บทที่ 203 เจ้าเวรกรรมก็ได้สัตว์พาหนะเฉิงหวง
ทุกคนตกใจกับผลการต่อสู้ครั้งนี้…!
แต่เดิมคิดว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งล้มทันทีแน่ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนล้มทันทีจริง ๆ ล้มไปที่เจ้าเวรกรรม!
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่เฟยเสียง? ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาอ่อนแอมากแบบนี้เหรอ?”
“ไม่ใช่…แต่ทำไมฉันถึงคิดว่าเจ้าเวรกรรมและ X แข็งแกร่งเกินไป”
“เจ้าเวรกรรมนั่นมันอะไรกัน เขาเพิ่งเลเวล 30 แท้ ๆ แล้วทำไมเขาถึงใช้ดาบมือใหม่ล้ม‘หว่อเจิ้งจ้ายเฟยเสียง’ได้? มันไม่ได้ต่างกับการเอาชนะด้วยมือเปล่าเลยนะ?!”
“เทพ X ก็ไม่ได้เอาชนะพี่เฟยเสียงด้วยมือเปล่าหรอกเหรอ? เทพก็คือเทพจริง ๆ ”
“เทพ X อยู่เลเวลสูงกว่า‘หว่อเจิ้งจ้ายเฟยเสียง’และเขาโค่น‘หว่อเจิ้งจ้ายเฟยเสียง’ได้มันก็ปกติไหม แต่สถานการณ์ของเจ้าเวรกรรมคืออะไร เขาจะเอาชนะเฟยเสียงด้วยมือเปล่าได้อย่างไรในเมื่อเลเวลของเขาต่ำแบบนี้?”
“ต่อไปตัดสินว่าใครเป็นยอดฝีมือก็วัดจากการโค่น‘หว่อเจิ้งจ้ายเฟยเสียง’ ได้หรือไม่ มาเป็นมาตรฐาน คนที่เอาชนะได้ก็เป็นยอดฝีมือ…”
มีการถกเถียงกันมากมายในเวลานี้
หลังจากได้รับข่าวจากเว็บบอร์ดจินฟานและซุนชือก็รีบไปช่วยซูเย่ ตอนแรกก็อยากจะมาช่วย แต่พวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าพรรคถูเมาเมี่ยโก่วจะถูกซูเย่จัดการเรียบอีกแล้ว!
“เสี่ยวเย่ก็คือเสี่ยวเย่…ยอดเยี่ยม!”
จินฟานและซุนชือถอนหายใจด้วยความโล่งอกในเวลาเดียวกัน ซูเย่ไม่เป็นอะไร พวกเขาก็โล่งใจได้
แต่พอวางใจลงได้…ทั้งคู่ก็ชะงักค้างอีกครั้ง…
“เสี่ยวเย่สามารถล้มผู้เล่นเลเวล 36 ที่อยู่อันดับสองในการจัดอันดับได้งั้นเหรอ?!”
“หมายความว่าพวกเราผู้ฝึกยุทธ์ก็สามารถล้มผู้เล่นระดับสูงด้วยมือเปล่าได้น่ะสิ!”
……
อีกทางฟากหนึ่ง
พี่น้องตระกูลไป๋ที่รีบเร่งมาช่วยเหลือ เมื่อได้ยินว่าเจ้าเวรกรรมสามารถจัดการยอดฝีมืออันดับสองและคนอีกร้อยกว่าคนได้ ก็เบาใจลงได้บ้าง…
ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง แล้วคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกัน…
“พวกเราก็สามารถล้มผู้เล่นระดับสูงด้วยมือเปล่าได้งั้นเหรอ?”
ไป๋จือหรานกล่าวอย่างพิจารณา…
“งั้นก็หมายความว่า ผู้เล่นธรรมดาที่ระดับสูงดูเหมือนว่าจะได้สิทธิ์พิเศษเยอะ แต่ระดับความสามารถที่ได้มาง่ายดาย ก็เพียงเพื่อให้ระดับความสามารถเทียบเท่ากับพวกเรา ถึงขั้นที่อาจจะสู้พวกเราไม่ได้?”
ไกลออกไป
ผู้เล่นธรรมดาที่ผ่านมาหยุดเท้าลงทันที เมื่อหันมามองสองพี่น้องสาวจนคอแทบหัก
“ว้าว สวยจังเลย เทพธิดาลงมาจุติงั้นเหรอ?”
“บนโลกจะมีคนสวยขนาดนี้ได้ยังไง เป็น NPC สองตัวหรือเปล่า?”
เพราะว่าเปลี่ยนหมวก VR แล้ว และยังเชื่อมต่อกับข้อมูลส่วนบุคคล ใบหน้าของพี่น้องตระกูลไป๋จึงไม่เหมือนกันกับก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่แท้จริง เหมือนกับโลกปัจจุบัน
มองเห็นผู้เล่นมองตนจนน้ำลายหกจากไกลๆ
ไป๋จือหรานและไป๋จือเหยียนมองหน้ากัน จึงใส่แมส N95 ทันทีแล้วรีบหันกายจากไป
“พวกเราก็ล้มผู้เล่นระดับสูงด้วยมือเปล่าได้งั้นเหรอ?”
ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์ส่วนมากก็มีความคิดแบบเดียวกัน…
เจ้าเวรกรรมทำได้ พวกเขาก็ต้องทำได้สิ!
ล้มเลเวล 36 ไม่ได้ แล้วเลเวล 35 ก็จะไม่ได้ด้วยเลยหรือ?
พวกเขาเป็นใคร พวกเราน่ะคือผู้ฝึกยุทธ์ที่เป็นความภาคภูมิใจของเบื้องบน และด้วยความคิดนี้ ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์คนหนึ่งจึงไปหาผู้เล่นธรรมดาเลเวล 35 ที่อยู่อันดับ 200 แล้วทำการยั่วยุปลุกปั่น
ผลปรากฏว่า ผู้เล่นที่มีอุปกรณ์ระดับสูงทั้งร่าง ปล่อยทักษะการต่อสู้ที่มีพลังโจมตีรุนแรงออกมาหนึ่งท่า ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นจึงตายเรียบ
ผู้ฝึกยุทธ์ “……”
ใครมันบอกว่าสามารถฆ่าผู้เล่นเลเวลสูงกว่าได้วะ?!
เมื่อเกิดใหม่ก็รีบไปโพสต์ลงบนบอร์ดผู้ฝึกยุทธ์ทันที…
“ทุกคนอย่าโง่ไปหน่อยเลย เมื่อกี้ฉันไปท้าผู้เล่นเลเวล 35 ที่มีอันดับอยู่ที่ร้อยกว่า ๆ สรุปว่าท่าเดียวก็ตายแล้ว แค่ป้องกันตัวยังทำไม่ได้เลย แม่งเอ้ย! ตกไปหนึ่งเลเวล เจ็บใจว้อย…!”
โพสต์นี้ดึงดูดความสนใจของผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์เกือบทั้งหมดในทันที
“ฉันก็ไปลองมาเหมือนกัน ทักษะการต่อสู้ที่ผู้เล่นธรรมดาใช้แข็งแกร่งเกินไป เราต้านทานมันไม่ได้เลย!”
“งั้นเจ้าเวรกรรมไปทำอีท่าไหนถึงได้ล่ะ!”
“นอกซะจากว่าคุณจะหลบเลี่ยงการโจมตีของผู้เล่นธรรมดาได้”
“ใครมันจะไปหลบได้!”
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนรู้สึกหดหู่ใจ…
ปรากฏว่าความคิดที่จะค่อย ๆ ทะยานขึ้นไปเป็นผู้แข็งแกร่งในเกมส์ก็สลายไปทันที จิตใจราวกับตายด้านแล้วยังถูกสาดด้วยน้ำเย็นอีกที
รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ในยามนี้
ประกาศก็เด้งขึ้นบนท้องฟ้าอย่างฉับพลัน…
“ประกาศกิจกรรม : อีกสองวันระบบจะเปิดรูปแบบการไล่ฆ่า เมื่อถึงเวลาจะมีการเลือกผู้เล่นจำนวนหนึ่งเป็น ‘เป้าหมาย’ และ ‘ผู้ล่า’ เพื่อเริ่มกิจกรรมไล่ฆ่า”
“ผู้ล่าสามารถฆ่าเป้าหมายได้หนึ่งคน อัพ 1 เลเวล”
“เป้าหมายสามารถฆ่าผู้ล่าได้หนึ่งคน จะได้เลเวลเดียวกับผู้ล่าทันที”
“รายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติม กรุณากดลิงก์เพื่อดูคลิปอธิบายที่เว็บบอร์ด”
……
เมื่อได้อ่านประกาศฉบับนี้ ทุกคนในเกมส์ล้วนตะลึงงัน…
“นี่มันอะไรกัน?”
“วิธีเล่นแบบใหม่งั้นเหรอ?”
ทุกคนยังคงรู้สึกงงงวย…
เมื่อพิจารณาอย่างละเอียด ถึงได้เข้าใจความหมาย…
ให้ผู้เล่นฆ่ากันเอง?
“โหดเกินไปแล้ว!”
“ให้พวกเราไล่ฆ่ากันเองเหรอ?!”
“ถ้าที่บอกว่าให้ฆ่าผู้เล่นแล้วจะได้เลเวลของคนนั้นทันที งั้นก็เท่ากับว่าฆ่ายอดฝีมือเลเวล 40 คนหนึ่ง ก็จะเลเวลตันทันทีน่ะสิ…”
“ถูกน่ะมันก็ถูก แต่เงื่อนไขคือเราจะต้องเอาชนะ x ให้ได้”
“เป้าหมายก็ดีนะ ฉันอยากเป็นเป้าหมาย ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจน่ะผู้ล่าไม่ได้สัมผัสแน่นอน”
“ผู้ล่าดีกว่าชัดๆ! ”
ณ ที่แห่งหนึ่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…..กิจกรรมนี้ดี ฉันจะต้องเป็นผู้ล่าให้ได้!”
จางจงหมิงหัวเราะลั่นพลางกล่าว “ฉันมีดาบเวหา ความเร็วของฉันจะต้องเร็วที่สุดแน่นอน เมื่อถึงเวลาไม่มีใครไล่ตามทันแน่ เป้าหมายทั้งหมดอย่าหวังว่าจะได้หนี…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]