เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 309

37c8211465be57ce4c090d2031af6c4b.png

Sign in Buddha’s palm 309 เข้าสู่ระบบ! น้ําเต้ามิติ!

โถงไท่จี้

ขุนนางทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารต่างตกตะลึง เกือบจะคิดว่าตนได้ยินผิดไป

ผู้นํานิกายใหญ่หลายคนเช่นนี้ ในสายตาของเหล่าขุนนางก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจุดประสงค์ของผู้นํานิกายใหญ่เหล่านี้จะกลายเป็นการมาขออภัย?

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เหล่าขุนนางจะคิดเช่นนั้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าซูฉินได้ต่อสู้กับครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพีทั้งเจ็ดคนเมื่อไม่นานมานี้ แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่เจ็ดคนนั้นหมายถึงสิ่งใด?

เช่นเดียวกับสงครามระหว่างสองอาณาจักร เพียงช่วงเวลาไม่นาน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีก็จะเดินทางมาเพื่อขออภัยโทษแล้วอย่างนั้นหรือ?

จากภูมิหลังของนิกายใหญ่ทั้งหลาย ถึงการที่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่จะตกตายไปถึงเจ็ดคน ได้ทําลายรากฐานของพวกมันไปมาก แต่ก็ไม่ถึงกับสิ้นไร้ไม้ตอก นิกายใหญ่ที่มีความเป็นมานับหมื่นปีอย่างสํานักผู้วิเศษหรือนิกายเทพเจ้าสายฟ้ามีความสามารถสูงจนสามารถปิดกั้นเซียนเทพปฐพีได้ด้วยซ้ํา

“ขออภัยโทษ?”

“มาขออภัยโทษจากพี่สาม?”

ท่าทีของจักรพรรดิถังดูตกตะลึง และต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้

แม้ว่าจักรพรรดิถังจะรู้สึกไม่อยากจะเชื่อกับการตัดสินใจมาขออภัยของนิกายทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ในฐานะจักรพรรดิแห่งอาณาจักรถัง ความคิดอ่านของเขาเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป แม้ว่าจะคาดไม่ถึงแต่ก็คิดวิธีการจัดการเรื่องนี้ในทันที

“ให้พวกเขาเข้ามา”

จักรพรรดิถังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา

ผู้นํานิกายใหญ่ทรงเกียรติมากเพียงใด เมื่อพวกเขาริเริ่มจะมาขออภัยโทษ วางตัวต่ําเพียงนี้ จักรพรรดิถังก็ไม่ติดปัญหาใดที่จะพบพวกเขา

“ฝ่าบาท”

“พวกเขากล่าวว่าไม่กล้าที่จะเข้ามาภายในวัง หากไม่ได้รับอนุญาตจากพระมาตุลาแห่งอาณาจักร…” แม่ทัพแห่งวังหลวงกล่าวด้วยความขมขื่น

ในโลกยุทธภพต่างแดน ผู้แข็งแกร่งทุกคนมีถ้ําเซียนเป็นของตัวเอง และซูฉินก็อาศัยอยู่ภายในวังหลวง ในสายตาของผู้นํานิกายทั้งหลาย พระราชวังทั้งหมดจึงเป็นถ้ําเซียนของซูฉิน

หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของถ้ํา จอมยุทธคนใดที่เข้าไปในถ้ําโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมก่อให้เกิดความไม่พอใจกับเจ้าของถ้ํา ถึงขั้นที่เจ้าของถ้ําอาจจะสังหารทิ้งเลยก็เป็นได้

ดังนั้น หากปราศจากคําอนุญาตที่ชัดเจนของซูฉิน ผู้นํานิกายเหล่านี้จะกล้าเข้ามาได้อย่างไร? แม้แต่การที่พวกเขาเดินทางมายังเมืองฉางอันพร้อมกันนี้ พวกเขาก็เสี่ยงอันตรายมากพออยู่แล้ว อย่างไรเสีย หากว่ากันตามจริงเมืองฉางอันทั้งเมืองก็อาจจะจัดอยู่ในพื้นที่ถ้ําเซียนของซูฉินด้วย

“ไม่กล้าเข้ามาอย่างนั้นหรือ?”

จักรพรรดิถังเงียบไปครู่หนึ่ง

ในเวลานี้ เขาตระหนักถึงความน่ากลัวของอํานาจยับยั้งจากซูฉินได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องพูดสิ่งใดกลับทําให้ผู้นํานิกายทั้งหลายต้องออกมาขออภัยโทษ และแม้แต่วังหลวงก็ไม่กล้าเข้ามา

ขุนนางราชสํานักทั้งหลายต่างมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ

นับตั้งแต่ช่วงฟื้นคืนของกระแสปราณฉี ข่าวสารจากยุทธภพต่างแดนก็แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรถัง ในสายตาของเหล่าขุนนางนิกาย ใหญ่ที่ปกครองดินแดนโพ้นทะเลสามารถนับได้ ว่าเป็นจ้าวครองพิภพได้อย่างไม่มีปัญหา

แต่ตอนนี้

ภายในหัวใจของเหล่าข้าราชบริพารยักษ์ใหญ่ เหล่านี้เริ่มถูกลดทอนความยิ่งใหญ่ลงไปแล้ว

“พี่สามอยู่ภายในพระราชวังตะวันออกหรือไม่?”

จักรพรรดิถังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองไปยังแม่ทัพแห่งวังหลวงแล้วจึงเอ่ยถาม

“ทูลฝ่าบาท พระมาตุลาแห่งอาณาจักรไม่ได้อยู่ในพระราชวังตะวันออก” แม่ทัพแห่งวังหลวงกระซิบตอบ

“ถ้าพี่สามไม่ได้อยู่ภายในพระราชวังตะวันออก ดังนั้นเขาน่าจะอยู่ในด่านฝึกตน” จักรพรรดิถังพูดอยู่กับตนเอง

“ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าไม่จําเป็นต้องรบกวนพี่สาม ข้าจะไปเจอผู้นํานิกายเหล่านั้นด้วยตนเอง” จักรพรรดิถังคิดอยู่นาน และในที่สุดก็ตัดสินใจได้

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เว้นแต่จะจําเป็นจริงๆ เขาจะไม่รบกวนการบ่มเพาะของซูฉินเด็ดขาด ส่ว
นเรื่องของผู้นํานิกาย จักรพรรดิถังก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่“ตามพระประสงค์”

แม่ทัพแห่งวังหลวงกล่าวออกอย่างเคารพ

และในตอนนี้

ภายนอกวังก็คราคร่ําไปด้วยจอมยุทธต่างดินแดนมาสักพักใหญ่แล้ว

จอมยุทธต่างดินแดนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เข้ามาหลังจากได้ยินความเกรียงไกรของซูฉินในช่วงที่กระแสปราณฉีกําลังฟื้นคืนกลับมา และบางคนก็เป็นศิษย์สาวกของนิกายใหญ่

แต่ในเวลานี้ เมื่อผู้นํานิกายใหญ่หลายต่อหลายคนมาเยือนเมืองฉางอันด้วยตนเองและอยู่ด้านนอกพระราชวัง พวกเขาก็ได้ดึงดูดความสนใจของจอมยุทธต่างแดนเกือบทั้งหมดไปในทันที

ต้องรู้ว่าเพื่อแสดงความจริงใจ ผู้นํานิกายใหญ่เหล่านี้ไม่ได้ปกปิดพลังของตนเอาไว้ เฝ้ารออยู่ภายนอกวังโดยไม่มีการปิดบัง

“เจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะ?”

“ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้า?”

“เจ้าสํานักผู้วิเศษ?”

“พวกเขามาที่นี่ได้อย่างไร?”

จอมยุทธนับไม่ถ้วนต่างรีบมาที่นี่เพื่อดูและพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าผู้นํานิกายใหญ่จะไม่ใช่จอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุด แต่การที่ขึ้นเป็นผู้นํานิกายได้ก็นับเป็นหน้าเป็นตาของนิกายใหญ่ ในตอนนี้ผู้นํานิกายเหล่านี้มารวมตัวกัน ผลกระทบที่เกิดย่อมขยายวงกว้าง

“เฮ่ๆ ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดคนตกตายไปแล้วโดยตํานานยุทธอาณาจักรถัง ผู้นํานิกายใหญ่เหล่านี้รู้ตัวว่าพวกเขาไม่มีหวังจะต่อต้าน ดังนั้นพวกเขาจึงมาขออภัยโทษน่ะสิ..

ตํานานยุทธคนหนึ่งกล่าวเยาะเย้ย

“ขออภัยโทษ?”

“ตํานานยุทธอาณาจักรถังสังหารบรรพชนครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีของพวกเขาการที่ผู้นําเหล่านี้ไม่ได้มาแก้แค้นยังพอว่า แต่นี่ถึงกับมาที่นี่เพื่อขออภัยโทษเลยหรือ?”

มีจอมยุทธผู้หนึ่งแสดงสีหน้างุนงง อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“ตํานานยุทธอาณาจักรถัง?”

“เกรงว่าเจ้าจะกล่าวผิดไปแล้ว”

“ตอนนี้ไม่ควรจะเรียกว่าตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังอีกต่อไปแล้ว และควรจะเรียกว่ามนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังเสียมากกว่า” จอมยุทธชรากะพริบตาหนึ่งครั้งพร้อมกับกล่าวคําหนงครงพร้อมกับกล่าวคํา

คําที่กล่าวออกมา

ผู้นํานิกายหลายคนเหลือบมองจักรพรรดิและโค้งคารวะให้เล็กน้อย ด้วยตัวตนของพวกเขาไม่จําเป็นต้องใส่ใจกับจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ไหนๆเลย เพียงแต่เบื้องหลังของจักรพรรดิถังมีมนุษย์สวรรค์อย่างซูฉินยืนอยู่
“พวกท่านคิดจะมาขออภัยโทษเช่นนั้นหรือ?” จักรพรรดิถังถามอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]