เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1803

ลู่ฝานหนังตากระตุกเล็กน้อย เขาเงียบโดยที่ไม่พูดอะไร

ผู้อาวุโสซู่มั่นยิ้มและมองไปที่ลู่ฝานพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ตกลงนายชื่ออะไรกันแน่? ฉันรู้ว่าเงามืดไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของนาย”

ลู่ฝานสงบนิ่งไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า: “ชื่ออะไรไม่สำคัญ ตอนนี้ฉันชื่อว่าเงามืด”

ผู้อาวุโสซู่มั่นมองไปที่ดวงตาของลู่ฝานแล้วพูดขึ้นว่า: “เหมือนว่านายจะกลัวฉัน? ฉันเป็นถึงเพื่อนเก่าของอาจารย์ของนาย นายจำเป็นต้องระวังในตัวฉันขนาดนี้เลยเหรอ? แม้แต่ชื่อก็ยังไม่คิดที่จะบอกเลย? ”

ลู่ฝานพูดขึ้นว่า: “เพื่อนเก่าของอาจารย์คงจะไม่อยากฆ่าฉันเสมอไปนักหรอก”

ดวงตาของผู้อาวุโสซู่มั่นยิ่งดุดันแข็งกร้าวขึ้นมาทุกที ลู่ฝานเองก็ไม่ยอมแสดงท่าทีที่อ่อนแอ จ้องมองดวงตาของเธอไปอยู่อย่างนี้

ผู้อาวุโสซู่มั่นพลันหัวเราะและพูดขึ้นว่า: “นายกำลังกล่าวโทษว่าฉันสั่งให้นายไปฆ่าคน หรือกล่าวโทษว่าฉันสั่งให้นายเข้าร่วมการคัดเลือกภายในของผู้ฝึกชั่วร้ายในครั้งนี้ล่ะสิ”

ลู่ฝานพูดว่า: “ก็มีทั้งนั้น”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดขึ้นว่า: “เต็มใจที่จะฟังฉันพูดอะไรสักหน่อยไหม? ”

ลู่ฝานพยักหน้า แล้วตนเองก็แกว่งมือโบกลมให้กลายเป็นเก้าอี้ พร้อมกับค่อย ๆ นั่งลงไป และพูดว่า: “ยินดีที่จะรับฟัง”

ผู้อาวุโสซู่มั่นเห็นลักษณะท่าทางของลู่ฝานแล้ว สายตาของเธอก็มึนงงขึ้นเล็กน้อย ในสายตาของเธอ เหมือนว่าลู่ฝานจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งแล้ว

คนผู้นั้นก็เป็นแบบนี้ที่พบเจอเรื่องใดก็ไม่หวั่น ไม่ตระหนกตกใจ จัดการเรื่องราวได้อย่างใจเย็น

และก็ยังฉลาดมากความสามารถ สุขุมลุ่มลึกแบบนี้ด้วย

“คล้าย ช่างคล้ายคลึงกันเสียจริง! ”

ลู่ฝานขมวดคิ้วขึ้นและพูดว่า: “คล้ายคลึงอะไร? ”

ผู้อาวุโสซู่มั่นสงบจิตสงบใจ และพูดขึ้นว่า: “นายคล้ายคลึงกับอาจารย์ของนายมาก ดูเหมือนว่าที่เขาเลือกนายเป็นลูกศิษย์ เหตุผลหลักคงจะเป็นเพราะนายคล้ายคลึงกับเขาในตอนนั้นเลย”

ลู่ฝานขมวดคิ้วอย่างหนัก โดยที่ไม่พูดอะไร

โดยแอบพูดในใจว่า: “ฉันเหมือนกับอาจารย์ขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ”

ผู้อาวุโสซู่มั่นเก็บอารมณ์ความรู้สึกแล้วก็พูดขึ้นว่า: “เงามืด ฉันรู้ว่าในสายตาของเธอนั้น ฉันก็เป็นแค่ผู้ฝึกชั่วร้ายที่แท้จริง ที่มีจิตใจเหี้ยมโหด ไม่ประนีประนอม ฉันอยากจะบอกกับนายว่า ที่นายมองฉันแบบนี้นั้น มันไม่ผิดหรอก ตอนนี้ฉันก็เป็นผู้ฝึกชั่วร้ายจริง ๆ แต่ถ้าหากนายมองฉันว่าเป็นเพียงเท่านี้ล่ะก็ อย่างนั้นนายก็ผิดแล้ว เพราะฉันไม่ได้เป็นแค่ผู้ฝึกชั่วร้าย”

ลู่ฝานพูดว่า: “ผู้อาวุโสพูดซับซ้อนเกินไปแล้ว พอพูดอะไรที่ฟังง่ายหน่อยได้ไหม? ฉันแค่อยากรู้ว่า ทำไมผู้อาวุถึงได้สั่งให้ฉันไปฆ่าคน แล้วทำไมถึงต้องให้ฉันมาเข้าร่วมการคัดเลือกภายในอะไรนี้ด้วย”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า: “เพราะฉันต้องการเห็นว่านายเป็นคนอย่างไรกันแน่ ที่ฉันให้นายไปสังหารประมุขประเทศฉิงเทียน ก็เป็นแค่การทดสอบ ฉันจึงจะสามารถเข้าใจรับรู้ถึงตัวตนของนายได้”

พูดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสซู่มั่นก็หยุดชะงักลง ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้น จากนั้นก็พูดต่อว่า: “ถ้าหากเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป ก็คงจะมีอยู่สองทางเลือก อย่างแรกก็คือลงมือสังหารแล้วไปรับรางวัล อีกอย่างหนึ่งก็คือเอ่ยปฏิเสธในตอนนั้นเลย และถึงขนาดที่จะดึงอาวุธออกมาด้วย แต่วิธีการของนาย ทำให้ฉันแปลกใจ จนถึงตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจว่า ตกลงนายแกล้งใช่ไหม หรือว่าชกเขากระเด็นไปแล้วจริง ๆ วิธีการของนาย ช่างฉลาดล้ำเลิศยิ่งนัก”

ลู่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจและพูดขึ้นว่า: “เป็นอย่างนี้นี่เอง ก็แค่จะลองใจฉันดูเท่านั้น แล้วถ้าฉันลงมือสังหารล่ะ หรือว่าดึงเอาอาวุธออกมาด้วยล่ะ”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดขึ้นว่า: “หากว่านายดึงอาวุธออกมา อย่างนั้นนายก็จะต้องตายอย่างอเนจอนาถ ฉันจะไม่ลงมือช่วย จะได้แต่มองดูนายถูกผู้ฝึกชั่วร้ายคนอื่นกลืนกิน แต่ถ้าหากนายลงมือสังหารประมุขประเทศฉิงเทียนจริง ฉันก็จะให้รางวัลนาย จากนั้นก็ขับไล่นายออกจากประเทศฉิงเทียน ไปยังดินแดนอันตรายที่จะต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหนก็คงจะต้องถูกฆ่าตายลงเป็นแน่”

ลู่ฝานหัวเราะเหอะเหอะ และพูดว่า: “ผู้อาวุโสช่างเป็นธรรมและเข้มงวดกวดขันเสียจริง นี่ก็คือท่าทีที่ท่านปฏิบัติต่อลูกศิษย์ของเพื่อนเก่าสินะ”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า: “ถูกต้อง แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องชัดเจนขึ้นอีกหน่อยนั้น แท้จริงแล้วนี่คือท่าทีที่ฉันปฏิบัติต่อเจ้าสำนักจิ่วเซียวคนใหม่ต่างหาก ซึ่งถ้าหากไม่สามารถดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากวิกฤตอันตรายได้ แล้วกลายเป็นยอดฝีมืออีกรุ่นหนึ่ง ก็ตายไปโดยเร็วเสียเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปทำให้สำนักจิ่วเซียวเสื่อมเสียชื่อเสียง นายคงจะไม่รู้หรอกว่า ในตอนนั้นที่สำนักจิ่วเซียวยังไม่เกิดการแตกแยก หากคิดที่จะสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักนั้น จะต้องฝ่าฟันผ่านพ้นวิกฤตอันตรายอันหนักหน่วง หากไม่ใช่คนที่ชาญฉลาดและมีความกล้าหาญ ก็คงไม่ได้รับการสืบทอดก้าวขึ้นเป็นเจ้าสำนัก แม้แต่อาจารย์ของนาย ในตอนนั้นก็สามารถผ่านพ้นหุ้นตุ้นเต๋าสวรรค์มาได้ จึงไม่ตายลง ซึ่งหากไม่ใช่เพราะเขาไปศึกษาค้นคว้าชี่และบู๊รวมเป็นหนึ่งแล้ว ตอนนี้ในจำนวนยอดฝีมือสูงสุดในใต้หล้านี้ คงจะต้องมีชื่อของเขาอยู่ด้วยอย่างแน่นอน”

ลู่ฝานพูดว่า: “เหตุผลดังกล่าว ฉันถือว่าพอรับฟังได้ แต่ก็แค่พอรับฟังได้เท่านั้น”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า: “หากว่าฉันคิดจะฆ่านายจริง ๆ ตอนที่ฉันจดจำนายได้แล้วนั้น ฉันก็สามารถสั่งให้ผู้ฝึกชั่วร้ายทั้งหมดในที่แห่งนั้นจับตัวนายเอาไว้ ตอนนี้ร่างศพของนายก็คงจะถูกพวกเขาขับถ่ายออกไปหมดแล้ว ลำพังแค่เรื่องที่นายแอบลอบเข้าไปอยู่รวมกับผู้ฝึกชั่วร้ายนี้ ก็สามารถทำให้นายตายลงไปนับร้อยนับพันครั้งแล้ว”

ลู่ฝานขมวดคิ้วขึ้นและพูดว่า: “เดิมทีฉันก็เป็นผู้ฝึกชั่วร้าย”

ผู้อาวุโสซู่มั่นหัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าได้ฟังเรื่องที่น่าขบขันเป็นยิ่งนัก

“นายคือผู้ฝึกชั่วร้าย? นายอย่าได้มาเล่นตลกกับฉันหน่อยเลย ในใต้หล้านี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนสามารถเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายได้ แต่นายนั้นไม่สามารถเป็นได้! นายรู้ไหมว่าเพราะเหตุผลใด? ”

ลู่ฝานไม่พูดไม่จา ได้แต่จ้องมองไปที่ดวงตาของผู้อาวุโสซู่มั่น

ผู้อาวุโสพูดเน้นย้ำทีละคำทีละคำว่า: “เพราะว่านายเป็นลูกศิษย์ของหวูเฉิน! ”

ลู่ฝานพูดว่า: “มันง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ? ”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพยักหน้าและพูดว่า: “ก็ง่ายดายแบบนี้แหละ”

ทั้งสองคนไม่พูดอะไรต่ออีก ได้แต่จ้องมองอีกฝ่ายหนึ่งอย่างสงบนิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า