“บัดซบ!”
เสวียนชิวอาละวาดกวาดแผนที่ลงจากโต๊ะกระจัดกระจาย หลังได้รับรายงานว่าทัพไป๋หู่สามารถยึดเมืองเฮยเจาได้สำเร็จ
รัชทายาทแห่งต้าเจายิ่งกว่าเดือดดาล เจ็บแค้นใจยิ่งนักที่ตนเสียรู้พวกต้าจินเข้าจนได้ กุนซือที่เคยไว้วางใจ ยามนี้กลับไล่ตามความเจ้าเล่ห์เพทุพายของกุนซือทัพไป๋หู่ไม่ได้ เป็นเหตุให้ต้าเจาต้องสูญเสียเมืองที่สองไปอย่างง่ายดาย โดยที่ฝ่ายตรงข้ามแทบไม่ต้องลงแรงเลยด้วยซ้ำ
ทั้งรองแม่ทัพ นายกอง และกุนซือต่างพาตัวสั่น เดิมทีเสวียนชิวก็เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว ยิ่งต้องมาเสียทั้งเมืองหลันเจาและเฮยเจาไปในระยะเพียงไม่กี่วัน ก็ยิ่งทำให้พายุอารมณ์ของเขาโหมกระหน่ำยิ่งกว่าเดิม
“พวกเจ้าคิดว่าต้าจินหมายตาเมืองใดต่อไป” เสวียนชิวถาม
ทุกคนหันไปมองกุนซือหม่าราวกับขอความเห็น หากกุนซือเองก็ยังมิกล้าแสดงความเห็นใด ๆ มากนัก เพราะความล้มเหลวในการคาดการณ์ที่ผ่านมาของตน เพิ่งทำให้ต้าเจาต้องสูญเสียเมืองเฮยเจาไป
“ข้าถาม เหตุใดจึงไม่ตอบ!” เสวียนชิวตะคอก กุนซือหม่าที่กล้า ๆ กลัว ๆ จึงจำต้องยอมเอ่ยปาก
“ยามนี้ฝั่งต้าจินน่าจะทราบดีว่าทัพของเรายังปักหลักอยู่ในหวงเจา หากฝ่ายนั้นต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะ ก็คงคิดหมายตาเมืองอื่น” กุนซือหม่าตอบ โดยแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาเสวียนชิวด้วยซ้ำ
“เช่นนั้นเมืองใดที่เจ้าคิดว่าไอ้พวกทัพไป๋หู่มันต้องการ”
กุนซือหม่าครุ่นคิด ยามนี้ไม่ว่าเขาจะคิดหรือจะพูดสิ่งใดย่อมต้องคิดให้มาก หาไม่ ศีรษะของเขาคงต้องถูกเสวียนชิวตัดไปเสียบประจานเข้าสักวัน
เสวียนชิวเห็นกุนซือหม่าเงียบไปนานก็ยิ่งโมโห ตบโต๊ะเสียงดังสนั่น
“บัดซบ! มีกุนซือก็เหมือนไม่มี หากเรื่องแค่นี้เจ้าคิดไม่ได้ แล้วข้าจะเก็บเจ้าไว้เพื่อประโยชน์อันใดในกองทัพ!”
“เสด็จพี่โปรดระงับพระอารมณ์ก่อน ยามนี้เราจะมัวมาทะเลาะกันเองไม่ได้” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้ากระโจม ชายหนุ่มชุดขาว คาดเอวด้วยผ้าสีเงินลายวิหคเดินเข้ามาในกระโจมอย่างใจเย็น
“น้องรอง” เสวียนชิวเรียก “เจ้ามาได้อย่างไร”
“เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยท่าน” เสวียนชิง องค์ชายรองแห่งต้าเจาตอบ
“มาก็ดี บางทีเจ้าน่าจะช่วยข้าได้มากกว่าพวกไร้ประโยชน์นี่” เสวียนชิวไล่สายตามองไปยังคนของตนอย่างคาดโทษ
“ได้ยินว่ายามนี้เราเสียหลันเจากับเฮยเจาไปแล้ว” เสวียนชิงเอ่ยถาม
“ใช่ ข้ากำลังคิดว่าเมืองที่พวกต้าจินต้องการต่อไปคือเมืองใด จะได้เตรียมรับมือได้ถูก”
“ดูจากแผนที่” เสวียนชิงก้มลงหยิบแผนที่ที่ถูกเสวียนชิวกวาดลงไปกองอยู่ที่พื้นขึ้นมาไว้บนโต๊ะตามเดิม “หากข้าเป็นพวกต้าจิน ข้าคงอยากได้เมืองหวงเจาหรือฮุยเจาเป็นลำดับต่อไป”
“เหตุใด?”
“ทูลเสด็จพี่ ทั้งสองเมืองเป็นเมืองเล็ก หากป้องกันไม่ดีก็ตีได้ง่าย ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากหลันเจาและเฮยเจา”
“แต่ฝ่ายนั้นร้ายกาจใช่ย่อย คราวก่อนทำทีเหมือนจะตีหวงเจา แท้จริงกลับลอบส่งทัพใหญ่ไปเฮยเจา”
“ทหารเรามีมากพอจะแบ่งกำลังเป็นสองฝ่ายหรือไม่ ทิ้งครึ่งหนึ่งไว้ที่หวงเจา แล้วส่งอีกครึ่งไปฮุยเจา”
“ไม่ได้” เสวียนชิวตอบทันที “คนของเราทั้งบาดเจ็บและล้มตายไปไม่น้อย ยามนี้ทัพไป๋หูมีกำลังพลมากกว่าเรา หากเราแบ่งกองกำลังออกเป็นสองฝ่ายก็จะยิ่งเสียเปรียบ โอกาสชนะแทบไม่มี”
“เช่นนั้น เราต้องหาทางบีบให้ฝ่ายนั้นไปยังเมืองที่เราต้องการ เพื่อที่เราจะได้รวมพลไว้ในจุดเดียว” เสวียนชิงพูดทุกประโยคอย่างใจเย็น ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดเวลา ต่างจากพี่ชายที่มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว หากภายใต้ท่าทีอ่อนโยนนั้น เปรียบได้ดั่งน้ำผึ้งหอมหวานที่อาบไล้อยู่บนคมมีด พร้อมจะเชือดเฉือนทุกคนได้ทุกเวลา
“เมืองใดที่เจ้าต้องการให้พวกนั้นไป” เสวียนชิวถาม
เสวียนชิงยิ้ม ชี้มือไปยังเมืองหนึ่งบนแผนที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ