เหมยฮวาบัญชาการ นิยาย บท 9

หลังจากฮ่องเต้ต้าเจาทราบข่าวความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น ณ เมืองฮุยเจา จึงตัดสินพระทัยขอเจรจายุติสงคราม ยอมเสียสละดินแดนเล็ก ๆ อย่างหลันเจา เฮยเจา และฮุยเจา เพื่อรักษาเมืองใหญ่ไว้ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองมากไปกว่านี้ อีกทั้งยังยอมส่งมอบบรรณาการถวายแด่ฮ่องเต้ต้าจินจนทรัพย์สินแทบหมดจากพระคลัง เป็นเหตุให้ทัพไป๋หู่ภายใต้การนำทัพของจินเกาหยางและการบัญชาการของฝูซิ่นฮวาได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่

จินเกาหยางและฝูซิ่นฮวาขี่ม้านำทัพเคียงคู่กันกลับเข้าสู่เมืองหลวง โดยมีประชาชนมากมายมารอต้อนรับเต็มสองฝั่งถนน ทุกคนต่างส่งเสียงตะโกนเรียกเว่ยหยางอ๋องและกุนซือฝูไม่ขาดสาย บ้างก็กล่าวถ้อยคำยกย่องขอบคุณพวกเขาและทหารกล้าแห่งทัพไป๋หู่ สร้างความปลื้มปีติให้แก่แม่ทัพ กุนซือ และทหารในกองทัพยิ่งนัก

จินเกาหยางเหลือบมองฝูซิ่นฮวาที่อยู่ข้าง ๆ เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฝูซิ่นฮวาอยู่บนหลังม้า หญิงสาวที่เคยมีภาพลักษณ์บอบบาง อ่อนแอ ขี้โรค วันนี้กลับดูเข้มแข็งน่าเกรงขาม งามสง่าสมกับที่กำเนิดในตระกูลแม่ทัพ ยิ่งเมื่อสายลมอ่อน ๆ พัดพาเสื้อผ้าสีขาวไข่มุกและผ้าคลุมสีเทาเงินของนางปลิวลู่ลม ก็ยิ่งขับให้ฝูซิ่นฮวางดงามดุจเทพเซียนที่ขี่ม้าลงมาจากแดนสวรรค์ ชายหนุ่มลอบมองนางอยู่หลายครั้ง ทว่านางกลับไม่ยอมมองมาทางเขาแม้แต่น้อย หลายวันมานี้นางคอยหลบหน้าหลบตาแม่ทัพของตนอยู่ตลอด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรื่อง ‘เช็ดตัว’ ในคืนนั้น ที่ทำให้นางยังเขินอายเขาอยู่ จินเกาหยางได้แต่ยิ้ม นางไม่ยอมมองตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเขายังมีเวลาให้มองอีกทั้งชีวิต

ในที่สุดทัพไป๋หู่ก็เดินทางมาถึงวังหลวง แม่ทัพ กุนซือ และนายกองต่างไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในท้องพระโรง ขณะที่ทหารกล้าที่เหลือรอคอยอยู่ด้านนอก เพื่อรอรับพระราชทานรางวัลและงานเลี้ยงพระราชทานจากฮ่องเต้

“พวกเจ้าทุกคนทำได้ดีมาก...ดีมาก ๆ” จินหยางหลงพอพระทัยยิ่งนัก ที่ได้เห็นเหล่าผู้นำทัพมาเข้าเฝ้าพร้อมชัยชนะ

“เกาหยาง ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ส่งเจ้าไปร่วมรบกับทัพไป๋หู่ เจ้าไม่เพียงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง แต่เจ้ายังนำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่ต้าจินและประชาชนทุกคนได้ ขอบใจเจ้ามาก น้องข้า” จินหยางหลงเอ่ยชื่นชม

“นำชัยชนะมาถวายฝ่าบาทได้ นับเป็นเกียรติของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” จินเกาหยางกล่าว “หากศึกครั้งนี้กระหม่อมมิได้ชนะด้วยตนเองเพียงลำพัง แต่ยังมีเหล่าทหารกล้า นายกอง และกุนซือฝูที่วางกลศึกหลอกล่อศัตรูได้อย่างฉลาดรอบคอบ หากไม่มีพวกเขา กระหม่อมคงมิอาจชนะได้”

เมื่อได้ยินชื่อกุนซือฝู จินหยางหลงก็เลื่อนสายพระเนตรมายังสตรีเพียงหนึ่งเดียวในท้องพระโรง ร่างเล็กบอบบางเบื้องพระพักตร์อยู่ในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน นางประสานมือก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมไม่ต่างไปจากขุนนางราชสำนักคนอื่น ๆ

“ฝูซิ่นฮวา” จินหยางหลงเรียก “ข้าเพิ่งทราบข่าวก่อนเจ้ากลับเข้าเมืองหลวงเพียงไม่กี่วัน ว่าแท้จริงแล้ว กุนซือแห่งทัพไป๋หู่คือบุตรีคนโตของแม่ทัพฝูหาน สตรีเฉลียวฉลาดเช่นเจ้าใช่จะหาได้ทุกราชสำนัก ข้าภูมิใจแทนบิดาของเจ้ายิ่งนัก”

“เป็นพระกรุณาที่ทรงชื่นชมเพคะ” ฝูซิ่นฮวาตอบ

“ในฐานะที่ฝูซิ่นฮวาเป็นผู้วางกลศึกและบัญชาการทัพจนได้รับชัยชนะ ข้าเห็นว่านางควรได้รับบรรดาศักดิ์เช่นเดียวกับที่แม่ทัพพึงจะได้รับ พวกเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร หากข้าจะแต่งตั้งให้ฝูซิ่นฮวาเป็นโหวหญิงคนแรกแห่งราชสำนักต้าจิน”

“ฝ่าบาท” ขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นคล้ายจะคัดค้าน

“มีอะไรรึ เสนาบดีจง” จินหยางหลงถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ