เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 15

สรุปบท ตอนที่ 15 ส่งคำเชิญ (ตอนต้น): เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 15 ส่งคำเชิญ (ตอนต้น) – เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดย Internet

บท ตอนที่ 15 ส่งคำเชิญ (ตอนต้น) ของ เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 15 ส่งคำเชิญ (ตอนต้น)

“สนุกสิ! สนุกมากเลยด้วย!”

ซูชือกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉากภายในเกมก็สวยมากเลยนะ อย่างกับหลุดมาจากโลกแฟนตาซีเลยล่ะ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แถมยังดูสมจริงแบบสุดๆ อีกต่างหาก!”

จินฟานพยักหน้าเห็นด้วย

“เกมยากรึเปล่า?”

ซูเย่ถามอีกครั้ง

ซูชือและจินฟานมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาแห้ง ๆ

“ก็ไม่ยากขนาดนั้นหรอก”

จินฟานกล่าวขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า “เทียบแล้วก็เหมือนกับการทดสอบไอคิวและความสามารถในการตอบสนองของแต่ละคน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีแค่การไล่หวดตั๊กแตนในเมืองเริ่มต้นก็เถอะ”

“ตัวเกมมันทดสอบไอคิวจริง ๆ หรือฉันโง่เองก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ คือต้องใช้ความสามารถในการตอบสนองระดับสูงมาก ฉันรู้สึกจริง ๆ นะว่าพวกเราทุกคนกำลังโดนทดสอบอยู่”

ซูชือกล่าวอย่างสัตย์จริง เขาหันกลับไปมองหมวก VR ที่อยู่บนเตียงแล้วบ่นอุบอิบ “แต่น่าเสียดายเพราะระเบียบข้อบังคับประจำชาติ ทำให้ฉันเล่นตอนกลางวันไม่ได้ แม้จะอยากเล่นแค่ไหนก็ตาม ฉันล่ะอยากจะฝังตัวอยู่ในเกมนี้ตลอดไปชะมัด”

ซูเย่พยักหน้า

ผลงานของรัฐบาลสินะ

มีอีกหลายเกมที่คล้าย ๆ กันแบบนี้ก็เปิดตัวในประเทศอื่นๆ เช่นกัน

เจ้าหน้าที่รหัส 197 คนนั้นเองก็แนะนำให้เขาเล่นเกมนี้

ดูท่าว่าเกมนี้จะไม่ใช่อะไรที่กะโหลกกะลาจริง ๆ

ซูเย่คิดกับตัวเอง เขาอยากจะเข้าไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง ว่ามันจะสุดยอดขนาดไหนกันเชียว

“ฉันจะหาซื้อหมวกแบบนั้นได้ที่ไหนบ้าง?”

“ไม่รู้หรอกเหรอ?”

ซูชือและจินฟานอ้าปากเหวอ

เกมแนวนี้มันปล่อยออกมานานหลายปีแล้วนะ ไปมุดหัวอยู่หลังเขาไหนมาเนี่ย?

“ก็ก่อนหน้านี้ฉันตั้งใจเรียนอย่างเดียวนี่” ซูเย่กล่าวก่อนจะยักไหล่อย่างไม่แยแส

โกหก!

ทั้งสองคนสบถในใจอย่างพร้อมเพรียง ก่อนที่จินฟานจะเริ่มอธิบาย

“ถ้าอยากจะเล่นเกมแนวนี้ ต้องเริ่มจากไปซื้อหมวกนี่ที่สถานีตำรวจ นายจะต้องเอาบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อซื้อ หมวกแบบนี้จะต้องซื้อจากรัฐโดยตรงเท่านั้น เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่จะใช้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบจริง ๆ เพราะฉะนั้นมันเลยไม่สามารถหาซื้อตามร้านค้าทั่วไปได้ และเพราะอย่างนั้น ถ้านายทำอะไรผิดกฏหมาย ก็เตรียมเจอคุณตำรวจมาเคาะก๊อกๆ หน้าประตูได้เลย เพราะพวกเขามีข้อมูลจริงของนายทุกอย่าง”

ต้องไปถึงสถานีตำรวจเพื่อซื้อหมวก VR สินะ…

ซูเย่พยักหน้าตอบรับคำอธิบายอย่างเข้าใจ

วันนี้วิชาในช่วงบ่ายก็มีเพียงแค่วิชาเดียว น่าจะพอใช้เวลาหลังจากนั้นเพื่อไปสถานีตำรวจได้ เขาชักเริ่มสนใจในเกมนี้จริง ๆ ซะแล้ว

แม้ว่าในประวัติศาสตร์ที่ตัวเขาได้ผ่านพบประสบมา ก็ยังมีเรื่องมากมายที่ซูเย่ยังไม่รู้ แต่ตัวของเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้มาพบเจอกับเกมที่สามารถทำให้รู้สึกอยากลองทำอะไรแบบนี้มาก่อน..

ช่างน่าสนใจจริง ๆ

ซูเย่ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะไปอาบน้ำ

หลังจากที่ชายหนุ่มทั้งสามเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว พวกเขาต่างตรงไปยังโรงอาหารในทันทีเพื่อรับประทานอาหารเช้า

ซูเย่สังเกตุได้ว่าแทบจะทุกคนที่เห็นในโรงอาหารแห่งนี้ ต่างพูดคุยถึงเกม “Fantasy Dream” อย่างตื่นเต้นและกระตือรือร้น ดูท่าว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากทุกคนอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย

หลังจากที่รับประทานมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทั้งสามคนนำจานชามไปล้างตามหน้าที่ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน

ด้วยความที่นักศึกษาคณะวิจัยสมุนไพรจีนนั้นจบการศึกษาเร็วกว่านักศึกษาคณะอื่น ๆ จึงทำให้มีวิชาที่ต้องเรียนอยู่มากมาย และแน่นหนาจนตารางเรียนไม่เหลือที่ว่าง

และเนื่องจากเหล่าน้องใหม่ที่ได้เข้ามาเรียนในด้านการวิจัยสมุนไพรจีนนั้น ส่วนใหญ่มักปราศจากความรู้พื้นฐาน ทำให้ยากต่อการจะทำความเข้าใจ ทุกวิชาในช่วงแรกนั้นจึงเริ่มต้นจากการสอนข้อมูลในระดับขั้นพื้นฐานด้วยกันหมดทั้งสิ้น

วิชาเอกแรกที่ต้องเจอในตอนเช้านี้คือวิชา “ทฤษฎีพื้นฐานทางการแพทย์แผนจีน”

“อึก..!”

จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เป็นเสียงที่พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบาของเด็กสาวคนหนึ่ง

ซูเย่หันไปมองที่ตรงกลางของห้องเรียน

เขาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งใช้มือข้างหนึ่งยันไว้กับโต๊ะเพื่อทรงตัว อีกมือหนึ่งกุมท้องเอาไว้ หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ใบหน้าซีดเซียวของเธอเต็มไปด้วยสีหน้าของความเจ็บปวด

จู่ ๆ มือที่ใช้ค้ำยันร่างของเธอไว้นั้นก็ผ่อนแรง จนทำให้ร่างกายไร้ที่ยึดเหนี่ยวนั้นล้มลงกับพื้น

ในวินาทีที่ศีรษะของเธอกำลังจะกระแทกกับเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ นั้น

ดวงตาของซูเย่ฉายแสงวาบ ก่อนจะเอ่ยคำออกมาอย่างรวดเร็ว “ผู้รู้แก่การจะไม่อยู่ใต้พาลภัย”

ขณะที่ศีรษะของเด็กสาวกำลังจะกระแทกเข้ากับเก้าอี้ ก็มีพลังบางอย่างได้ผลักมันออกไปราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาจากท้องฟ้าดังปัง! แม้ว่าจะเกิดเสียงแบบนั้น แต่ศีรษะของเธอไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด ๆ เลย ร่างของเด็กสาวล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นด้วยความนุ่มนวล

เหล่านักศึกษาในห้องต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์เบื้องหน้า พวกเขารีบเข้าไปดูอาการของเด็กสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง

ซูเย่เองก็ลุกขึ้นไปดูเช่นกัน

อาจารย์หวังชวงเหรินรีบวางหนังสือในมือแล้วเดินไปหาเด็กสาวทันที เขากล่าวถามเธออย่างร้อนรน

“เป็นอะไรไป? รู้สึกยังไงบ้าง?”

“นะ..หนูสบายดีค่ะ ” เด็กสาวกล่าวเสียงเบาอย่างอับอายที่เธอดันทำเรื่องใหญ่โตในห้องเรียนไปเสียแล้ว ยิ่งเมื่อได้มองใกล้ ๆ ใบหน้าของเธอซีดเซียวมากอย่างเห็นได้ชัด

“อย่าโกหกอาการป่วยกับหมอสิ” อาจารย์หวังชวงเหรินบอกให้นักศึกษาคนอื่นๆ ช่วยพยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ กับเก้าอี้ ก่อนจะทำการจับจุดชีพจรที่ข้อมือของเธอ

เขาถามคำถามต่าง ๆ นานาขณะจับชีพจร

“ใต้จุดซานอินเจียวเย็นและชื้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นอาการปวดประจำเดือน โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก.. “

บอกเล่าความรู้:จุดซานอินเจียว (三阴交) ซาน (三) แปลว่า สาม ; อิน (阴) แปลว่า เส้น ลมปราณอินเจียว (交) แปลว่าตัดกัน คือเป็นจุดที่เส้นลมปราณอิน 3 เส้นมาตัดกัน

ตำแหน่ง : เหนือยอดตาตุ่มด้านใน 3 ชุ่นชิดขอบด้านหลังกระดูก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]