“ขอบคุณนายท่าน”
พวกเขารับคำ รู้ว่าพลังของตนเองไม่สามารถที่จะขึ้นไปได้ เพราะพลังแรงกดดันที่แข็งแกร่งเกินไป จะทำให้พวกเขารับไม่ไหว เพียงแต่ไม่รู้ว่าพอถึงตอนนั้นนายท่านจะใช้วิธีไหนพาพวกเขาข ขึ้นไป
ตกดึก พวกหลัวอวี่มาถึงบันไดสู่แดนเซียน พวกเขามองดูบันไดเมฆที่ราวกับทอดยาวลงมาจากเส้นขอบฟ้า อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง
นี่ก็คือบันไดสู่แดนเซียนอย่างนั้นหรือ? ได้ยินว่ามีทั้งหมดเก้าหมื่นเก้าพันก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น เดินขึ้นไปจากตรงนี้ก็สามารถไปยังโลกอีกใบหนึ่งได้เช่นนั้นหรือ? นึกมาถึง งตรงนี้ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
“อยากลองขึ้นไปสักครั้งจริงๆ” หลัวอวี่เอ่ยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปที่บันไดสู่แดนเซียน
“ระดับวรยุทธ์อย่างพวกเจ้าขึ้นไปไม่ได้หรอก หนำซ้ำหากโชคไม่ดีอาจสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมดไปด้วย” ชายชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิลูบหนวดและเอ่ยขึ้น
โดยไม่สนใจว่าพวกเขาจะตอบรับหรือไม่ เขานั่งอยู่ตรงนั้นและพูดต่ออีกว่า “หากขึ้นกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้น คงไม่มีใครทยอยไปจากที่นี่อย่างรวดเร็วหรอก”
“ข้าจะขึ้นไปกับพวกเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน! ดูว่าพวกเจ้าจะขึ้นไปได้ถึงขั้นที่เท่าไร” เสียงของเฟิ่งจิ่วดังมาจากข้างหลัง
พวกเขาหันกลับไปมอง เห็นเพียงเฟิ่งจิ่วเดินมากับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ข้างหลังยังมีเหลิ่งซวงที่กำลังอุ้มเด็กทารกและไป๋ชิงเฉิงที่กำลังเดินตามมา
“นายท่าน” พวกเขาขานเรียก
“ไปกันเถอะ! ภายในหนึ่งร้อยขั้น ข้าคิดว่าพวกเจ้าน่าจะพอไหว พยายามเต็มที่ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝืน แม้จะขึ้นไปไม่ถึง แต่ก็ทำให้จิตใจของพวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้น นับเป็นการฝึกฝนที่ ไม่เสียเปล่า” นางกล่าว ก่อนจะให้พวกเขาเดินไปที่บันไดสู่แดนเซียน
ได้ยินอย่างนั้น พวกเขารีบรับคำทันที “ขอรับ” พวกเขาสาวเท้าไปข้างหน้า หลังจากสูดหายใจลึกๆ ก็ก้าวขึ้นบันไดสู่แดนเซียน
เฟิ่งจิ่วหันมาพูดกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่อยู่ข้างๆ “ข้าจะขึ้นไปกับพวกเขาสักรอบ พวกท่านนั่งพักตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน!”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้า ก่อนจะพาเหลิ่งซวงและไป๋ชิงเฉิงรวมถึงฮุยหลางกับอิ่งอีนั่งพักที่ด้านหนึ่ง
ตอนนี้ล่วงเข้าสู่กลางคืนแล้ว เดิมถึงเวลาที่ทุกคนต้องพักผ่อนแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนฉวยโอกาสตอนกลางคืนขึ้นบันไดสู่แดนเซียนอีก ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้ฝึกตนที่ตอนแรกกำลัง งนอนก็ลุกขึ้นนั่ง ทั้งหมดต่างก็จ้องไปยังกลุ่มคนที่กำลังจะขึ้นบันไดสู่แดนเซียน
กลุ่มนั้นมีผู้ชายสี่คน ดูแล้วล้วนยังหนุ่มแน่น อีกทั้งเรียกได้ว่าวรยุทธ์ต่ำกว่าพวกเขาที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด ส่วนสตรีชุดสีแดงที่เดินตามหลังพวกเขานั้น ฝีเท้าเบาหวิว ชายเสื้อส สีแดงปลิวไหว ชายกระโปรงสะบัดสูงเล็กน้อย ดูน่าหลงใหลอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะยิ่งเมื่อสตรีชุดแดงเดินตามหลังสี่คนนั้นด้วยท่าทางราวกับกำลังคอยคุ้มกัน ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจ เป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง เหตุใดจึงได้ดูมั่นใจถึงเพียงนั้นกันนะ ?
“เอ๊ะ? สตรีนางนี้หน้าคุ้นมาก เหมือนเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง คนที่ขึ้นไปบนบันไดสู่แดนเซียนแล้วกลับลงมาในตอนสุดท้าย” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งพูดขึ้น เขาจ้องสตรีชุดแดงขณะพูด ก่อนจะพึ มพำอีกว่า “ครั้งที่แล้วนางแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่ใบหน้านั้น ดูแล้ว…คล้ายคนเดียวกันมาก”
“ดูสิ ขึ้นไปแล้วจริงๆ ด้วย” มีคนตะโกนขึ้นมา ก่อนชี้ไปทางกลุ่มคนที่ขึ้นบันไดสู่แดนเซียน
พวกเขาอยู่ที่นี่มานานขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นใครขึ้นไปตอนกลางคืนเลย ไม่รู้ว่ากลางวันกับกลางคืนมีอะไรต่างกัน
ขณะเดียวกัน พวกเหลิ่งหวาที่กำลังขึ้นบันไดสู่แดนเซียน เพียงก้าวเท้าขึ้นไปก็รู้สึกเพียงว่ากำลังตกลงไปในความว่างเปล่า ในตอนนั้นเอง เสียงของนายท่านก็ดังขึ้นข้างหูของพวกเข ขา
“ต้องปรับพลังวิญญาณให้สมดุลกัน อาศัยพลังในการก้าวเดิน” เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะยืนมองอยู่ข้างหลังพวกเขา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...