เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 22

สรุปบท บทที่ 22 หนีไปด้วยกันไหม?: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

อ่านสรุป บทที่ 22 หนีไปด้วยกันไหม? จาก เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดย Internet

บทที่ บทที่ 22 หนีไปด้วยกันไหม? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บท​ที่​ 22 หนี​ไป​ด้วยกัน​ไหม​?

“เข้าไป​คุย​กัน​ใน​ห้อง​”

ซูเย่​บอก​ให้​ทั้งสอง​เงียบเสียง​ลง​ และ​ดึง​สอง​พี่น้อง​ไป๋​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ของ​พวก​เธอ​

“ลูกพี่​ซู หา​ที่นี่​เจอ​ได้​ยังไง​ เจ๋งไป​เลย​!”

ไป๋​จือเหยียน​ยก​นิ้วโป้ง​ให้​อย่าง​มีความสุข​

“บอก​ฉัน​มาว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ พวก​เธอ​มาอยู่​ที่นี่​ได้​ยังไง​”

ซูเย่​เอ่ย​ถามอย่าง​ร้อนรน​

“พ่อ​โทร​มาบอ​กว่า​สุขภาพ​ของ​แม่ไม่ค่อย​ดี​ ต้อง​รีบ​กลับบ้าน​ พวกเรา​เลย​รีบ​กลับมา​ แต่​เจอ​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​บน​เครื่อง​ ยืนกราน​จะรับ​เรา​สอง​พี่น้อง​เป็น​ศิษย์​ บอ​กว่า​เรา​มีแกน​กระดูก​ที่​เหมาะกัน​การฝึกฝน​”

ไป๋​จือ​หรา​นข​มวด​คิ้ว​พลาง​เอ่ย​เล่า​เรื่องราว​ทั้งหมด​

“เรา​สอง​คน​ไม่สนใจ​เธอ​ แต่​พอ​เรา​กลับ​ถึงบ้าน​ ไม่รู้​ว่า​ทำไม​เธอ​ถึงมาที่​บ้าน​ได้​ แล้วไป​คุย​กับ​พ่อ​ของ​ฉัน​ สุดท้าย​ก็​โน้มน้าว​พ่อ​ฉัน​จน​สำเร็จ​ รายละเอียด​ฉัน​ก็​ไม่แน่ใจ​ว่า​เขา​คุย​อะไร​กัน​ หลังจากนั้น​เธอ​ก็​พา​เรา​มาที่นี่​ เรา​ไม่ได้​อยาก​มา แต่​เรา​ทำ​อะไร​ไม่ได้​เลย​ เธอ​คน​นั้น​เก่ง​มาก​จริง ๆ​ และ​เรา​ก็​ถูก​จัดการ​ได้​ใน​กระบวน​ท่าเดียว​”

“ฮึ”

ทันทีที่​ไป๋​จือ​หรา​น​พูด​จบ​ ไป๋​จือเหยียน​ก็​กล่าว​เสริม​ทันที​ “คน​นั้น​พูด​โน้มน้าว​ซะที่ไหน​ ให้​กำลัง​จน​ยอม​มากกว่า​!”

เมื่อ​ซูเย่​ได้ยิน​เรื่องราว​ทั้งหมด​ เขา​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ดูเหมือนว่า​คุณพ่อ​ไป๋​ก็​ถูก​บังคับ​เหมือนกัน​ ไม่อย่างนั้น​ ตอนที่​เขา​ไปหา​ที่​บ้าน​คง​ไม่พูด​เรื่อง​สำนัก​เมฆาคราม​ออกมา​อย่าง​ง่ายดาย​

ซูเย่​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ แต่​จากนั้น​เขา​พลัน​ขมวดคิ้ว​แน่น​ และ​ส่งสัญญาณให้​สอง​พี่น้อง​ไป๋​หยุด​พูด​ ภายใต้​สายตา​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​ฉงนใจ​ของ​สอง​พี่น้อง​ไป๋​ ซูเย่​ไป​ซ่อนตัว​อยู่​ใต้​เตียง​อย่าง​กะทันหัน​

และ​ใน​ตอนนี้​เอง​ มีเสียง​ฝีเท้า​ดัง​มาจาก​นอก​ประตู​!

วินาที​ถัดมา​ หญิงสาว​ที่​มีผิวขาว​ราว​หญิง​สาวแรกรุ่น​ผลัก​ประตู​เข้ามา​ด้วย​อารมณ์​ขุ่นมัว​ แล้ว​พูด​กับ​สอง​พี่น้อง​ไป๋​

“อีก​ห้า​วัน​ ฉัน​จะจัด​พิธี​รับ​ศิษย์​ และ​ประกาศ​อย่าง​เป็นทางการ​ให้​คน​ทั้งโลก​รู้​ว่า​ฉัน​จะรับ​เธอ​สอง​คน​เป็น​ศิษย์​”

ที่​ใต้​เตียง​ ซูเย่​ใช้พลัง​พิเศษ​เพื่อ​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​อย่าง​สมบูรณ์​

หญิงสาว​ที่มา​เพื่อ​เตือน​สอง​พี่น้อง​ไป๋​ จึงไม่ได้​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​แม้แต่น้อย​

“และ​เริ่ม​ตั้งแต่​วันนี้​ ไป​เรียน​ภาค​ค่ำ​ตอน​หนึ่ง​ทุ่ม​ทุกวัน​ ห้าม​ไป​สาย​เด็ดขาด​!”

หญิงสาว​มอง​สอง​พี่น้อง​ไป๋​ด้วย​รอยยิ้ม​ แต่​น้ำเสียง​ของ​เธอ​แฝงแวว​ความเข้มงวด​อยู่​หลาย​ส่วน​

“ทราบ​แล้ว​ค่ะ​”

ไป๋​จือ​หรา​น​รั้ง​แขน​ของ​น้องสาว​ที่​ดู​ไม่พอใจ​ไว้​แล้ว​เอ่ย​ตอบ​อย่าง​อ่อนน้อม​ทันที​ “เรา​จะตาม​ไป​เดี๋ยวนี้​”

“อืม​ อย่า​ชักช้า​ล่ะ​”

อีก​ฝ่าย​พยักหน้า​พอใจ​ แล้ว​เดิน​ออก​ไป​

เมื่อ​รอ​จน​แน่ใจ​ว่า​เธอ​เดิน​ออก​ไป​ไกล​แล้ว​ ซูเย่​จึงออก​มาจาก​ใต้​เตียง​ แล้ว​นั่งลง​บน​พื้นห้อง​ ไม่ได้​ยืน​ขึ้น​ในทันที​ ตอนนี้​เขา​กำลัง​สับสน​

“เป็น​อะไร​ไป​?”

ไป๋​จือ​หรา​น​เอ่ย​ถาม

“เธอ​สอง​คน​อยาก​ออก​ไป​กับ​ฉัน​หรือ​อยู่​ที่นี่​?”

ซูเย่​เงยหน้า​ถาม

“ก็​ต้อง​ไป​กับ​นาย​น่ะ​สิ!”

ไป๋​จือเหยียน​โพล่ง​ขึ้น​มาทันที​

ไป๋​จือ​หรา​น​ก็​พยักหน้า​เห็นด้วย​

“ฉัน​ต้อง​อธิบาย​ให้​กระจ่าง​ ที่จริง​แล้ว​สำนัก​เมฆาคราม​ เป็น​สถานที่​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​สำหรับ​เธอ​ใน​การฝึกฝน​ เมื่อ​พิจารณา​จาก​สถานการณ์​ใน​ปัจจุบัน​ ที่นี่​เป็น​สำนัก​การฝึกฝน​ที่​ดี​ที่สุด​สำหรับ​ผู้หญิง​ และ​ฉัน​ก็​ไม่มีวิธีฝึก​ที่​เหมาะสม​สำหรับ​ผู้หญิง​จะสอน​ให้​พวก​เธอ​ เธอ​สอง​คน​จะสามารถ​ฝึกฝน​ได้​เร็ว​ขึ้น​ถ้าอยู่​ที่นี่​”

ซูเย่​เอ่ย​พูด​อย่าง​ลังเล​

หญิงสาว​ที่​เดิน​เข้ามา​เมื่อ​ครู่​ มีความสามารถ​มาก​แน่นอน​ และ​เธอ​ก็​คู่ควร​ที่จะ​เป็น​อาจารย์​ของ​สอง​พี่น้อง​ไป๋​

“นาย​หมายความว่า​ยังไง​?”

ไป๋​จือ​หรา​น​เอ่ย​ถาม

“ที่นี่​เป็นประโยชน์​อย่างยิ่ง​ต่อ​การฝึกฝน​ของ​พวก​เธอ​ และ​ยัง​เป็น​โอกาส​ที่​หา​ยาก​ เธอ​สอง​คน​เป็น​คน​มีความสามารถ​ ถ้าอยาก​อยู่​ ก็​อยู่​เถอะ​”

ซูเย่​เอ่ย​เสริม​ต่อ​ทันที​ “แต่​ถ้าอยาก​ออก​ไป​ ฉัน​จะพา​ออก​ไป​เอง​ ไม่ว่า​ใคร​หน้า​ไหน​ก็​ขัดขวาง​ไม่ได้​แน่นอน​”

เมื่อ​ได้​ครุ่นคิด​จาก​คำพูด​ของ​ซูเย่​ สอง​พี่น้อง​ไป๋​ก็​มองหน้า​กัน​อย่าง​ลังเล​เล็กน้อย​

นี่​เป็น​โอกาส​ที่​ดี​จริง ๆ​ แต่​…

หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​

“ฉัน​อยาก​อยู่​ต่อ​ ฉัน​ไม่อยาก​เป็น​ภาระ​ของ​นาย​ ความเร็ว​ใน​การฝึกฝน​ของ​นาย​เร็ว​เกินไป​ ฉัน​ไม่ต้องการ​ให้​ช่องว่าง​ระหว่าง​เรา​ใหญ่​เกินไป​ มีเพียง​ที่นี่​เท่านั้น​ที่จะ​ช่วย​ให้​ฉัน​ตาม​นาย​ได้​ทัน​”

ไป๋​จือ​หรา​น​ตัดสินใจ​อยู่​ต่อ​และ​พูด​กับ​ซูเย่อ​ย่าง​จริงจัง​

ซูเย่​ผงะ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เขา​รู้สึก​เห็นใจ​ไป๋​จือ​หรา​น​ และ​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​ที่​อีก​ฝ่าย​คิด​เพื่อประโยชน์ของ​เขา​ด้วย​

“ลูกพี่​ซู ตอน​นาย​ไม่พูด​ ฉัน​ไม่อยาก​อยู่​ต่อ​เลย​ แต่​พอ​นาย​บอก​ ฉัน​ก็​อยาก​อยู่แล้ว​ละ​”

ไป๋​จือเหยียน​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไม่ว่า​ยังไง​ก็ตาม​ นี่​เป็น​สำนัก​ฝึกฝน​ที่​เป็นทางการ​ ซึ่งดีกว่า​การ​ฝึก​ด้วยตัวเอง​อยู่แล้ว​”

“แต่ว่า​..”

ไป๋​จือ​หรา​น​เหมือน​จะพูด​บางอย่าง​ แต่​เธอ​ก็​ไม่ได้​พูด​ต่อ​

“มีอะไร​รึเปล่า​”

ซูเย่​เอ่ย​ถามทันที​

“ถ้าฉัน​อยู่​ที่นี่​ เรา​คง​ไม่มีโอกาส​ได้​เจอกัน​อีก​ในอนาคต​ ฉัน​จะ… จะต้อง​คิดถึง​นาย​แน่​”

ไป๋​จือ​หรา​นม​อง​ไป​ที่​ซูเย่​ด้วย​ใบหน้า​เศร้าหมอง​

“เฮ้ ฉัน​ยังอยู่​ที่นี่​ สนใจ​การ​มีอยู่​ของ​ฉัน​หน่อย​ไหม​ อย่า​เพิ่ง​มาหวาน​กัน​ตอนนี้​!”

ไป๋​จือเหยียน​เอ่ย​ล้อเลียน​ทั้งสอง​คน​

“รึ​จะให้​ฉัน​ออก​ไป​ก่อน​ดี​ จะได้​สวีท​กัน​ไป​เลย​”

ไป๋​จือ​หรา​น​ “….”

ซูเย่​ “…”

“วางใจ​เถอะ​”

ซูเย่​เอ่ย​ปลอบ​ไป๋​จือ​หรา​น​ “เรา​แค่​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ไม่ใช่ว่า​ต่อไป​จะไม่ได้​เจอ​อีกแล้ว​สักหน่อย​”

“ตอนนี้​ฉัน​ก็​หา​เธอ​เจอ​แล้ว​ไง”

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ไป๋​จือเหยียน​ตกตะลึง​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ระบาย​ยิ้ม​ออกมา​

ใน​ตอนที่​เธอ​มาที่นี่​ มีขั้นตอน​ยุ่งยาก​มากมาย​ ดังนั้น​การ​ที่​ซูเย่​มาถึงที่นี่​ได้​… นับว่า​ไม่ง่าย​เลย​จริง ๆ​

“ที่นี่​ก็​ขวาง​ไม่ได้​เรา​เจอกัน​ไม่ได้​หรอก​”

ซูเย่​เอ่ย​พร้อม​รอยยิ้ม​

แววตา​สอง​พี่น้อง​ไป๋​ฉายแวว​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

ซูเย่​เก่ง​ขนาด​นี้​ได้​ยังไง​?

ทันใดนั้น​ เสียง​ระฆัง​เรียก​รวมตัว​ดัง​ขึ้น​… ได้เวลา​เข้าเรียน​ช่วง​เย็น​แล้ว​

ซูเย่​รีบ​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​ทันที​ “รีบ​ไป​เถอะ​ รอ​ตอน​ทำพิธี​รับ​ศิษย์​ ฉัน​จะมาหา​”

“นาย​จะมาเหรอ​?”

ไป๋​จือ​หรา​น​เอ่ย​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​

“แน่นอน​”

เซียว​จวิ้น​เดิน​กลับ​เข้ามา​ เอ่ย​อย่าง​เด็ดขาด​ “เบื้องบน​สั่งแล้ว​ ทาง​เชื่อม​ไป​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​ปิด​แล้ว​ ครึ่ง​เดือน​จากนี้​ถึงจะเปิด​อีกครั้ง​ ดังนั้น​คำขอ​ของ​นาย​จะไม่ได้รับ​การอนุมัติ​”

“ถ้ามีของ​แลกเปลี่ยน​ละ​ครับ​?”

ซูเย่​เอ่ย​ถาม

“ของ​อะไร​?”

เซียว​จวิ้น​ผงะ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ถามด้วย​ความสงสัย​

“เคล็ดลับ​ปราบ​อสูร​!”

ซูเย่​เอ่ย​ตอบ​พร้อม​รอยยิ้ม​ “นี่​เป็น​วิชา​ประเภท​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ควบคุม​มอนสเตอร์​ได้​ ผม​ได้​ลอง​มัน​ใน​ Fantasy Dream และ​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​แล้ว​ มัน​ใช้งาน​ได้​กับ​มอนสเตอร์​ทั้งสอง​โลก​ สามารถ​ควบคุม​มอนสเตอร์​ให้​เป็น​สัตว์พาหนะ​ได้​!”

“อะไร​นะ​?!”

เมื่อ​เซียว​จวิ้น​ได้ยิน​สรรพคุณ​ของ​มัน​ ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​แข็งทื่อ​ สีหน้า​อึ้ง​ค้าง​ แล้ว​ถามอย่าง​รวดเร็ว​ “นาย​กำลัง​พูด​เรื่องจริง​แน่​นะ​?”

“ไม่ใช่แค่​ผม​ใช้เอง​ แต่​ผม​ยัง​ส่งต่อให้​เพื่อน​คนอื่น​ใช้แล้ว​ เขา​ก็​ควบคุม​สัตว์พาหนะ​ได้​สำเร็จ​!”

ซูเย่​เอ่ย​ตอบ​อีก​ฝ่าย​

เซียว​จวิ้น​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความตกใจ​ จ้อง​ไป​ที่​ซูเย่อ​ย่าง​ไม่เชื่อ​สายตา​ “หาก​มีวิชา​แบบนี้​จริง​ ก็​จะเกิด​การเปลี่ยนแปลง​ครั้ง​ใหญ่​!”

“ฉัน​ขอ​ถามอีกครั้ง​ นาย​มีแน่​นะ​?”

“ครับ​!”

ซูเย่​พยักหน้า​ยืนยัน​และ​กล่าวว่า​ “ผม​ไม่ได้​ต้องการ​อะไร​มาก​ สิ่งนี้​แลก​กับ​โอกาส​เข้าไป​หนึ่ง​ครั้ง​ เป็นเวลา​สามวัน​เท่านั้น​ นอกจากนี้​ห้าม​หัก​ส่วนแบ่ง​สิ่งที่​ผม​ได้รับ​ แล้วก็​อย่า​บอ​กว่า​ทาง​เชื่อม​ปิด​แล้ว​ เปิด​ไม่ได้​ ทาง​เชื่อม​มัน​เปิด​ตลอดเวลา​ แค่​ต้อง​เปลือง​แรง​หน่อย​เดียว​เอง​!”

“เดี๋ยวก่อน​ ฉัน​จะรายงาน​ให้​เบื้องบน​ทราบ​และ​พิจารณา​มัน​อย่าง​จริงจัง​”

เมื่อ​พูด​จบ​ เซียว​จวิ้​นรี​บ​วิ่ง​ออก​ไป​ที่​ประตู​อย่าง​ใจร้อน​และ​รายงาน​ข้อมูล​อย่าง​รวดเร็ว​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ เซียว​จวิ้น​เดิน​กลับมา​ คราวนี้​ใบ​หน้าที่​เปี่ยม​ด้วย​ความแน่วแน่​ของ​เขา​หาย​ไป​อย่าง​สมบูรณ์​ แทนที่​ด้วย​รอยยิ้ม​

“เบื้องบน​อนุมัติ​แล้ว​!”

เซียว​จวิ้น​พูด​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​และ​จริงจัง​ “แต่ว่า​ ต้อง​ให้​นาย​ส่งของ​มาก่อน​ หลังจาก​ยืนยัน​ว่า​ไม่มีปัญหา​ ทางผ่าน​จะเปิด​ให้​นาย​โดยเฉพาะ​”

ซูเย่​ขอ​กระดาษ​และ​ปากกา​ จด​วิธีการ​ทั้งหมด​อย่าง​เงียบ ๆ​ แล้ว​ส่งให้​โดย​ไม่ลังเล​แม้แต่น้อย​

ครึ่ง​ชั่วโมง​ต่อมา​ เซียว​จวิ้นรอ​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​ และ​ในที่สุด​ก็​มีข่าว​ส่งมาว่า​ของ​ไม่มีปัญหา​!

อีก​ครึ่ง​ชั่วโมง​ เปิดทาง​เชื่อม​ได้​!

เซียว​จวิ้น​ตกตะลึง​ไป​ทั้ง​ร่าง​และ​มอง​ไป​ที่​ซูเย่อ​ย่าง​ไม่เชื่อ​สายตา​ ไม่ได้​โกหก​จริง​ด้วย​!!

“ไป​กัน​”

เซียว​จวิ้น​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ ระงับ​ความตกใจ​ของ​เขา​

“เดี๋ยวก่อน​ ผม​จะไป​เอา​ของ​บางอย่าง​จาก​หอพัก​”

ห้า​นาที​ต่อมา​ เซียว​จวิ้น​สวม​หมวก​ให้​ซูเย่​ซึ่งถือ​กระเป๋า​เป้​ใบ​ใหญ่​

นำ​ซูเย่​ไป​ที่​ทางเข้า​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​ทันที​

เข้าสู่​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​อีกครั้ง​

เวลานี้​ ซูเย่​รู้ซึ้ง​ถึงคำ​ว่า​รกร้าง​อย่าง​แท้จริง​ ใน​มหานคร​ตะวัน​ออกยาม​นี้​มีประชากร​บางตา​ น้อยกว่า​ใน​วัน​ธรรมดา​ที่ทาง​เชื่อม​เปิด​หลายเท่า​ ยกเว้น​บางคน​ที่​ดูแล​เมือง​อยู่​เป็นประจำ​ นอกนั้น​แทบ​ไม่มีคน​อยู่เลย​

โมห​ลี่​ก็​ไม่ปรากฏตัว​เช่นกัน​

แต่​เนื่องจาก​เวลา​มีน้อย​ ซูเย่​จึงไม่สนใจ​สิ่งอื่น​อีก​ และ​ออกจาก​เมือง​เพียงลำพัง​ภายใต้​สายตา​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความสงสัย​ของ​ทหารยาม​

ซูเย่​มาถึงป่า​แห่ง​หนึ่ง​ แล้ว​หยิบ​หญ้า​ปราณ​ที่​จำเป็น​สำหรับ​ยา​ทะลวง​เส้น​ลมปราณ​ออกจาก​กระเป๋า​เป้​ของ​เขา​แล้ว​เริ่ม​ต้ม​มัน​ทันที​

ไม่นาน​ ขั้นตอน​ทุกอย่าง​ก็​เรียบร้อย​ เขา​ต้ม​ยา​ทะลวง​เส้น​ลมปราณ​สำเร็จ​!

เขา​ดื่ม​มัน​ลง​ไป​ทันที​โดย​ไม่รอ​ให้​มัน​เย็น​ลง​ และ​เมื่อ​มัน​เข้าสู่​ร่างกาย​แล้ว​ ของเหลว​ที่​ร้อน​มาก​ก็​กลายเป็น​เพียงแค่​อุ่น​ ๆ เท่านั้น​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]