เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 26

Sign in Buddha’s palm 26 คาดเดา

ตั้งแต่ตอนที่เขาสำเร็จจุดสูงสุดของกายาวัชระคงกระพันเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซูฉินก็ไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายของเขามีการพัฒนาใดที่เห็นได้ชัดอีกเลย

แม้แต่ตอนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง ก็เป็นเพียงการกลั่นกำลังภายในให้มีคุณภาพสูงขึ้น และบังเอิญไปเสริมศักยภาพร่างกายด้วยเล็กน้อย

การเสริมสร้างศักยภาพร่างกายทางอ้อมแบบนี้ สำหรับซูฉินแทบไม่รู้สึกว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น

แต่ตอนนี้

ซูฉินรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งของร่างกายที่รอคอยมาเนิ่นนาน ด้วยการผสานพลังของกายาวัชระคงกระพันและวิชาขัดเกลากายาจันทรา

ปึงๆ

เลือดลมพลุ่งพล่าน หยินสุดขั้ว หยางสุดแกร่ง โรมรันกันไปมา เกิดการปะทะและหักล้างกันอย่างต่อเนื่องจากพลังทั้งสองสายจนทำให้เกิดเป็นไอพลังสีเทาหลอมเข้าไปรวมกับทุกส่วนของร่างกาย

แม้แต่พลังลมปราณภายในก็ค่อยๆ ถูกชำระล้างให้บริสุทธิ์ไปทีละนิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ลึกลงไประหว่างคิ้ว องค์ยูไลสีทองก็เริ่มเปล่งรัศมีออกมา เป็นคลื่นแสงสะท้อนไปทั่วทั้งร่างของเขา

กำลังภายในและกายเนื้อเป็นหนึ่งเดียวกัน พึ่งพากัน ร่างกายที่แข็งแกร่งสามารถทำให้มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งได้ฉันใด กำลังภายในที่บริสุทธิ์ย่อมเสริมศักยภาพให้กับร่างกายได้ฉันนั้น

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง

ซูฉินค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ

แกร๊ก แกร๊ก

ซูฉินขยับเคลื่อนกระดูกภายในร่างจนเกิดเสียง

“น่าเสียดายที่วิชาขัดเกลากายาจันทรา สามารถฝึกฝนได้ดีที่สุดก็เมื่อยามดวงจันทร์ลอยสูงอยู่กลางหัว”

ซูฉินเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าแล้วถอนหายใจ

“ค่อยกลับมาคืนพรุ่งนี้”

ซูฉินกลับไปที่ลานจิปาถะ

หลังผ่านการฝึกฝนมาตลอดทั้งคืนซูฉินไม่เหนื่อยเลย กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

ตั้งแต่ที่กลายมาเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งและมีการฝึกฝน ‘พลังศักดิ์สิทธิ์‘ ถึงแม้เขาจะไม่พักผ่อนเป็นเวลานานนับเดือนก็หาได้เกิดปัญหาใดขึ้นไม่

ที่หน้าศาลาพระคัมภีร์

ซูฉินกล่าวกับตนเองเงียบๆ ในใจ “ระบบ ลงชื่อเข้าใช้”

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับ ‘ฝ่ามือปราณภาวนา‘ ]

“ฝ่ามือปราณภาวนา?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของซูฉินปรากฏขึ้น

ฝ่ามือปราณภาวนาเป็นเคล็ดวิชาลับเฉพาะตัวของวัดเส้าหลิน มีเพียงเจ้าอาวาสและหัวหน้าตำหนักเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เรียนรู้เคล็ดวิชาชุดนี้ได้

ว่ากันว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนมีสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ของวัดเส้าหลินฝึกฝนฝ่ามือปราณภาวนาจนถึงขนาดเอาชนะยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งที่โด่งดังมาแล้วหลายคนด้วยฝ่ามือเดียว นั่นทำให้สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับชั้นที่หนึ่งยุคนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วยุทธภพ

แม้ว่าเหตุผลหลักจะมาจากความแข็งแกร่งที่แสนทรงพลังของการเป็นสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับชั้นที่หนึ่ง แต่ฝ่ามือปราณภาวนาก็หาใช่สิ่งที่ควรมองข้าม

หลังจากนั้น

รายละเอียดข้อมูลยิบย่อยทั้งหลายทั้งปวงเกี่ยวกับฝ่ามือปราณภาวนาก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตของซูฉิน

ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นซูฉินก็เหมือนกับได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาลับอย่างฝ่ามือปราณภาวนามาแล้วหลายสิบปี

หลังจากที่ลงชื่อเข้าใช้เรียบร้อย ซูฉินทำความสะอาดให้พอเป็นพิธี ก่อนจะเข้าไปที่ชั้นแรกของศาลาพระคัมภีร์เพื่อดูบันทึกข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่สะสมเอาไว้ในวัดเส้าหลิน

ศาลาพระคัมภีร์นั้นแบ่งออกเป็นสี่ชั้น

จากชั้นที่สองถึงชั้นที่สี่บรรจุเคล็ดวิชาหลายหลากของวัดเส้าหลิน

หากศิษย์คนใดต้องการจะขึ้นไปชั้นที่สองถึงชั้นที่สี่จำจะต้องได้รับอนุญาตจากท่านเจ้าอาวาสหรือไม่ก็หัวหน้าตำหนักต่างๆ เสียก่อน

ส่วนชั้นแรกเก็บบันทึกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ถูกเขียนขึ้นหรือนำกลับมาจากพระสงฆ์ที่ลงเขาออกจาริกไปทั่วยุทธภพ

ไม่มีอะไรในชั้นนี้เกี่ยวข้องกับวิชายุทธเลย

ดังนั้นไม่ว่าศิษย์สาวกคนใดก็สามารถเข้ามาอ่านคัมภีร์ที่ชั้นหนึ่งของศาลาพระคัมภีร์ได้

ถึงแม้ซูฉินจะเป็นเพียงพระกวาดลาน แต่เขาก็เป็นศิษย์วัดเส้าหลิน ดังนั้นจึงสามารถเข้าใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา

ขณะที่ซูฉินกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วยความเพลิดเพลินอยู่นั้น

“ศิษย์น้องเจินกวน เจ้าก็มาที่นี่อย่างนั้นรึ?” เสียงแสดงความประหลาดใจดังขึ้นมาจากด้านข้าง

ซูฉินเงยหน้าขึ้น พับปิดหนังสือ ชำเลืองมองผู้มาใหม่ “ศิษย์พี่เจินชี่”

เจินชี่ผู้นี้ก็คือหัวหน้ากลุ่มสงฆ์ทั้งหนึ่งร้อยแปดรูปที่เฝ้าหอคอยสะกดมาร

ข้างเจินชี่มีพระหลายรูปยืนอยู่รอบๆ

“พลังชีวิตและเลือดเนื้อของข้านั้นถูกดูดกลืนไป ท่านหัวหน้าตำหนักให้ข้างดเว้นการฝึกวิทยายุทธชั่วคราวในยามนี้ เหตุนี้ข้าจึงมาที่นี่เพื่อหาหนังสืออ่านเสียหน่อย”

เจินชี่อธิบาย

“เป็นเช่นนั้นนี่เอง” ซูฉินพยักหน้าตอบรับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]