Talk - มิลา
พี่เจตเป็นคนไปซื้อวัตถุดิบตามที่ฉันเขียนในกระดาษไว้ให้ หลังจากได้ของจนครบก็ลงมือทำอาหารจนเสร็จหมดทุกอย่าง เหลือแค่รอเจ้าของห้องกลับมา
ไม่รู้เจ้าความหวังจะเป็นยังไงบ้าง อาหารกับน้ำหมดหรือยัง เป็นห่วงมาก ๆ
ช่วงบ่ายคาแลนกลับมาที่ห้อง สีหน้าของเขาดูเหนื่อยหน้าหัวคิ้วขมวดชนกันเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
“หิวหรือยังคะ มิลาทำอหารไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเฮียกินตอนนี้จะไปอุ่นให้”
“ยัง เฮียขอนั่งพักก่อน”
คนตัวสูงเดินไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ ไม่อยากคิดมากแต่มันอดไม่ได้ เขาบอกจะไปคุยกับคุณหนูลี่แล้วกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีแบบนี้มันทำให้ฉันใจไม่ค่อยดีเลย
“คุณหนูลี่เธอว่ายังไงบ้างคะ”
“เธอไม่ยอมจบ”
ราวกับหัวใจดวงน้อยหยุดเต้นไปชั่วขณะหลังจากได้ยินคำนั้น คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายอย่างที่หวังแต่ลืมไปว่าชีวิตเรามันไม่มีอะไรง่ายเลย
“หนู”
“นะ... หนูโอเคค่ะเฮียไม่ต้องห่วง” ถึงแม้ข้างในจะไม่โอเคนักแต่ไม่อยากทำให้คนรักเครียดมากกว่าเดิมจึงเลือกตอบไปอย่างนั้น
“มานั่งบนตักเฮีย”
มือหนาตบบนท่อนขาแกร่งของตัวเองพร้อมคำสั่ง ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินมาหย่อนก้นนั่งลงบนตักที่คุ้นเคย
“ลี่บอกว่าให้เฮียมีหนู เธอยอมอยู่ในสถานะเมียอีกคน”
“…” ไม่ได้ตกใจที่รู้ว่าคุณหนูลี่รักผู้ชายคนเดียวกับฉันเพราะสายตาของเธอเวลามองคาแลนมันบอกความรู้สึกทั้งหมด แต่ที่ตกใจคือเธอยอมขนาดนั้นทั้งที่อยู่ในตระกูลชนชั้นสูงแต่กลับอาสาเป็นเมียน้อย
“เธอไม่ยอมท่าเดียว ลี่ในวันนี้ไม่ใช่คนที่เฮียเคยรู้จักเลย”
“เธอชอบเฮียมากเลยใช่ไหม”
“อืม”
“เพราะความแสนดีของเฮียหรือเปล่าทำให้คุณหนูลี่หลงรัก”
“ไม่ใช่เพราะเฮียหล่อ?” หัวคิ้วยกขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เวลาแบบนี้ต้องขอบคุณคาแลนที่เล่นมุขทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดมาก
“เธอยอมเป็นน้อยแล้วเฮียตอบไปว่าอะไรคะ”
“เฮียมีหนูอยู่แล้วจะไปหาเมียเพิ่มทำไม”
“… แต่มิลาเทียบเธอไม่ได้เลย”
“เฮียบอกว่ายังไง? อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร”
เจ้าของใบหน้าหล่อจ้องตาดุทำให้ฉันเบ้บปากก่อนจะก้มลงซบบนแผงอกแกร่ง จมูกที่ไวต่อกลิ่นรับรู้ได้ทันทีว่าบนเสื้อของคาแลนมีน้ำหอมของผู้หญิงติดอยู่
ฉันใช้มือดันอกแกร่งผละใบหน้าออกทำให้เจ้าของตักเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม เพราะจู่ ๆ ฉันก็บึนปากทำหน้าบึ้งใส่
“อยู่ใกล้ขนาดไหนคะทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมของเธอติดที่เสื้อ”
“ถ้าเฮียเล่าให้ฟังหนูจะโกรธหรือเปล่า”
ใจไม่ดีเลย ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไรแต่การถามหยั่งเชิงแบบนั้นคงไม่ใช่สิ่งดีนัก มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ
“เล่ามาค่ะ”
“คนสวยตอบเฮียก่อน”
“มิลาบอกให้เล่า”
ฉันบอกเสียงแข็งจะลุกจากตักแต่ถูกมือหนารั้งไว้ คาแลนถอนหายใจออกมาสายตาคู่นั้นฉายแววความกังวลอย่างปิดไม่มิด
“เธอทำอะไรทำไมเฮียถึงมีท่าทีหนักใจขนาดนี้”
“หนูอย่าดุได้ไหม ใจเฮียก็มีแค่นี้”
“คุณคาแลนรีบพูดมาเดี๋ยวนี้ มิลาหงุดหงิดแล้วนะ”
ไม่ยอมพูดสักทีความอยากรู้เริ่มทำให้ฉันอารมณ์เสียแล้ว แถมอีกฝ่ายยังมาทำหน้าตาให้เห็นใจอีก
“ลี่ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเฮีย”
“ขอหนังสือได้ไหมคะ อยู่ห้องไม่มีอะไรทำมิลาอยากอ่านหนังสือ”
“อยากได้แบบไหนหนูบอกกับเจตมันอีกทีแล้วกัน”
“ค่ะ”
“มาลิคไม่ได้โทรมาวุ่นวายใช่ไหม?”
“ไม่เลยค่ะ”
“พรุ่งนี้เฮียคงไม่ว่างทั้งวัน ต้องไปคุยกันเคย์เดนและเฟลิกซ์เรื่องที่ต้องจัดการกับมาลิค”
มันมีบางความคิดที่ว่าต้นเหตุทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะตัวฉันแท้ ๆ หากวันนั้นตัดสินใจคุยกับเขาแทนการหันหลังให้ทุกอย่างคงไม่ยุ่งเหยิงขนาดนี้
“ถ้าโค่นมันได้ทุกอย่างจะจบ หนูอยากให้เฮียทำยังไงกับมิน”
“…” เป็นคำถามที่ตอบยากจริง ๆ ถึงมินจะอยู่ข้างมาลิคแต่นั่นคือสายเลือดของฉัน
“ใครตอบโต้ต้องถูกกำจัด เฮียไม่อยากให้หนูลังเลนะมิลา”
“มิลาขอคุยกับน้องก่อนได้ไหม”
“ถ้าถามความคิดเห็นเฮียคงไม่อยากให้คุย เพราะหนูจะใจอ่อน แต่ในเมื่อหนูขอร้องเฮียจะไปห้ามอะไรได้”
“มิลาอยากให้น้องกลับใจ”
“ถ้าทำได้คงดี แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมามินไม่ได้อยู่ข้างหนูเลย”
คำพูดนั้นทำให้มีน้ำสีใสเอ่อล้นเต็มสองตา มันเป็นประโยคที่เล่นเอาคนฟังจุกอกไปหมด ถึงแม้จะเป็นความจริงก็ตาม
น้องเคยหันปลายกระบอกปืนมาหาฉันแล้วครั้งหนึ่ง น้องเลือกยิงโดยไม่ลังเล เท่านี้มันก็ตัดสินได้แล้ว
“มินตัดคำว่าพี่น้องกับหนูไปตั้งแต่วันที่เลือกอยู่ข้างมาลิคแล้วมิลา”
“…”
“อย่าให้ความใจดีมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD