้าเทียนร่วมมือกัน ฉีกป้ายที่แขวนอยู่ทุกมุมของเขตมหาวิทยาลัยทั้งหมด แล้วโยนทิ้งลงในถังขยะ
ห้องสวีทของโรงแรมห้าดาวในเมืองจี้หยาง
“บี๊บบี๊บ…”
ลูกไฮโซที่กำลังเล่นเกมอยู่ได้กดรับโทรศัพท์
“เฮ้?”
เขากดรับสายทันที
“เจ้านาย ป้ายที่คุณให้ติดในเขตมหาวิทยาลัย ถูกถอดและโยนทิ้งไปหมดแล้ว”
อีกฝ่ายแจ้งเบาะแส
“ใครทำ?”
ลูกไฮโซเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ฉันเห็นเป็นกลุ่มคนที่อยู่กับซูเย่ในวันนี้”
เคร้งง! ลูกเศรษฐีเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือลงด้วยความโมโห
“เหอะ ซูเย่? นายคิดจะต่อกรกับฉันใช่ไหม?”
……
เช้าวันถัดมา ซูเย่ตื่นนอนตอนหกโมงเช้า
ทันทีที่เดินออกจากหอพัก ชายหนุ่มก็พบว่าทั่วเขตมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยป้ายแสดงคำสารภาพรักของลูกเศรษฐีคนเมื่อวานอีกครั้ง แถมจำนวนป้ายเหล่านี้ยังมากกว่าเมื่อวานเสียอีก
ซูเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะปล่อยไปง่าย ๆ สินะ
ตามที่คาดการณ์ไว้ เวลาแปดโมงครึ่ง รถยนต์หรูหราหลายคันแล่นผ่านเขตมหาวิทยาลัย ขับตรงไปยังสถาบันดนตรีซิงเหมิง และหยุดที่หน้าหอพักหญิงเช่นเคย
ทันทีที่เขาก้าวลงจากรถ บอดี้การ์ดหลายคนก็กระจายไปทั่วทุกทิศทาง บางคนยังพกโทรโข่งมาด้วย
“ไป๋จือหราน ฉันชอบเธอ!”
“ฉันรู้ว่าวันนี้เธอไม่มีเรียน ฉันเลยตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อนเธอแต่เช้า วันนี้ฉันเชิญวงดนตรีมาร้องเพลงให้เธอโดยเฉพาะ ฉันเชื่อว่าการร้องเพลงของพวกเขาจะบ่งบอกว่าฉันรักเธอมากเพียงใด”
ลูกเศรษฐีพูดใส่โทรโข่งอย่างภาคภูมิใจ “ได้โปรดรู้สึกถึงความรักที่ฉันมีต่อเธอ!”
วงดนตรีเริ่มร้องเพลง
และตอนนี้เสียงดนตรีได้ดึงดูดผู้ชมที่อิจฉาเข้ามามุงดูนับไม่ถ้วน
ทำนองเพลง Marry me ถูกบรรเลงขึ้น วงดนตรีเริ่มร้องเพลงอย่างโรแมนติก
ลูกเศรษฐีถือดอกกุหลาบ 999 ดอก มองขึ้นไปที่หอพักของสองพี่น้องไป๋ ราวกับกำลังเป็นนักกวีหนุ่มผู้ตกอยู่ในห้วงคะนึงแห่งรัก และเริ่มร่ายบทกลอน “เสียงร้องของนักจวี่จิ่วที่อยู่กลางลำธาร หญิงร่างเพรียวนั่งเก็บดอกไม้ เป็นที่หมายปองของบุรุษ..…”
ไอ้บ้านี่ใคร?
เขาอ่านท่องกลอนบทนี้จนจบโดยไม่รู้สึกอายเลย และด้วยสายตาที่ไร้ยางอายของเขา ผู้ชมทั้งหมดก็ขนลุกไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]