เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 322

สรุปบท ตอนที่ 322 (II) แบ่งจิต! กลับคืนต้นกําเนิด! สถิตเทพ!: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

อ่านสรุป ตอนที่ 322 (II) แบ่งจิต! กลับคืนต้นกําเนิด! สถิตเทพ! จาก เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 322 (II) แบ่งจิต! กลับคืนต้นกําเนิด! สถิตเทพ! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

01204b7e6374482a4171d741eeb58d20.png

Sign in Buddha’s palm 322 (II) แบ่งจิต! กลับคืนต้นกําเนิด! สถิตเทพ!

“เอาล่ะ”

“ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน

ซูฉินอธิบายให้หลีหว่านฟังอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากพูดคุยกับจักรพรรดิถังรวมถึงคนอื่นๆ สักพัก เขาก็กลับไปยังโถงพระราชวังสูงตระหง่านใต้ดิน

“ในที่สุด คราวนี้ข้าก็จะได้ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้ละเอียดยิ่งขึ้น” ซูฉินนั่งขัดสมาธิ จิตใจของเขาจมดิ่งสํารวจกายเนื้ออย่างต่อเนื่อง

เหลยเฉียนจือมาเพื่อสังหาร และหลังจากซูฉินก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่เขาก็ออกจากด่านฝึกตนทันทีและทําการสังหารคู่ต่อสู้ เป็นผลให้ซูฉันไม่มีเวลาสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของเขาอย่างเต็มที่

“ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี จิตวิญญาณแรกกําเนิดได้หลอมรวมกับทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่าและสามารถรวบรวมพลังจากทะเลปราณได้ตลอดเวลาทั้งยังรักษาสมดุลระหว่างความเป็นมนุษย์และธรรมชาติได้อย่างสม่ําเสมอช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก……”

ซูฉันลืมตาขึ้นทันทีเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทําไมเซียนเทพปฐพี่ถึงอยู่ยงคงกระพัน ปรากฏว่าเซียนเทพปฐพี่มีพลังจากทะเลปราณ

ทะเลปราณนั้นกว้างใหญ่เพียงใด? เป็นสถานที่ที่พลังปราณมาบรรจบกัน เป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาของโลก และก็เป็นความผันผวนภายในทะเลปราณนี่เองที่ทําให้กระแสปราณฉีมีจุดฟื้นตัวและมีจุดลดลง

แม้เซียนเทพปฐพี่จะยอดเยี่ยม แต่พลังจากทะเลปราณที่นํามาใช้ได้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆภายในทะเลปราณทั้งหมด แต่นั่นอยู่ไกลเกินจินตนาการของจอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธแล้ว

“ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แบ่งออกเป็นสามชั้น แบ่งจิต กลับคืนต้นกําเนิด และสถิตเทพ!”

“และตอนนี้ข้าควรจะอยู่ในขั้นแบ่งจิต ทั้งยังเป็นจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตด้วย!”ซูฉินกําหมัดแน่น รู้สึกได้ถึงพลังงานอันไร้ขอบเขตภายในร่าง และเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดอันมหาศาล ความผันผวนก็เกิดขึ้นในใจ

สิ่งที่เรียกว่าขั้นแบ่งจิตก็คือมีความสามารถในการแบ่งแยกจิตวิญญาณแรกกําเนิดซึ่งเป็นสิ่งที่เซียนเทพปฐพี่ทุกคนมี ตราบใดที่พวกเขาเต็มใจจะทํา พวกเขาสามารถแบ่งจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาเป็นร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ในครั้งแรกปกติแทบจะไม่สามารถแบ่งจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาเป็นร่างจําแลงได้ เนื่องจากต้องจ่ายราคาที่สูงจนเกินไป เซียนเทพ ปฐพี่ที่เพิ่งสู่ขั้นแบ่งจิต แม้แต่พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่มียังไม่เพียงพอพวกเขาจะเต็มใจ ละทิ้งส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้อย่างไร?

เช่นเดียวกับนักพรตหมั่นดาบ การใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดส่วนหนึ่งในการปรับแต่งดาบนั้นก็ไม่ได้แบ่งจิตออกไปมากมายอะไรนัก

“จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิต…..”

ดวงตาของซูฉินดูลึกซึ้ง และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

ผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี พวกเขาล้วนเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต แต่ซูฉินนั้นต่างออกไป ด้วยความช่วยเหลือจากร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําและทะเลปราณจิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินแทรกซึมเข้าไปภายในส่วนลึกของทะเลปราณได้อย่างง่ายดาย

กระทั่งมาหยุดอยู่ที่เส้นแบ่งก่อนจะไปด้านล่าง ด้วยความช่วยเหลือจากทะเลปราณ เมื่อทะลวงขอบเขตเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต ก็ปรากฏว่าเขาก็ได้มาถึงจุดสูงสุดของขั้นแล้ว

หากสิ่งนี้ได้ล่วงรู้ถึงหูเซียนเทพปฐพี่คนอื่นๆ ดวงตาของพวกเขาจะต้องกลายเป็นแดงก่ำอย่างไม่อาจเลี่ยงควรรู้ว่าการบ่มเพาะในขอบเขตเซียนเทพปฐพีนั้นยากเย็นยิ่งกว่าขอบเขตตํานานยุทธหลายต่อหลายเท่า ตัวอย่างเช่นเซียนเทพปฐพี่ที่กําเนิดขึ้นมาบนโลกนับพันปีก็ไม่จําเป็นว่า พวกเขาจะสามารถเข้าสู่จุดสูงสุดของชั้นแบ่งจิตได้แม้จะล่วงเลยมาถึงช่วงบั้นปลายชีวิตแล้วก็ตาม

ขณะที่ซูฉันเพิ่งทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี กลับอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้วซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่ง

แม้จะเป็นยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉี ที่มีจิตใจฟ้าดินเพียงพออยู่ทั่วทุกที่หากเซียนเทพปฐพี่ต้องการจะบ่มเพาะไปจนถึงจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งหรือสองร้อยปี

“ดูเหมือนว่าการเลือกใช้ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเป็นสื่อชักนําเข้าสู่ทะเลปราณในส่วนที่ลึกขึ้นจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”

ซูฉินดูพึงพอใจอย่างมาก

อันที่จริงตั้งแต่ตอนที่ซูฉินเข้าสู่แหล่งกําเนิดธาตุดินที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ภายในทะเลทรายตะวันตก เขาก็สามารถเลือกทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น

มีเพียงสองสิ่งเท่านั้นที่ต้องเตรียมก่อนทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี หนึ่งคือต้องควบแน่นอาณาเขตได้และอีกประการคือต้องแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเรียบร้อยแล้ว

หากซูฉันพึงพอใจจะทะลวงขอบเขตในเวลานั้น เมื่อรวมกับแหล่งกําเนิดธาตุดินแล้วก็ไม่มีปัญหาใดในการทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี

แม้ว่าแหล่งกําเนิดธาตุดินนั้นจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดีนัก แต่ซูฉินก็สะสมทรัพยากรมาเพียงพอ

“การฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมา แบ่งออกเป็นขั้นเริ่มต้น ความสําเร็จระดับเล็กและความสําเร็จชั้นยอดความสําเร็จชั้นยอดในภาพดวงตะวันฯ สามารถเปลี่ยนข้าให้กลายเป็นอีกาทองคําสามขาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านเปลวเพลิง”

ซูฉันมองดูแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมาที่อยู่ลึกภายในจิตใจ จุดแสงนับหมื่นจุดบนแผ่นหินขณะนี้มันเรืองแสงจางๆ ออกมากว่าห้าร้อยจุดที่บริเวณขอบของแผ่นหิน

“จุดดวงไฟได้ห้าร้อยจุดแล้วงั้นหรือ?”

ดวงตาของซูฉินเป็นประกาย เผยรอยยิ้มที่ยากจะซ่อนออกมา

รู้หรือไม่ก่อนที่ซูฉินจะปิดด่านฝึกตน แผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมายังอยู่ในขั้นความสําเร็จระดับเล็กมีจุดแสงเพียงร้อยจุดบริเวณขอบหิน

นี่เป็นผลจากการลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่องของซูฉินมาหลายสิบปี รวมกับแหล่งกําเนิดธาตุไฟที่สูบกลืนเข้าไป

แต่ตอนนี้ เพียงแค่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี จดแสงก็สว่างขึ้นกว่าสี่ร้อยจุดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทําให้ซูฉินมีความสุขอย่างมาก

แม้ว่าซูฉินจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําอยู่เล็กน้อยและคาดว่ามันเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดแน่ๆ แต่เมื่อมาดูแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมาด้วยตาตน เอง เขาก็ยังเปี่ยมไปด้วยความสุขอยู่ดี

“พลังงานธาตุไฟภายในทะเลปราณนั้นมหาศาลยิ่ง”

ซูอินถอนหายใจออกมา

เพียงใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดเพื่อดึงพลังงานธาตุไฟมาขัดเกลาร่างกาย ถึงกับผลักดันภาพดวงตะวันขนาดมหึมาให้ก้าวหน้าตามที่เห็น…

“ถ้าร่างกายของข้าเข้าสู่ทะเลปราณและกลืนพลังงานธาตุไฟที่มหาศาลภายในเกรงว่าข้าจะสามารถบ่มเพาะภาพดวงตะวันขนาดมหึมาจนสําเร็จได้ในเวลาอันสั้น…….”

หัวใจของซูฉันเต้นถี่รัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]