เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 21

สรุปบท บทที่ 21 เธอไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน!: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

สรุปตอน บทที่ 21 เธอไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน! – จากเรื่อง เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดย Internet

ตอน บทที่ 21 เธอไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน! ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บท​ที่​ 21 เธอ​ไม่คู่ควร​กับ​ลูกสาว​ฉัน​!

แม้ว่า​จะคาด​ไว้​แต่แรก​แล้ว​ แต่​ซูเย่​ก็​ยัง​รู้สึก​ตกใจ​มาก​อยู่ดี​ คฤหาสน์​ที่​หรูหรา​ และ​ยังมี​ทิวทัศน์​รอบ​ ๆ เป็น​ทะเลสาบ​ ไหนจะ​ขนาด​ของ​คฤหาสน์​หลัง​นี้​มีขนาดใหญ่​มาก​ และ​มีผู้คุ้มกัน​ยืน​เฝ้าที่​ประตู​นี่​อีก​

“บ้าน​รวย​จริง​ด้วย​!”

เมื่อ​ลง​จาก​รถ​ ซูเย่​เดิน​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​โดยตรง​

“คฤหาสน์​ส่วนตัว​ คนนอก​ห้าม​เข้า​”

ก่อนที่​ซูเย่​จะไป​ถึงประตู​ ผู้คุ้มกัน​ทั้งสอง​รั้ง​เขา​ไว้​ทันที​และ​ขวางทาง​ซูเย่​ไว้​ด้วย​ความระมัดระวัง​ แต่​ซูเย่​ก็​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะเข้าไป​แบบ​ปกติ​อยู่แล้ว​ ทันทีที่​ฝีเท้า​ของ​เขา​เคลื่อน​ไป​ ตัว​ของ​เขา​ก็​หาย​ผ่าน​ไป​ตรงหน้า​ของ​ผู้คุ้มกัน​ทั้งสอง​คน​

ใน​ช่วง​พริบตาเดียว​ เขา​ก็​เข้ามา​ใน​คฤหาสน์​ได้​สำเร็จ​!

“นั่น​ใคร​?”

เพิ่ง​เดิน​เข้าไป​ได้​ไม่กี่​ก้าว​ ก็​ได้ยิน​เสียง​ปริศนา​เอ่ย​ถาม

สวบ​——

ผู้ฝึก​ยุทธ์​สอง​คน​พุ่ง​เข้า​มาจาก​ระยะไกล​อย่าง​กะทันหัน​

ซูเย่​หันไป​มองตาม​เสียง​ ตัดสิน​จาก​บรรยากาศ​โดยรอบ​ ทั้งสอง​คน​นั้น​คือ​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ขั้น​สาม

“เจ้าของบ้าน​อยู่​ที่ไหน​?”

ซูเย่​เอ่ย​ถาม

“ที่นี่​ไม่ใช่ที่​ที่​ใคร​จะเข้ามา​ก็ได้​ รีบ​ออก​ไป​ง่าย ๆ​ จะดีกว่า​”

ทั้งสอง​จ้องมอง​ซูเย่อ​ย่าง​ไม่เป็นมิตร​

ซูเย่​ขี้เกียจ​เกินไป​ที่จะ​พูด​เรื่องไร้สาระ​กับ​พวกเขา​ ดังนั้น​ชายหนุ่ม​จึงทะยาน​เข้า​ไปหา​คน​ทั้งสอง​โดยพลัน​ เห็นได้ชัด​ว่า​ทั้งสอง​คน​ยัง​ไม่ได้​ได้​ตอบ​โต้กลับ​ และ​พวกเขา​ก็​ต้อง​ตกใจ​มากกว่า​เดิม​เมื่อ​พบ​ว่า​ไม่สามารถ​ต้านทาน​ซูเย่​ได้​เลย​

เพียง​หนึ่ง​กระบวนท่า​ ทั้งสอง​ถูก​ซูเย่​จับ​ยัน​ไว้​กับ​พื้นสนาม​

“พา​ผม​ไปหา​เจ้านาย​ของ​พวกคุณ​”

ซูเย่​เอ่ย​กับ​อีก​ฝ่าย​

“เด็ก​ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง​คน​นี้​มาจาก​ไหน​!”

น้ำเสียง​สุขุม​ดังก้อง​ขึ้น​

ซูเย่​หัน​ศีรษะ​ไป​มอง​ผู้มาใหม่​

ด้านหน้า​ คือ​ ชาย​วัยกลางคน​ที่​กำลัง​เดิน​ออกจาก​คฤหาสน์​มายัง​พื้นหญ้า​ใน​สวน​ เขา​ดู​สงบนิ่ง​ และ​มอง​ไป​ที่​ซูเย่​โดย​สายตา​ที่​ไม่แยแส​อีก​ฝ่าย​

“ขั้น​สี่ระดับ​สาม?”

ซูเย่​ค่อย ๆ​ ปล่อยมือ​ออกจาก​สอง​ก่อน​ก่อนหน้า​

ไม่น่า​ล่ะ​ พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​นม​อง​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ว่า​ทำงาน​ขาย​ชีวิต​ เพราะ​เขา​เลี้ยง​ผู้ฝึก​ยุทธ์​เอาไว้​ส่วนตัว​!

“จะขวาง​กัน​งั้น​เหรอ​?”

ซูเย่​มอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​เย็นชา​

“เหอะ​เหอะ​”

ผู้ฝึก​ยุทธ์​วัยกลางคน​เริ่ม​ออก​กระบวนท่า​ทันที​ ซูเย่​เอง​ก็​โจมตี​อีก​ฝ่าย​กลับ​อย่าง​ทันท่วงที​

ผู้ฝึก​ยุทธ์​วัยกลางคน​ขั้น​สี่ระดับ​สาม ฉายแวว​ดูถูก​เหยียดหยาม​ใน​ครา​แรก​ แต่​เมื่อ​ปะ​มือ​กับ​ซูเย่​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที​

เขา​พบ​ว่า​ตนเอง​ไม่สามารถ​จัดการ​เด็กหนุ่ม​ขั้น​สามระดับ​หก​คน​นี้​ได้​ และ​ยัง​ถูก​ฝ่ายตรงข้าม​ไล่ต้อน​ตั้งแต่​ครั้งแรก​ของ​ปะทะ​กัน​

นี่​มัน​อะไร​กัน​?

เขา​ผงะ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เริ่ม​คุม​สติ​ไว้​ไม่อยู่​ ใน​ฐานะ​ที่​เป็นยอด​ฝีมือ​ขั้น​สี่ระดับ​สาม ภายใน​สอง​กระบวนท่า​ เขา​กลับ​ถูก​เด็ก​ขั้น​สามระดับ​หก​กด​ไว้​อยู่หมัด​ และ​ไม่สามารถ​โต้กลับ​ได้​เลย​!

“ผลั่ก!”​

ซูเย่​ฝาด​สันมือ​ไป​ที่​หลัง​คอ​ของ​อีก​ฝ่าย​จน​สลบ​ไป​ จากนั้น​เขา​ก็​หันหลัง​กลับ​ มอง​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​สุด​หรู​นั้น​

ใน​ยาม​นี้​ เงาร่าง​ของ​ชาย​วัยกลางคน​ที่​ดู​คุ้นเคย​ ก็​ก้าว​ออก​มาจาก​เรือน​บ้าน​อย่าง​เชื่องช้า​ คน​นั้น​ก็​คือ​พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​น​

“พวก​สวะ​!”

เขา​เหลือบมอง​ไป​ที่​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ขั้น​สามสอง​คน​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ระยะไกล​และ​ไม่กล้า​ต่อสู้​กับ​ซูเย่​ จากนั้น​มอง​ไป​ที่​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ระดับ​สี่ที่​ซูเย่​โคน​ลง​ได้​ คุณพ่อ​ไป๋​ พ่นลม​หาย​ออกมา​อย่าง​รุนแรง​ด้วย​ความไม่พอใจ​

มีแวว​ความประหลาดใจ​เล็กน้อย​ใน​สายตา​ของ​เขา​ที่​มอง​ซูเย่​ เขา​ไม่ได้คิด​ว่า​ซูเย่​จะมีความสามารถ​เช่นนี้​ ยอด​ฝีมือ​คน​ที่​ซูเย่​ปะทะ​ด้วย​ คือ​ยอด​ฝีมือ​ที่​เขา​จ้างมา 10 ล้าน​หยวน​ต่อ​ปี​ แต่อ​ีกฝ่าย​กลับ​ถูก​ซูเย่​โจมตี​อย่าง​ง่ายดาย​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ เขา​ก็​ยัง​ไม่มอง​ซูเย่อ​ยู่​ใน​สายตา​ของ​เขา​อยู่ดี​

“บุกรุก​บ้าน​คนอื่น​แบบนี้​เลย​เหรอ​?”

พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​นม​อง​ซูเย่​พลาง​เอ่ย​อย่าง​เฉยชา​ “จาก​ข้อมูล​ที่​ฉัน​สืบมา​ เธอ​กับ​ไป๋​จือ​หรา​น​รู้จัก​กัน​ได้​ไม่นาน​ เวลา​ที่​คบ​กัน​ยัง​สั้น​อยู่​ คง​ไม่ได้​รัก​ลึกซึ้ง​อะไร​มากมาย​หรอก​ใช่ไหม​”

“ผม​จริงจัง​”

ซูเย่​เอ่ย​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “ผม​ไม่ชอบ​ถูก​ท้าทาย​ และ​ไม่ชอบ​ให้​คนอื่น​มายุ่ง​เรื่อง​ของ​ผม​”

“ฮึ”

พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​นย​ก​ยิ้มมุมปาก​ เอ่ย​อย่าง​ดูแคลน​ “ไม่เจอกัน​ไม่กี่​วัน​ ปากร้าย​กว่า​เดิม​เสียแล้ว​ ก็​ถือได้ว่า​มีความสามารถ​อยู่​บ้าง​ แต่​เธอ​มาตอนนี้​ก็​ไม่มีประโยชน์​ เพราะ​มัน​สาย​ไป​แล้ว​”

“มาช้าไป​..”

ซูเย่​เอ่ย​ถามทันที​ “จือ​หรา​นอ​ยู่​ที่ไหน​ครับ​?”

พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​น​ถอนหายใจ​พลาง​เอ่ย​กับ​ซูเย่​

“ตอนแรก​นาย​ไม่คู่ควร​กับ​ลูกสาว​ฉัน​ ตอนนี้​นาย​ยิ่ง​ไม่คู่ควร​กับ​เธอ​!”

“จือ​หรา​นอ​ยู่​ไหน​ครับ​?”

ซูเย่​เอ่ย​ถาม

“เธอ​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ์​ คงจะ​พอ​รู้จัก​สำนัก​โบราณ​อยู่​บ้าง​ใช่ไหม​”

พ่อ​ของ​ไป๋​จือ​หรา​น​ย้อนถาม​ “สำนัก​เมฆาคราม​ เคย​ได้ยิน​ไหม​?”

สำนัก​เมฆาคราม​?

ซูเย่​ขมวดคิ้ว​โดยพลัน​ เขา​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​นี้​จริง ๆ​ แต่ว่า​ไม่ใช่ใน​ปัจจุบันนี้​ แต่​เป็น​สอง​พัน​กว่า​ปีก่อน​ใน​สมัย​ฮั่น​ตะวันตก​

ในขณะนั้น​ ซูเย่​แทบจะ​อยู่​ที่​จุดสูงสุด​ของ​เส้น​ทางการ​ฝึก​ยุทธ์​แล้ว​ เขา​เดินทาง​ไป​ทั่ว​โดย​ไม่ได้​วางแผน​อะไร​เป็นพิเศษ​ และ​บังเอิญ​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​สำนัก​ผู้ฝึก​ยุทธ์​โบราณ​ที่​ก่อ​ตั้งขึ้น​ใหม่​

สำนัก​นั้น​ก็​คือ​ สำนัก​เมฆาคราม​!

ใน​อีก​ร้อย​ปี​ต่อมา​ ซูเย่​ยังคง​ได้ยิน​ข่าว​ต่าง ๆ​ เกี่ยวกับ​สำนัก​นี้​อยู่​เรื่อย​มา และ​เขา​ก็​เคย​ไป​ที่นั่น​ด้วย​

หลังจากนั้น​ก็​ได้ยิน​ว่า​ปิดประตู​สำนัก​แล้ว​

คิดไม่ถึง​ว่า​อีก​สอง​พัน​กว่า​ปี​ต่อมา​ เขา​จะได้ยิน​ชื่อ​สำนัก​เมฆาคราม​อีกครั้ง​ ดูท่า​ว่า​คงจะ​ปลีกตัว​ออกจาก​เรื่องราว​ใน​โลก​นี้​ไป​แล้ว​

อย่างไรก็ตาม​ สำนัก​นี้​ยังคง​มีการสืบทอด​อยู่​ ความจริง​ที่ว่า​สำนัก​โบราณ​ที่​ได้รับ​การสืบทอด​มานาน​กว่า​สอง​พันปี​ สามารถ​พิสูจน์​ได้​ว่า​เจริญ​รุ่ง​เรื่อง​และ​เติบโต​ได้​มาก​ขนาด​ไหน​ ใน​ปัจจุบันนี้​ สำนัก​ที่​สืบทอด​กัน​มาหลาย​พันปี​ต้อง​มีภูมิหลัง​ที่​น่ากลัว​มาก​

“ใช่แล้ว​ ฉัน​ยอมรับ​”

คุณพ่อ​ไป๋​พยักหน้า​รับ​และ​กล่าว​ต่อ​ “จือ​หรา​น​กับ​จือเหยียน​ถูก​ฉัน​หลอก​ให้​กลับมา​ แต่​ระหว่างทาง​กลับบ้าน​ คน​จาก​สำนัก​เมฆาคราม​ได้​เห็น​เข้า​ และ​ต้องการ​รับ​เธอ​เป็น​ศิษย์​”

“แม้ว่า​ฉัน​จะดูถูก​พวก​ที่​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​ แต่​ฉัน​ก็​ไม่สามารถ​ต่อกร​กับ​สำนัก​เมฆาคราม​ได้​ สถานะ​ของ​สำนัก​เมฆาคราม​ไม่ได้​ต่ำต้อย​เลย​ ดังนั้น​ฉัน​ทำได้​แค่​ตกลง​ให้​ลูกสาว​ของ​ฉัน​เข้าร่วม​สำนัก​”

“ตอนนี้​ลูกสาว​ของ​ฉัน​มีตัวตน​เพิ่ม​มาอีก​ชั้นหนึ่ง​ ส่วน​เธอ​.. ซูเย่​ เธอ​ในเวลานี้​ยิ่ง​ไม่คู่ควร​กับ​ลูกสาว​ของ​ฉัน​”

ไม่นาน​ ชาวสวน​ร่าง​กำยำ​คน​เดิม​ก็​เดิน​ออกมา​ เหลือบมอง​ซูเย่​ “ไป๋​จือ​หรา​นบ​อก​ว่า​ไม่รู้จัก​คุณ​ กลับ​ไป​ซะ!”

พูด​จบ​ก็​หันไป​ปลูก​ผัก​ต่อ​

ซูเย่​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ซูเย่​จำได้​แม่นยำ​ว่า​ทางเข้า​สำนัก​อยู่​ที่​ใน​กระท่อม​หลัง​นี้​ และ​คนสวน​ก็​คือ​คน​เฝ้าประตู​สำนัก​

สำนัก​ที่​สามารถ​สืบทอด​มานับ​พันปี​ และ​ที่ตั้ง​ของ​สำนัก​เมฆาคราม​ก็​คือ​มิติ​เล็ก​ ๆ

โดยสรุป​แล้ว​ ก็​คือ​โลก​มิติ​เล็ก​ ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่​ไม่มีอยู่​จริง​บน​พื้นโลก​ ก็​เหมือนกับ​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​ เพียงแต่​ดินแดน​ภูผา​มหา​นที​ซ่อน​อยู่​นอก​โลก​ใบ​นี้​ ส่วน​สำนัก​เมฆาคราม​ซ่อน​อยู่​บน​พื้นโลก​

เพื่อให้​สำนัก​ของ​ตัวเอง​ปลีก​วิเวก​หลบ​ซ่อนตัว​ออกจาก​เรื่อง​ทางโลก​ หลาย​สำนัก​ที่​มีลักษณะ​คล้าย​กัน​ก็​จะวาง​ค่าย​กล​ขนาดใหญ่​ไว้​ เพื่อ​แยกตัว​ออกจาก​โลก​ความจริง​

จาก​ภายนอก​ไม่มีทาง​รับรู้​ถึงการ​มีอยู่​ของ​พวกเขา​แน่นอน​ นอกจาก​จะเข้า​ผ่าน​ทาง​เชื่อม​ที่​มีอยู่​ อีก​หนึ่ง​วิธี​ที่​สามารถ​เข้าไป​ได้​คือ​ทำลาย​ค่าย​กล​ที่​บังตา​อยู่​

ซูเย่​ถอย​ออกมา​ไกล​โดย​ไม่ต่อปากต่อคำ​กับ​ชาวสวน​คน​นั้น​

ทาง​เชื่อม​ของ​สำนัก​หนึ่ง​ หมายถึง​ความปลอดภัย​ของ​คน​ทั้ง​สำนัก​

ความสามารถ​ของ​ผู้​ที่​รับ​ตำแหน่ง​เฝ้าประตู​สำนัก​เก่าแก่​ที่​สืบทอด​มาสอง​พัน​กว่า​ปี​คง​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ใคร​

“ไม่ให้​เข้า​ งั้น​ก็​ต้อง​ทำลาย​ค่าย​กล​!”

ซูเย่ยก​ยิ้มมุมปาก​

เมื่อ​เห็น​ซูเย่​เดิน​ไป​ไกล​ และ​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​ต่อ​ เขา​จึงปลูก​ผัก​ต่อไป​

ซูเย่​เดิน​สำรวจ​รอบ​ ๆ อย่าง​ละเอียด​ แล้ว​เดิน​ไป​ทาง​ตรงข้าม​กับ​ทาง​ที่​เดิน​มา หลังจาก​สัมผัส​อย่าง​ระมัดระวัง​ เขา​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​ปราณ​บริเวณ​กลุ่ม​ก้อนหิน​บน​กำแพง​หิน​ที่​สูงชัน​

ซูเย่​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ทันที​โดย​ไม่ลังเลใจ​และ​พยายาม​ทำลาย​ค่าย​กล​

ใน​การฝึกฝน​นับ​พันปี​ ซูเย่​ได้​เห็น​ค่าย​กล​ต่างๆ​ นับไม่ถ้วน​ และ​เขา​คุ้นเคย​กับ​การ​ทำลาย​ค่าย​กล​ต่าง ๆ​ เป็น​อย่าง​ดี​ แต่​ครั้งนี้​เพื่อ​เป็นการ​ประหยัดเวลา​ เขา​จึงตัดสินใจ​ใช้วิธี​ที่​เรียบง่าย​และ​ดู​หยาบกระด้าง​เล็กน้อย​!

เมื่อ​เขา​หา​จุด​ที่​แม่นยำ​เจอ​ ก็​กระตุ้น​พลัง​ปราณ​กำเนิด​ใน​ร่างกาย​ออกมา​เพื่อ​ห่อหุ้ม​ตัวเอง​

ปราณ​ต้นกำเนิด​เป็น​รากฐาน​ของ​พลัง​ปราณ​บน​โลก​นี้​ และ​สามารถ​ผสมผสาน​กับ​พลัง​ปราณ​ทั้งหมด​ใน​โลก​นี้​ได้​ แม้ว่า​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ใช้ปราณ​ต้นกำเนิด​ใน​โลก​ความเป็นจริง​

ภายใต้​การ​ห่อหุ้ม​ของ​พลัง​ปราณ​ต้นกำเนิด​ ทำให้​ซูเย่​เข้าไป​ใน​ค่าย​กล​สำนัก​เมฆาคราม​ได้​ทันที​ หาก​มอง​จาก​ระยะไกล​ เหมือนกับ​ว่า​ร่าง​ของ​ซูเย่​หาย​ลง​ไป​ใน​กำแพง​หิน​สูงชัน​

แต่​สำหรับ​ซูเย่​ เขา​รู้สึก​เพียง​ว่า​ทิวทัศน์​เบื้องหน้า​เปลี่ยนไป​ และ​เขา​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​สถานที่​ที่​ทั้ง​คุ้นเคย​ทั้ง​แปลกใหม่​

เบื้องหน้า​คือ​ประตู​ทาง​เข้าที่​ดู​อลังการ​มาก​ แตกต่าง​จาก​ประตู​บาน​เล็ก​ที่​ราวกับ​จะพัง​แหล่​ไม่พัง​แหล่​เมื่อ​สอง​พันปี​ที่แล้ว​อย่าง​สิ้นเชิง​

ซูเย่​มอง​ไป​รอบ​ ๆ และ​พบ​ว่า​เขา​อยู่​ด้าน​ข้าง​ของ​สำนัก​เมฆาคราม​ ใต้​ฝ่าเท้า​เป็น​หญ้า​สีเขียวขจี​ แต่​หาก​ถอยหลัง​แม้เพียง​ก้าว​เดียว​ เขา​ก็​ตกลง​ไป​ใน​เหว​ลึก​ทันที​

ที่​ใจกลาง​ของ​หญ้า​เขียวขจี​นี้​ มีถนน​จาก​แผ่น​หิน​ซึ่งนำไปสู่​ประตู​สูง 10 เมตร​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ บน​ซุ้มประตู​มีตัวอักษร​สีทอง​อร่าม​เขียน​อยู่​ ‘สำนัก​เมฆาคราม​’

ซูเย่​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​และ​มอง​ขึ้นไป​ ด้านหลัง​ประตู​เป็น​ลาน​หน้า​เรือน​รูป​สี่เหลี่ยมจตุรัส​ขนาดใหญ่​ ทั้งสอง​ด้าน​เป็น​ห้องแถว​สองชั้น​ และ​ด้านใน​สุด​เป็น​อาคาร​สูงที่​สร้าง​ด้วย​ไม้มะฮอกกานี​ซึ่งดู​หรูหรา​ตามแบบฉบับ​โบราณ​

ในเวลานี้​ ที่​ลาน​หน้า​เรือน​มีคน​ไม่มาก​นัก​

“วิชา​อำพราง​ตัว​!”

ซูเย่​ปกปิด​ลมหายใจ​ของ​เขา​ทันที​ เขา​รู้ดี​ว่า​ที่นี่​จะต้อง​มียอด​ฝีมือ​อยู่​มากมาย​แน่นอน​ ใน​สมัย​รุ่งเรือง​ ซูเย่​ไม่ได้​กลัว​พวก​นั้น​เลย​สักนิด​ แต่​ตอนนี้​ยังไง​ก็​ต้อง​ควร​ระมัดระวัง​ไว้​ก่อน​

ซูเย่​เดิน​ไป​ผ่าน​ประตู​และ​มอง​ไป​รอบ​ ๆ อย่าง​ระมัดระวัง​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ปีก​ด้าน​ขวา​ ร่าง​ที่​คุ้นเคย​สอง​คน​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ทางเดิน​ตรงหน้า​ซูเย่​

สอง​คน​นั้น​ก็​คือ​สอง​พี่น้อง​ไป๋​!

แววตา​ของ​ซูเย่​พลัน​เป็นประกาย​ มุมปาก​เผย​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​ ซูเย่​เดิน​เข้า​ไปหา​ทันที​

สอง​พี่น้อง​ไป๋​มอง​ซูเย่​ด้วย​สีหน้า​ฉงนใจ​ระคน​ดีใจ​

“นาย​มาได้​ยังไง​?”

ไป๋​จือ​หรา​น​หันมา​เอ่ย​ถามอย่าง​ฉงนใจ​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]