Home เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ตอนที่ 32 ไอ้หนุ่มเอ้ย ตั้งใจเรียนเข้าล่ะ! ฉันคาดหวังในตัวเธอนะ! (ตอนปลาย)
ตอนที่ 32 ไอ้หนุ่มเอ้ย ตั้งใจเรียนเข้…
บทที่ 32 ไอ้หนุ่มเอ้ย ตั้งใจเรียนเข้าล่ะ! ฉันคาดหวังในตัวเธอนะ! (ตอนปลาย)
ซูเย่เดินออกจากโรงพยายาลก่อนจะมุ่งตรงไปยังย่านมหาวิทยาลัยที่อยู่ห่างไปเพียงสี่กิโลเมตร ระหว่างทางนั้น เขาได้เดินผ่านย่านชุมชนยากไร้ที่ขาดความเจริญ มันเต็มไปด้วยขยะ และสภาพที่ดูพื้นที่ผุพัง อีกทั้งกลิ่นที่ไม่น่าพิศมัยเสียเท่าไหร่นัก แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก…
ซูเย่จ้องมองไปยังเหตุการณ์ข้างหน้า ดวงตาที่เรียบเฉยก็ดูเย็นชาขึ้นทันที
“โห กลิ่นเหม็นแสบจมูกนี่มันอะไรกันเนี่ย”
“แกมันเหม็นโคตร ๆ ขนาดที่แมลงวันยังบินมาตอมเลย”
“ยี๊ น่าขยะแขยง! ไสหัวไปเลย!”
“อย่าเข้ามาใกล้นะเว้ย เดี๋ยวเสนียดติดตัวพวกฉันขึ้นมาจะทำไงฮะ!”
ที่ข้างถนนมีเด็กวัยรุ่นสี่คนยื่นอยู่ไกล ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังด่าทอใส่ชายชราเก็บขยะคนหนึ่งที่กำลังแบกถุงกระสอบใบเก่าเนื้อตัวเลอะเทอะ ด้วยสองมือที่ดูเหนื่อยล้า ยิ่งไปกว่านั้นแล้วกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนองถึงขนาดที่หยิบก้อนหินจากพื้นมาขว้างปาใส่ร่างกายที่ดูโรยราของคนเก็บขยะพร้อมกับหัวเราะอย่างสะใจในการกระทำของตัวเอง
ชายชราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหินเหล่านั้นอย่างอับอาย แต่เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองจากหินเหล่านั้นได้ทั้งหมด หินบางส่วนจึงไปกระทบไปตามร่างกายส่วนต่าง ๆ จนเกิดบาดแผล แล้วหินอีกก้อนก็ถูกปาเข้าที่หน้าผากของเขาจัง ๆ จนเลือดไหลออกมา
ทว่านั่นยังไม่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นหยุดการกระทำที่ชั่วช้านี้ลง
“ไปตายซะ!” ทันใดนั้นก้อนหินอีกก้อนก็พุ่งเข้าหาชายชราและกำลังจะกระทบเข้ากับศีรษะของเขาอีกครั้ง
ฉับพลันก็มีมือหนึ่งปรากฏขึ้น รับก้อนหินที่พุ่งมาและกำมันเอาไว้แน่น
ซูเย่นั้นเอง!
เขายืนอยู่ข้างหน้าชายชราในมือยังคงกำหินก้อนนั้นเอาไว้แน่นและมองไปยังเด็กทั้งสี่ด้วยสายตาเดือดดาล
“ขอโทษเขาเดี๋ยวนี้…” ซูเย่พูดด้วยน้ำเสียงที่สะกดข่มอารมณ์ความโกรธเอาไว้
“แกเป็นใคร! อายุเท่าไหร่ฮะ รู้เปล่าว่าฉันน่ะลูกใคร!” หนึ่งในเด็กสี่คนชี้หน้าพร้อมตะโกนใส่ซูเย่ด้วยเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว
หลังจากที่พูดไปเช่นนั้น เด็กพวกนั้นก็ระดมปาหินใส่ซูเย่กับชายชราอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกระจายกำลัง
คนหนึ่งประจันหน้า อีกคนประกบหลัง..ล้อมปิดให้หมดทุกทาง ดูเหมือนว่าซูเย่จะพบกับสถานการณ์หมาหมู่รุมขย้ำเหยื่อเสียแล้ว
แต่ก่อนที่เหล่าวัยรุ่นคึกคะนองจะทันได้เริ่มลงมือ ซูเย่ฟาดฝ่ามือใส่จนพวกเด็กเกเรค่อยๆ ร่วงลงไปกองกับพื้นทีละคน ทีละคน.. การกระทำของเขารวดเร็วจนพวกนั้นมองแทบไม่ทัน
วัยรุ่นทั้งสี่ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด พวกเขาเงยมองซูเย่ที่ตอนนี้กำลังจ้องมองด้วยสายตารังเกียจราวกับพวกของตนเองเป็นสิ่งสกปรกโสมม มันเป็นสายตาที่เย็นชาจนทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
“ลุกขึ้นมาแล้วขอโทษในสิ่งที่พวกแกทำลงไปซะ”
ซูเย่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างจากแววตา บรรยากาศรอบตัวเขานั้นยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันแข็งกร้าวน่ากลัวเสียยิ่งกว่า
เด็กวัยรุ่นทั้งสี่ลุกขึ้นยืนอย่างหวาดกลัวก่อนจะลากขาที่สั่นเทิ้มของตนไปหาชายเก็บขยะ
ซูเย่จับจ้องการกระทำของเด็กวัยรุ่นทั้งสี่ด้วยรังสีอำมหิตจนเด็กพวกนั้นสะดุ้งเฮือก
“ขะ ขอโทษ..” เด็กวัยรุ่นทั้งสี่กล่าวขอโทษด้วยความหวาดกลัว พวกเขาเหลือบมองซูเย่ สีหน้าและแววตาแสดงออกชัดเจนว่าต้องการหนีไปจากตรงนี้เต็มแก่แล้ว
“จำเอาไว้ด้วยว่าผู้สูงอายุก็เป็นเหมือนปู่ย่าตายายของพวกนาย ถ้ายังทำตัวไม่สนใจกาลเทศะกับผู้หลักผู้ใหญ่อีก ฉันจะส่งพวกนายไปให้ตำรวจแน่ ๆ ไว้ถึงตอนนั้นก็หาข้อแก้ตัวกับพ่อแม่ของพวกนายดี ๆ ก็แล้วกัน!”
“ไสหัวไป” ซูเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาเห็นว่ายังเป็นเด็กหรอกนะถึงได้ปล่อยไป
เด็กวัยรุ่นทั้งสี่วิ่งหนีหางจุกตูดทันทีที่ได้รับอิสระ
หลังจากที่วิ่งออกไปไกลประมาณหนึ่งแล้ว คนหนึ่งในแก๊งก็หันกลับมากล่าวอย่างผยองพองตัวใส่ซูเย่ที่อยู่ไกล ๆ “ฝากไว้ก่อนเถอะ แกน่ะ!”
ซูเย่ทำท่าทางราวกับว่าจะไล่ตามไป ทำให้เด็กเกเรทั้งสี่รีบวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานอย่างทุลักทุเล
หลังจากที่ซูเย่ได้ใช้ชีวิตมาแล้วถึงสองพันห้าร้อยปี มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เขาฟิวส์ขาดได้ขนาดนี้
หนึ่งในนั้นก็คือพวกเด็ก ๆ ที่ไม่เห็นความแตกต่างระหว่างเรื่องควรหรือไม่ควร นับได้ว่าเป็นความเลวร้ายที่แท้จริงเลยทีเดียว เป็นความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกระตุ้นใด ๆ มีเพียงแค่จิตใจที่หยาบช้า อยากจะทำสิ่งที่ตนต้องการโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่นเท่านั้น การกระทำเลวทรามเช่นนี้จำเป็นต้องได้รับการสั่งสอนตั้งแต่เนิ่น ๆ มิเช่นนั้นจะเกิดเป็นปัญหาอย่างแน่นอนในไม่ช้าก็เร็ว…
ซูเย่หันกลับไปมองในทิศทางที่ชายชราควรจะอยู่ เพื่อดูว่าอาการเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็กลับพบว่าชายชราหยิบหิ้วถุงกระสอบเก่า ๆ เดินโงนเงนจากไปแล้ว แต่ด้วยสภาพของเขาแล้วทำให้ยังเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่
คนเก็บขยะใช้มือกุมท้องของตัวเองเอาไว้ขณะที่เดินไปอย่างช้าๆ สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมากจนดูผิดปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]