เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2189

สรุปบท บทที่ 2189 ด่านที่สาม(5): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 2189 ด่านที่สาม(5) – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2189 ด่านที่สาม(5) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ผู้อาวุโสใหญ่เผยสีหน้าขบขัน ราวกับกำลังหัวเราะเยาะผู้อาวุโสทุกคน

ตอนพูดไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้อยากถามอย่างนั้นรึ?

ผู้อาวุโสรองกระแอมสองครั้ง บากหน้าถามว่า “ท่านผู้อาวุโสใหญ่ บ้านิรนามผู้นี้เป็นใคร เหตุใดลู่ฝานจึงเอ่ยถึง ท่านรู้จักบ้านิรนามหรือไม่”

ผู้อาวุโสใหญ่คลี่ยิ้ม “ฉันรู้จักบ้านิรนาม แต่ลู่ฝานรู้จักเขาหรือไม่ ฉันไม่รู้ เขาพูดถึงบ้านินาม แสดงว่าเขากับฉันมีวาสนาต่อกัน!”

ผู้อาวุโสใหญ่พูดจบก็แย้มยิ้ม ท่าทางเบิกบานใจประหนึ่งสามัญชนเก็บเงินได้

ผู้อาวุโสรองไม่คิดเลยว่าถามอยู่ดีๆ จะได้คำตอบกลับมาว่า ‘มีวาสนา’

มันหมายความว่าอย่างไร

ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกดีต่อลู่ฝานจริงหรือ

เช่นนั้นเก้าด่านสุดยากยังจำเป็นต้องดำเนินต่อหรือไม่

หรือจะให้ลู่ฝานเป็นเจ้าสำนักไปเลย?

ผู้อาวุโสรองตื่นตระหนก ลู่ฝานผ่านด่านสุดยากหลายด่านได้ เขาไม่กังวลใจเท่าไร

เพราะต่อให้ลู่ฝานเก่งกาจเพียงใด รอจนถึงด่านที่แปด ตกอยู่ในกำมือของเขา เขาจะทำให้ลู่ฝานมาแต่กลับไม่ได้

แต่ถ้าผู้อาวุโสใหญ่มีความคิดอื่น ผู้อาวุโสรองก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

ให้ลู่ฝานผ่าน? หรือไม่ให้ผ่าน?

แค่เพราะลู่ฝานพูดคำว่าบ้านิรนามน่ะหรือ?

ราวกับอ่านความคิดของผู้อาวุโสรองออก ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องสนใจคำพูดของฉัน พวกคุณควรทำอย่างไรก็ทำตามนั้น ผู้อาวุโสเจ็ด นายได้นำหินที่ฉันให้ไปไว้ในตำหนักหยุนหยาหรือไม่”

ผู้อาวุโสเจ็ดตกอยู่ในอารามตกใจอย่างสมบูรณ์

เห็นๆ อยู่ว่าลู่ฝานทนไม่ไหว จะถูกพลังภายในตำหนักหยุนหยากำจัดสิ้นซาก

เหตุใดจู่ๆ จึงรอดกลับมาได้

แถมพลังแห่งเต๋าในตำหนักหยุนหยายังดูเหมือนโดนวิญญาณร้ายเข้าสิง ไม่โจมตีลู่ฝานต่อ

ดูท่าเดินสบายๆ ของลู่ฝาน ประหนึ่งเข้าไปเดินเล่นอย่างไรอย่างนั้น

ได้ฟังคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสเจ็ดจึงได้สติ ใบหน้าแดงก่ำ พูดอึกอักว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ ก้อนหินที่ท่านให้ฉัน ฉันคิดว่ามันใช้ไม่ได้ และวางไว้ในตำหนักหยุนหยาก็เหมือนจะขัดกับพลังแห่งเต๋าข้างใน ฉันจึงไม่ได้วางไว้!”

ขณะพูดผู้อาวุโสเจ็ดนำก้อนหินออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้ผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่รับกลับมาพลางส่ายศีรษะ “ไอ้โง่ ฉันให้หินนาย นายยังไม่ใช้ ปล่อยให้ลู่ฝานผ่านด่านครั้งนี้ไปได้ง่ายๆ นายก็เหมือนกับผู้อาวุโสเก้าและผู้อาวุโสแปด เป้าหมายที่จะขัดขวางลู่ฝานไม่มีทางสำเร็จ ซ้ำยังทำให้ลู่ฝานมีพลังเพิ่มขึ้น ดูสิ ลู่ฝานเริ่มตระหนักรู้ถึงพลังแห่งเต๋าแล้ว”

ผู้อาวุโสใหญ่ชี้นิ้ว ผู้อาวุโสเจ็ดมองตามสายตาของผู้อาวุโสใหญ่

ลู่ฝานนั่งขัดสมาธิโดยหันหน้าเข้าหาดวงแสงดวงหนึ่ง

นี่คือท่วงท่าแห่งการตระหนักรู้เต๋า เขาถึงกับนำตำหนักหยุนหยามาเป็นสถานที่ฝึกตน

ลู่ฝานลองกระตุ้นพลังในร่างกาย เขาต้องการทำให้ปราณชี่ของตนกลืนกินพลังที่บ้านิรนามทิ้งไว้ให้เขา

น่าเสียดายที่การจะให้ปราณชี่กลืนกินพลังแห่งโลกยังทำได้ยาก

เมื่อพลังเหล่านั้นเข้าสู่ร่างของเขาก็เหมือนกับมันกระจายไปตามแขนขาและหายวับไป ลู่ฝานเองก็ไม่มีวิธีดีๆ มาจัดการมัน

ลู่ฝานค่อนข้างกังวลกับพลังที่ไม่อาจควบคุมได้

แม้ว่าพลังเหล่านี้จะดูไม่มีภัยคุกคามอันใด ทั้งยังช่วยเขาผ่านวิกฤติหลายครั้งก็ตาม

ครั้งแรกที่ผู้อาวุโสแปดทำเช่นนี้ พวกเขายังไม่ประท้วงอะไร แต่ตอนนี้ชัดเจนว่ามันสุดจะทนแล้ว

ศิษย์กลุ่มหนึ่งตะโกนถามผู้อาวุโสเจ็ดเสียงดัง

สีหน้าของผู้อาวุโสเจ็ดไม่น่ามองขึ้นทุกที ยิ่งดูก็ยิ่งหมองคล้ำ

เขาอยากกล่าวออกไปมากว่านี่คือการอ่อนข้อของเขา

เพราะถ้าเขาอ่อนข้อให้ลู่ฝานผ่าน ก็ยังถือว่าดี แต่เหตุการณ์จริงไม่ได้เป็นแบบนั้น!

พลังเต๋านับพันอะไรนั่นไม่มีผลกับการสังหารลู่ฝานสักนิด!

ผู้อาวุโสเจ็ดไม่เข้าใจว่าลู่ฝานทำได้อย่างไร และเขาควรอธิบายกับศิษย์คนอื่นๆ อย่างไร

แม้แต่ศิษย์แห่งเขาหลางเซียวยังมองผู้อาวุโสเจ็ดด้วยสายตาอึมครึมปนขุ่นเคือง

เรื่องเกี่ยวข้องกับความรุ่งโรจน์ของสายเลือดเสินหวง ผู้อาวุโสเหล่านี้ทำเช่นนี้ได้อย่างไร

พวกเขาแทบอยากจะรวมตัวกันขับไล่เหล่าผู้อาวุโสออกไป!

ไอ้อ้วนตงกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “ลู่ฝาน ผู้สร้างปาฏิหาริย์ เขาชนะอีกแล้ว ชนะอย่างแปลกประหลาด แม้แต่ฉันยังมองไม่ออก!”

เฟิงเสี่ยวชี่กำลังจะถามไอ้อ้วนตงว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ฟังคำพูดของไอ้อ้วนตง เฟิงเสี่ยวชี่ก็เอ่ยอย่างตื่นตกใจว่า “ท่านอาจารย์อา ท่านเองก็ไม่รู้หรือ”

ไอ้อ้วนตงยิ้มแย้ม “ฉันไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ! ฉันคิดว่าผู้อาวุโสท่านอื่นเองก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน ไปกันเถอะ เจ้าเด็กลู่ฝานนั่นเป็นพวกเก่งเรื่องฉกฉวยผลประโยชน์อยู่แล้ว หากเขาไม่ได้ตระหนักรู้สิ่งใด คงไม่มีทางออกมา ฉันว่าเขาคงอยู่ในนั้นอีกสองวัน”

เฟิงเสี่ยวชี่ยิ้มขมขื่น ดูท่าความแตกต่างระหว่างเขากับลู่ฝานจะเพิ่มขึ้นทุกที เทียบกับตอนแข่งขันนานาประเทศ ฝีมือของลู่ฝานเหมือนจะก้าวกระโดดอีกครั้ง อย่างกับเขาเปลี่ยนแปลงทุกวัน พยายามก้าวหน้าทุกชั่วขณะ อยู่กับคนแบบนี้ แรงกดดันมหาศาลจริงๆ

เฟิงเสี่ยวชี่พึมพำ “ดูท่านายเหมาะจะเป็นเจ้าสำนักมากกว่า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า