บทที่ 99 นายทำได้ยังไง
มุมปากของซูเย่บิดตัวเป็นรอยยิ้ม
เกือบจะอยู่ในขั้นที่ 3 งั้นก็หมายความว่ายังอยู่ขั้นที่ 2 อยู่สินะ
แต่ดูจากความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของผู้กองหวังเหาแล้ว ซูเย่ก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายคงทำงานหนักมาไม่ใช่น้อย ระดับพลังจึงสูงขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนี้
“ตอนนี้ยังมีเวลา พวกเราแวะไปที่ห้องฝึกซ้อมกันหน่อยดีไหม เดี๋ยวฉันจะทำให้นายได้เห็นความน่ากลัวของผู้ฝึกยุทธ์เอง”
หวังเหาพูดกับซูเย่
“ได้ครับ”
ซูเย่พยักหน้าตกลง
หวังเหามองไปที่ซูเย่ด้วยแววตาชอบใจ
เจ้าหนุ่มคนนี้ชักจะมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว คิดดูถูกว่าเขาคงไม่มีฝีมือสักเท่าไหร่อย่างนั้นหรือ สงสัยคงต้องให้บทเรียนสักหน่อย
เมื่อมาถึงห้องฝึกซ้อม ซูเย่ก็พบว่ามันเป็นห้องกว้างขวางที่มีลักษณะแปลกประหลาด กำแพงทุกด้านถูกสร้างขึ้นมาจากแผ่นเหล็กกล้าคุณภาพสูง
“เอาล่ะ”
หวังเหาเดินไปหยุดยืนอยู่กลางห้อง และกวักมือเรียกซูเย่ “ฉันถือเป็นผู้อาวุโสกว่า ให้รังแกเด็กอย่างนายคงทำไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะออมมือให้ก็แล้วกัน ส่วนนายไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น แค่ทำให้ฉันล้มลงได้ก็ถือว่าชนะแล้ว”
ซูเย่ก้าวเท้าออกไปข้างหน้า และยืนเว้นระยะห่างประมาณสามเมตร ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงลังเลใจ
“จะไม่เป็นไรแน่เหรอครับ?” ชายหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจ
“ฉันไม่เป็นไรหรอก นายใส่มาให้สุดแรงก็แล้วกัน คิดเหรอว่าทักษะมวยจีนของนายจะทำอะไรฉันได้? ดูเหมือนว่านายจะประเมินความสามารถของผู้ฝึกยุทธ์ต่ำเกินไปแล้วนะ”
หวังเหาพูดด้วยน้ำเสียงออกจะเหยียดหยามกันเล็กน้อย
“ถ้างั้นก็ดีครับ”
ซูเย่พยักหน้า
“ระวังตัวให้ดีนะ”
พูดจบ
ตำรวจหนุ่มก็สะกิดปลายเท้าลงบนพื้น และกระโจนเข้าไปหาซูเย่พร้อมกับกระแทกหมัดตรงไปที่หน้าอกของชายหนุ่ม
แต่กำปั้นของเขาเข้าไม่ถึงตัวซูเย่
ซูเย่สามารถหลบได้อย่างเร็วไว
ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วมือจิ้มลงไปบนลำตัวของหวังเหา
“อร๊าก”
ในวินาทีนั้นอีกฝ่ายก็ร้องเสียงหลง รู้สึกเหมือนร่างกายโดนไฟฟ้าช็อต ไม่ว่าจะเป็นแขนขาหรืออวัยวะอื่นใด ล้วนไม่สามารถขยับได้อีกทั้งสิ้น
แล้วร่างของเขาก็ค่อย ๆ ล้มคว่ำลงไปกับพื้นห้อง
เกิดอะไรขึ้น?
มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?
จังหวะที่ล้มลงไปกับพื้น หวังเหาได้แต่จ้องมองไปที่ซูเย่ด้วยความไม่อยากเชื่อ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เขาเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 2 แต่กลับถูกเด็กใหม่ใช้นิ้วจิ้มเพียงครั้งเดียวก็ถึงกับล้มหน้าคะมำลงแล้ว?
หวังเหายันตัวลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนรน ร่างกายที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เมื่อสักครู่นี้กลับมาเป็นปกติดีแล้ว ผู้กองหนุ่มหันมามองหน้าซูเย่ และถามด้วยความมหัศจรรย์ใจ
“เมื่อกี้นายทำอะไรน่ะ?”
“ทำตามคำสั่งไงครับ ผมเล่นงานจุดอ่อนของคุณ” ซูเย่ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสงสัย “คุณไม่เข้าใจเหรอ?”
บ้าเอ๊ย!
หวังเหาสบถอยู่ในใจ ถ้าเข้าใจฉันจะถามนายเพื่อ?
เล่นงานจุดอ่อนอย่างนั้นหรือ หวังเหาไม่อยากจะเชื่อ!
เขาไม่เคยได้ยินว่าร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์มีจุดอ่อนอยู่บนลำตัวด้วย
สงสัยเมื่อสักครู่นี้เขาคงประมาทมากเกินไปหน่อย หวังเหาอยากจะแก้ตัวให้ได้อีกสักครั้ง
“เมื่อกี้ถือว่าไม่นับก็แล้วกัน เรามาเริ่มกันใหม่ดีกว่า” หวังเหาจัดแจงตั้งท่าเตรียมตัวโจมตีเพื่อเป็นการรักษาหน้าของตนเอง เขาไม่ได้มีท่าทีเหยียดหยามเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“ให้ใส่เต็มแรงเลยไหมครับ?”
ซูเย่ถาม
“ไม่ต้องพูด”
ผู้กองหนุ่มยิ้มมุมปาก โคจรพลังลมปราณไปทั่วร่างกายก่อนที่จะกระโดดเข้าหาซูเย่ด้วยความรวดเร็วที่มากกว่าเดิม
“จึก”
นิ้วมือจิ้มลงไปบนลำตัว
หวังเหาล้มคะมำลงไปอีกครั้ง
ชายหนุ่มนอนอยู่บนพื้นห้องมองหน้าซูเย่ด้วยความไม่อยากเชื่อ
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
เกิดอะไรขึ้น?
มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
หวังเหามั่นใจว่าตัวเองเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว
จังหวะนั้น ร่างกายของผู้กองหนุ่มก็กลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ เขารีบยันตัวลุกขึ้นยืน
ดวงตาจ้องมองไปที่ซูเย่เขม็ง
ในที่สุด เขาก็รู้แล้วว่าซูเย่สามารถจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 1 ด้วยกำปั้นลุ่น ๆ ได้อย่างไร
เพราะตัวเขาเองเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 2 ยังล้มไม่เป็นท่า แล้วผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 1 จะไปเหลืออะไร
แต่ว่า
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
หวังเหาเอ่ยถามซูเย่อย่างตรงไปตรงมา “เมื่อกี้นี้นายทำได้ยังไง?”
“เล่นงานจุดอ่อนครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]