บทที่ 18 ช่วยอาจารย์ปราบความจองหองอวดดีของบรรดาลูกศิษย์ที (ตอนปลาย)
“ถึงเวลาแล้ว “
ซูเย่กลับมายังหอพักของตนเองหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย เมื่อเขามองนาฬิกาก็พบว่ามันใกล้ถึงเวลานัดในบัตรเชิญแล้ว
“ไปกันเถอะ “
ซูชือและจินฟานลุกขึ้นในทันทีราวกับรอถ้อยคำนี้มานาน ทั้งสองคนขนาบข้างซูเย่ซ้ายขวา จับไหล่และลากตัวเขาออกไปในทันที
เมื่อทั้งสามได้มาถึงยังสถาบันดนตรีซิงเหมิง ที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยของพวกเขาเพียงหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง นักศึกษา 3 หนุ่ม 3 มุมก็มาถึงก่อนเวลานัดประมาณยี่สิบนาที
พวกเขาใช้วิธีถามนักศึกษาแถวนั้นถึงหอประชุมที่ว่า
ในไม่ช้า ทั้งสามคนก็มาถึงยังห้องที่จัดประชุมสัมมนาด้วยความช่วยเหลือจากนักศึกษาคนหนึ่งที่อาสานำทางไปให้
ดูเหมือนว่าเริ่มมีผู้คนมายืนอยู่แถว ๆ โซนนั่งรอบ้างแล้ว
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าสะอาดสะอ้านพร้อมกับผมเผ้าที่ถูกหวีจนเรียบ
ชายวัยกลางคนผู้นั้นปรายสายตาไปรอบ ๆ จนมองเห็นซูเย่ สายตาเขาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาทางซูเย่
“นี่ใช่ซูเย่รึเปล่า? “
“คุณใช่อาจารย์ลั่วตงหมิงรึเปล่า?”
ซูเย่ถามกลับ
“ใช่แล้ว ผมคือลั่วตงหมิง”
“นั่งลงก่อน นั่งลงก่อน”
อาจารย์ลั่วตงหมิงพยักหน้าก่อนจะผายมือให้ซูเย่นั่งลง เขาส่งยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ไม่นึกเลยว่าเธอจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด ปกตินักเรียนของฉันมักจะมาสายตลอด น่ายินดีจริง ๆ”
ซูชือและจินฟานมองกันและกันอย่างสับสนเล็กน้อย
พวกเขาเดากันไว้ว่าที่ซูเย่โดนชวนมาก็เพราะจะโดนหาเรื่อง
แต่ท่าทางและกิริยาของอีกฝ่ายดูแตกต่างจากที่คิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง!
ใครจะไปคิดว่านักเล่นพิณผีผาระดับชาติ ผู้เป็นศาสตราจารย์แห่งสถาบันดนตรีซิงเหมิง ที่หุ่นล่ำกำยำเหมือนเจ้าพ่อมาเฟียอย่างลั่วตงหมิงจะสุภาพขนาดนี้
หลังจากที่ทั้งสามคนนั่งลงแล้ว อาจารย์ลั่วตงหมิงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะมองซูเย่ อย่างพิจารณาและพูดคุยอย่างตรงประเด็น
“คุณซูเย่ อาจารย์ได้ดูวิดิโอที่เธอเล่นพิณผีผาหลายสิบครั้งแล้ว เทคนิคที่เธอเล่นทำเอาดูไม่ออกเลยว่าเธอเป็นนักศึกษาแพทย์แผนจีน แถมดูเหมือนเธอจะไม่ใช่มือสมัครเล่นเสียด้วย หรือว่าเธอจะเป็นอาจารย์สอนดนตรี?”
จินฟานและซูชือหันไปมองซูเย่ อันที่จริงแล้วพวกเขาก็แอบสงสัยเรื่องนี้เช่นกัน
“เปล่าครับ ผมไม่ถึงขั้นนั้นหรอก”
ซูเย่ส่ายหน้าปฎิเสธ
อาจารย์ลั่วตงหมิงประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่เคยสอนใครมากก่อนจริง ๆ หรือ?”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้ายืนยัน
“ผิดแล้ว”
อาจารย์ลั่วตงหมิงส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับคำตอบ ก่อนจะเอ่ยเสริม “เธออาจจะไม่รู้ตัว แต่เด็กสาวที่เล่นพิณผีผาก่อนหน้าเธอ ก็ได้เรียนรู้จากเธอเช่นกันมิใช่หรือ?”
“เด็กสาวคนนั้นเล่นพิณผีผาชนิดห้าสาย ซึ่งเป็นพิณสมัยราชวงศ์ถังที่เพิ่งจะฟื้นฟูขึ้นไม่นานมานี้เอง ตัวอาจารย์เองก็ได้เรียนรู้ทั้งจากเธอและเด็กสาวคนนั้นเช่นกัน ไม่มีผู้ใดสามารถเรียนรู้พิณห้าสายได้โดยปราศจากครูบาอาจารย์”
อาจารย์ลั่วตงหมิงกล่าวอย่างจริงจังขณะที่จ้องมองซูเย่
ทางจินฟานและซูชือเองก็มองซูเย่อย่างงงงวยเช่นกัน
พวกเขาเองก็รู้สึกได้ว่ามีผู้คนมากมายที่ได้รับแรงบรรดาลใจมากจากซูเย่ ทั้งตอนที่เล่นกีต้าร์ครั้งนั้นก็ด้วย
“ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมไม่เคยสอนอะไรใคร หรือโดนสอนจากใครจริง ๆ”
ซูเย่ส่ายหน้ายืนยันที่จะปฎิเสธเช่นเดิม
เมื่อเห็นซูเย่ยืนยันที่จะไม่พูดอะไร อาจารย์ลั่วตงหมิงก็ยิ้มขึ้นมาและตัดสินใจที่จะไม่รั้นถามเขาต่ออีก ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกแล้วกัน
เขาเลยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแทน “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับพิณอู่เซียนสมัยราชวงศ์ถังบ้าง? “
“ผมพอจะรู้เทคนิคการเล่นพิณในสมัยราชวงศ์ถังอยู่บ้าง”
ซูเย่ตอบไปตามตรง
“หา? พอจะรู้บ้างงั้นหรือ?”
ร่างกายของอาจารย์ลั่วตงหมิงขยับเล็กน้อยอย่างสนใจก่อนจะที่ถามต่อในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]