ฉันนอนหลับไปกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้ และไม่กล้าลุกขึ้นออกไปด้านนอกเพราะไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าพี่คัลเลนแล้วต้องทำยังไง เพราะไม่ได้เมามาก
จึงจำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
ไม่อยากคิดไปไกลเลยว่าพี่คัลเลนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนี้ อีกอย่างฉันไม่มีทางคิดเกินเลยกับเขามากกว่าคำว่าพี่ชาย
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่คนด้านนอกจะเอ่ยบอก
“เครื่องใกล้จะลงจอดแล้วนะคะ”
“… ค่ะ”
หลังจากเครื่องลงจอดก็ไม่สามารถเลี่ยงอะไรได้อีก สุดท้าย
ฉันก็ต้องออกมาด้านนอกและได้ประจันหน้ากับพี่คัลเลนอีกครั้ง คราวนี้มันรู้สึกเกร็ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“เดี๋ยวพี่ช่วยถือกระเป๋าให้”
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวมิลินถือเอง”
“เรื่องตอนนั้น… พี่ขอโทษ” แววตาคู่นั้นทำให้ฉันคิดจริง ๆ ว่า
พี่คัลเลนรู้สึกผิดจริง ๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ช… ชั่งมันเถอะค่ะ มิลินไม่ได้คิดอะไร” ฉันตอบปัด ๆ ไปเพราะไม่อยากจะไปคิดถึงให้ปวดหัว เพราะแค่นี้ก็มีเรื่องให้คิดมากมาย
เต็มไปหมด
แต่พอตอบแบบนั้นเหมือนพี่คัลเลนจะไม่ค่อยพอใจ แถมยัง
ดึงกระเป๋าออกไปจากมือฉันแล้วตรงไปที่รถ
“เดี๋ยวมิลินโทรบอกคุณท่าน…” ยังพูดไม่ทันจบอีกคนก็แทรกขึ้นมาซะก่อน
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง โทรถามคุณอาสิว่าอยู่ที่ไหน”
อะไรกัน! ถึงว่าทำไมพี่ลีวายกับพี่คัลเลนถึงเป็นเพื่อนกันได้เพราะทั้งคู่มีนิสัยที่คล้ายกันนี่เอง
มาถึงบ้านของคุณท่านที่อังกฤษโดยมีพี่คัลเลนมาส่ง ก่อนจะรู้ว่าเขาเองก็อยู่บ้านใกล้ ๆ นี่เอง มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญ
หรือว่า!! พี่ลีวายจะส่งให้พี่คัลเลนมาคอยจับตาดูฉันไว้
เฮ้อ!! คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเนี่ย
“เป็นยังไงบ้างสีหน้าดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไรเลยนะ” คุณท่านยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน
คำถามนั้นทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอยากมาจุกเสียดที่อก
มันแน่นไปหมดแถมยังอยากจะร้องไห้ เมื่อคิดถึงหลาย ๆ เรื่องราวที่
พี่ลีวายทำเอาไว้
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นแล้ว แต่มัน
ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด การลืมใครสักคนในเวลาสามเดือนมันยากมากจริง ๆ
“ลูกชายของฉันมันคงตาถั่ว ถึงมองไม่เห็นสิ่งของมีค่าตรงหน้า” คุณท่านลูบศีรษะของฉันอย่างเอ็นดู คำพูดนั้นทำให้ฉันยิ่งรู้สึกแย่
เอามาก ๆ
“… ถ้าหนูอยากจะขอคุณท่านสักอย่างได้ไหมคะ”
“อืม ว่ามาสิ”
ฉันกำมือแน่นด้วยความรู้สึกที่กดดัน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป “ล้มเลิกความคิดที่จะให้หนูกับพี่ลีวายหมั้นกันได้ไหมคะ”
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนูขอฉันแบบนี้ เอาล่ะถ้าไม่อยากหมั้นกับ
ตาลีวายจริง ๆ ฉันก็จะไม่บังคับอีก”
“พ… พูดจริง ๆ ใช่ไหมคะ หนูกับพี่ลีวายไม่ต้องหมั้นกันแล้ว
ใช่ไหม”
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่บังคับอะไรหนูอีก แต่ฉันก็ยังอยากได้หนู
มาเป็นสะใภ้อยู่นะ”
“ร… เรื่องนั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ”
“มาเหนื่อย ๆ ขึ้นไปพักผ่อนก่อน ถึงเวลากินข้าวฉันจะให้
คนไปตาม”
“ค่ะ”
แม่บ้านวัยกลางคนพาฉันขึ้นห้องบนชั้นสอง เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมเหม่อลอยมองเพดานห้อง
“พี่ลีวายคงจะดีใจมากที่ไม่ต้องมาหมั้นกับฉันแล้ว”
ถือว่าหมดปัญหาไปหนึ่งอย่าง เหลือแค่ตัวฉันเองที่ต้องตัดใจ
สักที แต่ดูตอนนี้สิทำไมหัวใจมันถึงเอาแต่คิดถึงคนใจร้ายแบบนั้น
เป็นอย่างที่พี่ลีวายพูดเอาไว้ ต่อให้หนีไปไกลขนาดไหน ฉันก็หนีความรู้สึกตัวเองไม่พ้น
Talk — ลีวาย —
ณ คลับ
ผมมาดื่มกับไอ้คาแลนแก้เบื่อ ส่วนไอ้คัลเลนเห็นว่ามันไปทำธุระที่ต่างประเทศคงอีกนานกว่าจะกลับ
“เป็นอะไรของมึงวะ” ไอ้คาแลนถามผมที่กำลังอารมณ์หงุดหงิด
“แค่เบื่อ ๆ”
“ให้กูเรียกเด็กไหม?”
“อืม”
ผมพยักหน้าพร้อมยกเหล้าดื่มหมดแก้ว ก่อนจะหันมองโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังสั่นเพราะมีสายเรียกเข้าจากพ่อ
“ว่าไงครับ”
(นี่แกออกไปดื่มหรือไงเสียงถึงได้ดังขนาดนั้น)
“มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมาดีกว่าครับพ่อ หรือแค่โทรมาบ่น”
(เรื่องที่จะให้แกหมั้นกับหนูมิลิน ฉันขอยกเลิกคำพูด)
“…” ผมกำแก้วเหล้าในมือแน่น เมื่อได้ยินพ่อบอกแบบนั้น
(คงพอใจแกแล้วสินะ)
“เธอบอกว่าอยากยกเลิกเรื่องหมั้นเหรอครับ” ผมถามย้ำกับพ่ออีกครั้งให้แน่ใจ
กับยอดอก รวมถึงล้วงมือเข้ามาในกางเกงแล้วคลำ ๆ จับ ๆ แก่นกาย
ที่นอนสงบนิ่ง
ไม่อยากเชื่อว่าผมแทบจะไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของเธอเลย เหมือนตายด้านไปแล้ว
ไม่เหมือนตอนที่…
แล้วผมจะคิดถึงมิลินทำไมวะ!!
ยัยนั่นรสนิยมเรื่องเซ็กซ์โคตรห่วยแตก แถมยังจืดชืด มีดีแค่ฟิตและผมเป็นคนแรก ไม่เห็นจะน่านึกถึงตรงไหน
ใช่ ผมคิดแบบนั้น แต่สมองแม่งเอาแต่นึกถึงเธอไม่หยุด ยิ่งคิดว่าพ่อยอมให้เราไม่ต้องหมั้นกันมันยิ่งอยากเจอเธอเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ
ผมสลัดเรื่องบ้า ๆ แล้วกลับมาโฟกัสผู้หญิงตรงหน้าที่ตอนนี้พยายามทำให้ผมมีอารมณ์แบบสุด ๆ แต่ท่อนเอ็นกลับไม่แข็งขึ้นมาเลย
“ลงไปใช้ปาก”
“ปกติผู้ชายแค่เห็นเค้กก็มีอารมณ์แล้วนะคะ”
“แต่ไม่ใช่ฉัน”
“คุณ...”
“ในสายตาผู้ชายคนอื่นเธออาจจะสวยมากพอ แต่ไม่ใช่
ในสายตาฉัน”
“นี่คุณอยากทำจริงรึเปล่าคะ”
“เพิ่งรู้นะ ว่าผู้หญิงทำงานแบบเธอต่อปากต่อคำกับลูกค้า
ได้ขนาดนี้”
พอผมพูดแบบนั้น เธอก็กัดฟันขบกรามแน่นแล้วเลื่อนใบหน้า
ลงไปยังเป้ากางเกงของผม จากนั้นก็ถอดกางเกงออกแล้วจับแก่นกาย
ยัดเข้าไปในปาก
ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือเฉย ๆ ไม่มีความเสียวหรือวูบวาบ
เลยสักนิด แม่งมันเป็นอะไรวะ!
ถึงอย่างนั้นเธอก็พยายามจะดูดเลียและผงกศีรษะเข้าออก
เพื่อทำให้มันแข็งตัวขึ้น แต่ก็ไม่ได้ผล ท่อนเอ็นผมมันยังมีขนาดเท่าเดิมและผมก็ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์เลยสักนิด
“ทำไมมันไม่ผงาดหรือแม้แต่จะแข็งขึ้นเลยคะ ฉันอมจนเจ็บปากไปหมดแล้ว”
เธอเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดและท้อใจกับผม ที่ทำยังไงไอ้นั่นก็
ไม่แข็งขึ้นสักที
“ตอนแรกอารมณ์ฉันก็มีนะ แต่เพราะเธอทำให้มันหมดไป”
“ฉันเหรอคะ”
“แล้วในห้องนี้มีหมาตัวไหนอีก”
ผมผลักผู้หญิงร่างบางออกก่อนจะลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า แล้วหันมาบอกเธอ “ออกไปซะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทำต่อ!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD