Sign in Buddha’s palm 221 ร่วมมือกัน
ด้านนอกเกาะหยิงโจว
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนดูมีความสุขยิ่ง “ค่ายกลขนาดใหญ่กําลังจะแตกแล้ว!”
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้อาวุโสของนิกายใหญ่ในต่างแดนเป็นรองเพียงผู้นํานิกายเท่านั้น เคล็ดวิชาและความสามารถล้วนไม่ธรรมดาและในตอนนี้ด้วยความร่วมมือกันระหว่างพวกเขาทั้งหมดค่ายกลฟ้าดินที่คอยปกคลุมเกาะหยิงโจวก็พังลงในทันที
ฉีกกก!
เมื่อเห็นค่ายกลฟ้าดินถูกฉีกกระชากออก หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนและคนอื่นๆ ก็ก้าวผ่านรอยแยกนี้ เข้าไปภายในเกาะหยิงโจว
“ในที่สุดก็เข้ามาได้ ค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่นั้นน่ากลัวเกินไปถ้าข้าไม่รู้จุดอ่อนเกรงว่าคงถูกพลังของค่ายกลฟ้าดินกดทับไปเสียนานแล้ว”
ชายที่สะพายดาบยาวจากพรรคหมื่นดาบดูเหมือนจะเกรงกลัวพลังของค่ายกลไม่น้อย
คนอื่นๆ ก็ใจสั่นไม่แพ้กัน เพิ่งรู้ซึ้งถึงพลังของค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ก็ยามนี้ และทําให้ยิ่งเกรงกลัวจ้าวทะเลบูรพาที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายพันปีก่อนมากขึ้นไปอีก ตัวตนเช่นไรกันขนาดค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ที่ตั้งทิ้งไว้เบื้องหลังยัง น่ากลัวถึงขนาดนี้แม้จะผ่านมาเป็นระยะเวลานาน
“อิ่ม!”
“ถ้าหากมีแค่ข้าเพียงผู้เดียว แม้รู้ว่ามีจุดอ่อนอยู่ที่ใดในค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่แห่งนี้ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทําลาย ไม่เช่นนั้นจะมีเหตุผลใดที่ข้าต้องเชิญชวนพวกท่านมาร่วมแบ่งสมบัติในครั้งนี้กับข้า?”
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนเหลือบมองคนอื่นๆอย่างเย็นชา
นิกายเฮยหยวนต่างสั่งสอนศิษย์ให้เห็นแก่ตัว ไม่ต้องถามว่าตัวเขาเป็นเช่นไร? ถ้าไม่ใช่ว่าหมิงโยวไร้ทางเลือกเขาก็ไม่มีทางบอกความลับของถ้ําเซียนนี้ให้ผู้อื่นฟัง
“น่าเสียดาย…”
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนเหลือบมองไปที่ประกายแสงสีเลือดที่ค่อยๆจางหายไปต่อหน้าต่อตาด้วยความทุกข์เล็กน้อย
ประกายแสงสีเลือดนี้กลั่นมาจากเลือดของทายาทศิษย์จ้าวทะเลบูรพาด้วยวิธีการลับของนิกายเฮยหยวน เมื่อใช้ไปแล้วไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรมันจะสลายหายไปกลับคืนสู่ฟ้าดิน
“โชคดีที่ข้าได้พบถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาเรียบร้อยประกายแสงสีเลือดนี้ถือว่าทําหน้าที่ของมันแล้วแม้ว่ามันจะไม่สลายหายไปแต่ก็จะไม่ถูกนํามาใช้อีกในอนาคต”
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนแอบพูดกับตัวเองคนเดียวใน
“ปราณฉีภายในเกาะแห่งนี้ดีกว่าโลกภายนอกมาก” เฉว่ยวอาวุโสจากตําหนักเทพเจ้าหิมะมีสีหน้าครุ่นคิด
แม้ว่าซูฉินจะกลืนกินน้ําพุจิตวิญญาณจนแทบเกลี้ยงและเกาะหยิงโจวก็สูญเสียแหล่งพลังงานไปแล้วแต่ปราณฉีและจิตใจแห่งฟ้าดินที่มีอยู่บนเกาะก่อนหน้าก็ไม่ได้หาย ไปในทันทีแต่จะค่อยๆลดลงไปตามเวลา
“ไม่เลว”
“สภาพแวดล้อมที่นี่เทียบได้กับในดินแดนของพวกเรา”
นักพรตสํานักเอกะวิถีพยักหน้าเล็กน้อยแสดงอาการเห็นด้วย
“เอาล่ะ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว พวกเรารีบไปยังใจกลางของเกาะกันเถอะถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพาตั้งอยู่ตรงจุดนั้นโปรดจําไว้ว่ารอบถ้ําเซียนน่าจะมีค่ายกลสังหารล้อมไว้อยู่ระวังอย่าไปแตะต้องค่ายกลสังหารนั้นเข้าล่ะไม่เช่นนั้นแม้แต่ข้าเองก็ไม่อาจช่วยพวกเจ้าได้”
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนกล่าวเตือน
หากกล่าวถึงค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่จํานวนมากมายที่โอบล้อมเกาะหยิงโจวไว้ มันก็ยังพอมีทางหนีไปได้แต่สิ่งที่เรียกว่าค่ายกลสังหารนั้นย่อมไม่ให้โอกาสในการหลบหนีแก่พวกเขาแน่
“เข้าใจแล้ว”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ จากนิกายใหญ่รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อยพยักหน้ารับฟัง
ค่ายกลสังหารนั้นมีจุดประสงค์ก็เพื่อฆ่าสังหารเท่านั้นเมื่อนึกถึงความรู้ความเข้าใจของจ้าวทะเลบูรพาแล้วนั้นการจัดตั้งค่ายกลสังหารย่อมน่ากลัวอย่างยิ่ง
ในเวลาต่อมา
กลุ่มคนเหล่านี้ก็ตรงไปยังใจกลางเกาะหยิงโจว
ทุกคนต่างเป็นตํานานยุทธ สามารถฝ่าอากาศกลายเป็นเงาแสงหลายดวงพุ่งออกไปอย่างว่องไว
“หือ?”
ฉับพลัน
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนก็หยุดฝีเท้า ร่องรอยความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“สหายหมิงโยว ท่านหยุดทําไม?” ชายสะพายดาบยาวจากพรรคหมื่นดาบกล่าวถามออกมา
“แปลกยิ่งนัก
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนสอดส่ายสายตาอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง
“ตามความเข้าใจของข้าจากข้อมูลที่รวบรวมไว้ในนิกายเฮยหยวน เกาะแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าหยิงโจว เป็นลานพํานักข องจ้าวทะเลบูรพาเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยปราณฉีและจิตใจ แห่งฟ้าดินกระจายอยู่ทั่วทุกที่ถ้าว่ากันตามจริงแล้วควรจะ มีสิ่งมีชีวิตอยู่บ้าง”
“ตอนนี้เราเดินมาจนจะสุดทางแล้วแต่ยังไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆเลย”
หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนขมวดคิ้วและกล่าวออกมา
สิ่งมีชีวิตที่เขากล่าวถึงนั้นไม่ได้หมายถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงเท่านั้น
“เมื่อสหายเต๋ได้กล่าวออกมาเช่นนี้ ข้าก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน” นักพรตเฒ่าจากสํานักเอกะวิถีก็กล่าวต่อไปว่า “ข้าเพิ่งจะใช้ทักษะลับในการสํารวจไปเมื่อครู่ ยืนยันได้เลยว่าเพิ่งจะมีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตบนเกาะเมื่อไม่นานมานี้”
“แต่บัดนี้นั้น”
หลังจากนักพรตได้บอกออกมาเช่นนี้ก็ไม่ได้กล่าวต่อไปอีก
มีสิ่งมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาหาไม่พบ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาแล้ว
“อิ่ม!”
หลังจากนั้นไม่นาน หมิงโยวจากนิกายเฮยหยวนก็หัวเราะเยาะเย้ย“ทําตัวลับๆ ล่อๆ ถ้าสิ่งมีชีวิตบนเกาะนี้สามารถบดขยี้เราได้ง่ายๆ มันก็คงออกมาโจมตีเราตั้งแต่ที่ค่ายกลถูกฉีกขาดไปแล้วทําไมต้องรอคอยมาจนถึงตอนนี้เล่า?”
เมื่อหมิงโยวแห่งนิกายเฮยหยวนพูดเช่นนั้น มันก็เปลี่ยนเป็นร่างเงาดํามืดอีกครั้ง กระโดดพุ่งไปยังใจกลางของเกาะหยิ่งโจว
เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินเช่นนี้ ต่างก็ชําเลืองมองหน้ากันกัดฟันแล้วรุดหน้าไปต่อ
ตอนนี้ถ้ําเชียนของจ้าวทะเลบูรพาอยู่ตรงหน้าแล้วความหวังที่จะทะลวงขั้นต่อไปก็แทบจะมองเห็นได้ชัดเจนถ้าจะมาหันหลังกลับเอาเสียตอนนี้คงไม่มีใครยินยอมมากกว่านั้น
ก็เป็นอย่างที่หมิงโยวได้พูดไป ถ้าเกาะนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังกว่าพวกเขาจริงๆมันจะปล่อยให้พวกเขาเข้ามาง่ายๆ ได้อย่างไร?
ไม่ช้านาน
คนทั้งหลายก็มาถึงทะเลสาบใจกลางเกาะหยิงโจว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]