เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 192

บทที่ 192 กะหล่ำปลีแสนแพง

“บ้าจริง อร่อยขนาดนี้เชียวหรือ”

หม่าเหล่าเอ้อมองกะหล่ำปลีตรงหน้าอย่างตกตะลึง

นี่คือกะหล่ำปลีงั้นเหรอ

นี่คือกะหล่ำปลีที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกิน ไม่สิ นี่มันคืออาหารที่เลิศรสโอชาที่สุด

อร่อยงั้นเหรอ พวกพ้องที่ยังไม่ยอมหยิบตะเกียบ มองกันครู่หนึ่ง แววตาแสดงความดูหมิ่น

สีหน้าของลูกพี่มันปลอมมาก แกล้งทำยังไม่เหมือนพลางชิมด้วยความฉงนใจหนึ่งคำรู้สึกถึงรสกลมกล่อมที่ต่อมรับรส ดวงตาเบิกค้างทันใด

“เฮ้ย อร่อยขนาดนี้เลยเหรอ”

“นี่มันอร่อยเกินไปแล้ว หรือว่าฉันจะหิวเกินไป ทำไมฉันรู้สึกว่ากะหล่ำปลีมันอร่อยว่าเนื้ออีกละ อย่าแย่งสิ อย่าแย่ง”

“เฮ้ย อย่าแย่งกันดิวะ” หม่าเหล่าเอ้อตะโกนอย่างโมโห เข้าสู่สังเวียนการแย่งชิง

เอ้อล่าจื่อก็กินไปหนึ่งคำ ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตะลึง อร่อยขนาดนี้เชียวหรือ และร่วมวงแย่งชิงอย่างบ้าคลั่ง

ซูเย่แย้มยิ้มพลางกินไปหนึ่งคำ รสชาติใช้ได้ อร่อยกว่าอันที่ปลูกในกระถางดอกไม้ที่หอพัก

“อร่อย อร่อยมากจริง ๆ”

หลังจากที่กินอย่างตะกละตะกลามหม่าเหล่าเอ้อก็ยกนิ้วโป้งให้ซูเย่ พลางกล่าวชื่นชมด้วยใบหน้าที่ตื่นตะลึง “กะหล่ำปลีของคุณนี่ อร่อยยิ่งกว่าอาหารในงานเลี้ยงเสียอีก”

ซูเย่ยิ้มพลางกล่าว “ช่วยเฝ้าอีกสองสามวันนะครับ ถึงเวลาผมจะมีอะไรให้”

อะไรนะ

คนที่อยู่ที่นั่นล้วนตาเป็นประกาย

นี่คือการแสดงออกถึงความมั่งคั่ง?

“เกรงใจจะแย่แล้ว” หม่าเหล่าเอ้อถูมือไปมา ยิ้มตาหยีกล่าว

“พวกคุณกินกันเลย ผมออกไปรับโทรศัพท์”

ซูเย่เดินออกไป หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังหงฮวา “กะหล่ำปลีสุกงอมได้ที่แล้ว สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ภัตตาคารของพวกคุณอยู่ที่ไหนครับ อีกเดี๋ยวผมจะเอากะหล่ำปลีสองสามหัวไปให้พวกคุณลองกินดู”

“ได้ เยี่ยมไปเลย เดี๋ยวผมแชร์พิกัดที่อยู่ไปให้” หวังหงฮวาตอบอย่างดีอกดีใจ

“ครับ” ซูเย่พยักหน้ารับแล้วกดวางสาย

รอทุกคนกินเสร็จเรียบร้อย ขอถุงหนึ่งใบจากผู้เฒ่าหลี่ ถอนกะหล่ำปลีออกจากแปลงสองสามหัว กดเรียกรถหนึ่งคันผ่านโทรศัพท์มือถือไปภัตตาคารของหวังหงฮวา

ภัตตาคารหมิงหู

ตอนที่ซูเย่มาถึง หวังหงฮวาและพ่อครัวร่างท้วมหวังปั๋วได้มายืนรอที่หน้าประตูร้านแล้ว

เห็นว่าในมือซูเย่ถือถุงมาหนึ่งใบ ดวงตาก็ส่องประกาย “เชิญด้านในครับ”

ซูเย่เดินเข้ามาเห็นการตกแต่งภายในร้านที่น่าหลงใหล

ภัตตาคารตกแต่งสไตล์โบราณประกอบกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ทำให้ผู้ที่เดินเข้ามามีความรู้สึกโล่งสบาย ด้านในยังมีภูเขาน้ำตกจำลอง ราวกับว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางขุนเขาสายนทีจริง ๆ

ทั้งสามนั่งลง ภายในภัตตาคารมีพนักงานไม่น้อย การบริการไม่ขาดตกบกพร่องทั้งเสิร์ฟน้ำ ยกผลไม้

“น้องชาย เริ่มลงมือเถอะ” ผ่านไปสามถ้วยชา หวังหงฮวามองไปทางหวังปั๋วอย่างคาดหวัง

“ครับ” หวังปั๋วเองก็แทบจะรอไม่ไหวแล้ว เดินเข้าไปในครัวทันที

เขารู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ภัตตาคารของลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่ค่อยจะสู้ดีนัก โอกาสพลิกผันก็ขึ้นอยู่กับเจ้ากะหล่ำปลีนี่แล้ว

เงินหนึ่งล้านลงทุนไปแล้ว อย่าได้เกิดข้อผิดพลาดอะไรเลย

เขาทำเมนูกะหล่ำปลีมาสองสามอย่างด้วยความรวดเร็ว

สามคนหนึ่งโต๊ะ

“พวกคุณกินเถอะครับ ผมกินมาแล้ว” ซูเย่กล่าวยิ้ม ๆ

“งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะ” หวังหงฮวาลงมืออย่างรวดเร็ว

หวังปั๋วเองก็เริ่มกิน

ผัดเผ็ดกะหล่ำปลีแสนธรรมดาที่วางอยู่เบื้องหน้า ตะเกียบคีบเข้าปาก ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง สายตาส่องประกายความตื่นตกใจ

ใช่แล้ว รสชาตินี้นี่แหละ

ไม่สิ อร่อยกว่าครั้งที่แล้วเสียอีก

“อร่อย อร่อยเกินไปแล้ว” หวังหงฮวาตื้นตันจนน้ำตาแทบจะไหลลงมา ครึ่งเดือนมานี้เขาลำบากมากจริง ๆ

“กะหล่ำปลีนี่มีเท่าไหร่” หวังหงฮวาถามอย่างรีบร้อน

ซูเย่คำนวณคร่าว ๆ พลางกล่าว “ประมาณ 850 ตัน”

“หนึ่งปีสามารถส่งได้กี่ครั้ง” หวังหงฮวาถามอย่างเร่งรีบอีกครั้ง

ซูเย่คำนวณถึงสภาพที่ดินและพลังปราณธรรมชาติกล่าว “ตัดฤดูหนาวออก หนึ่งปีสามารถเก็บผลผลิตได้สามครั้ง”

“สามครั้ง 850 ตันต่อครั้ง ทั้งปีก็คือ 2500 ตันโดยประมาณ ใช้ได้ใช้ได้” หวังหงฮวาสูดหายใจลึกหนึ่งเฮือก เขาไม่คิดว่าจะมีเยอะเพียงนี้ ฉับพลันรู้สึกมีแรงฮึกเหิมขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]