เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล [Sign in Buddha’s palm]
Sign in Buddha’s palm 248 (1)
Sign in Buddha’s palm 248 (1) ตรวจนับผลกําไร
หน้าแท่นบูชาในส่วนลึกของตําหนักเทพเจ้าหิมะ
เมื่อเจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะและคนอื่นๆ ได้ยินว่าบรรพชนยอมรับคําขอของพวกนาง ความหนักอึ้งในหัวใจก็เหมือนถูกยกออก
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ของตําหนักเทพเจ้าหิมะก็ดูมีความสุขเช่นกัน ตามบันทึกโบราณพื้นที่จุดตัดเป็นแกนหลักของกระแสปราณฉีที่ฟื้นคืน หากตําหนักเทพเจ้าหิมะสามารถครอบครองพื้นที่บางส่วนภายในพื้นที่เหล่านั้นได้ในอนาคตรากฐานของตําหนักจะต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าจะมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นอีกคน?
ตอนนั้นเหล่าผู้อาวุโสตําหนักเทพเจ้าหิมะก็จะสามารถเชิดหน้าชูตาได้อีกครั้ง ทรัพยากรในการบ่มเพาะที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และคาดหวังว่าจะมีความก้าวหน้าต่อไปได้แน่
ขณะที่เจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะและผู้อาวุโสทั้งหลายพากันตื่นเต้น พวกเขาก็เห็นร่างหนึ่งเดินออกจากแท่นบูชามาอย่างช้าๆ
ร่างนี้เดินหลังค่อมออกมาด้วยความเชื่องช้า ทําให้ผู้คนรู้สึกว่าร่างตรงหน้านั้นชราภาพเหลือเกิน
ท่ามกลางสายตาของเจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะและคนอื่นๆ ร่างนี้ค่อยๆเผยออกมาต่อหน้าทุกคน
“คารวะบรรพชน”
เจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะและผู้อาวุโสทั้งหลายต่างกล่าวด้วยเสียงอันดัง
“ปรากฏว่าเป็นบรรพบุรุษเฉวซิน….”
เจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะเงยหน้าขึ้นเหลือบมองอย่างระมัดระวัง จิตใจพลันตื่นตะลึง
บรรพบุรุษเฉวซินเป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่แปดของตําหนักเทพเจ้าหิมะตั้งแต่เมื่อเก้าร้อยปีที่แล้ว ซึ่งทําให้โลกยุทธภพต่างแดนพากันตื่นตะลึง ก่อนที่บรรพบุรุษเฉวซินจะหลับใหล ตัวนางได้ประจําการอยู่ภายในตําหนักเทพเจ้าหิมะ เมื่อมองไปทั่วดินแดน แม้แต่สํานักเอกะวิถีที่มีเซียนเทพปฐพี่กําเนิดขึ้นมาจํานวนไม่น้อย หรือเหล่านิกายใหญ่ห้าอันดับแรกต่างก็ไม่ได้อยู่ในสายตา
ถ้าไม่ใช่เพราะบรรพบุรุษเฉวซินที่ต่อสู้ สร้างชื่อเสียงมากมายให้ตําหนักเทพเจ้าหิมะ ตําหนักเทพเจ้าหิมะก็คงจะไม่มีอํานาจเด็ดขาดเหมือนในยามนี้
“พวกเจ้าทั้งหมดลุกขึ้นเถิด”
“ข้านั้นหลับใหลค่อนข้างช้าแล้ว สามารถกลับเข้าสู่นิทราได้อีกสองสามครั้ง แต่สถานะของบรรพชนคนอื่นนั้นแย่กว่ามาก โดยเฉพาะบรรพชนแรกเริ่ม …”
เมื่อบรรพบุรุษเฉวซินกล่าวเช่นนี้ ร่องรอยความกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
เมื่อเทียบกับบรรพชนคนอื่นๆที่หลับใหลไปอย่างน้อยก็เป็นพันปีแล้ว บรรพบุรุษเฉวซินเพิ่งจะหลับใหลไปเพียงเก้าร้อยปี ยังนับว่า ‘อ่อนวัย” อยู่พอสมควร นอกจากนี้ บรรพบุรุษเฉวซินยังทรงพลังถึงจุดสูงสุดของระดับนภาชั้นที่แปด และในตอนที่สัมผัสถึงธรณีประตูของระดับนภาชั้นที่เก้าก็เริ่มตัดสินใจที่จะเข้าสู่นิทรา
“บรรพชนแร
ใบหน้าของเจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
“บรรพชนแรกเริ่ม” นั้นเป็นบรรพชนผู้หลับใหลที่เก่าแก่ที่สุดภาย ในแท่นบูชาตําหนักเทพเจ้าหิมะ ว่ากันว่าท่านหลับใหลมานานกว่าสองพันปีแล้ว
เป็นดั่งเสาค้ํายันที่แท้จริงของตําหนักเทพเจ้าหิมะ
ตามบันทึกโบราณที่ส่งต่อมากันมาในตําหนักเทพเจ้าหิมะกว่าสองพันปีที่แล้ว “บรรพชนแรกเริ่ม” อยู่ในจุดสูงสุดของนภาชั้นที่เก้าเรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ บรรพชนแรกเริ่ม” ล้มเหลวในการทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ สําหรับทางเลือกสุดท้าย ท่านจึงจําจะต้องปิดผนึกตนเองและหลับใหลไป
วิธีการปิดผนึกตนเองในต่างดินแดนก็มีข้อจํากัดเช่นกัน ระยะเวลายาวนานกว่าสองพันปีเทียบเท่าอายุขัยของเซียนเทพปฐพี่ถึงสองชั่วอายุคน “บรรพชนแรกเริ่มของตําหนักเทพเจ้าหิมะ ไม่ใช่มังกรปีศาจในวิหารการสงครามที่มีร่องรอยสายเลือดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นวิหารการสงครามก็ยังอยู่รอดมาได้นับหมื่นปี
อายุขัยของเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรนั้นยาวนานกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก ยิ่งกว่านั้นมังกรปีศาจยังมีความเกี่ยวข้องเล็กๆน้อยๆ กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยมิใช่หรือ?
ส่วน บรรพชนแรกเริ่ม” ไม่ว่าจะเป็นปราณชีวิต เลือดเนื้อและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ แม้จะปิดผนึกตนเองอย่างไร สุดท้ายมันก็จะค่อยๆลดหายไปอยู่ดี และท้ายที่สุดก็จะตายด้วยวัยชรา แต่อาจจะช้าสักหน่อยสําหรับการแก่ตายตามปกติ
นี่เป็นปัญหาที่บรรพชนผู้หลับใหลในนิกายใหญ่ทั้งหลายจะต้องเผชิญ วิธีการลับในการปิดผนึกตนเองไม่สามารถทําให้นอนหลับไปได้ตลอด หลังจากผ่านเวลาอันยาวนาน ปราณชีวิต เลือดเนื้อและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงสลายตัวไปอยู่ดี
“บรรพชนแรกเริ่มเป็นอย่างไรบ้าง” เจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะถามด้วยความเป็นห่วง
หากไม่สามารถรักษา “บรรพบุรุษแรกเริ่ม” ไว้ได้ ย่อมหมายถึงความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตําหนักเทพเจ้าหิมะอย่างแน่นอน แม้ว่าเป็นเจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะที่ตกตายไปก็ยังเป็นการสูญเสียที่เล็กน้อยกว่ากันมาก
“สบายใจได้”
“ ท่านยังสามารถอยู่ได้อีกหลายสิบปี”
บรรพบุรุษเฉวซินสายศีรษะพร้อมกล่าวคําออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]