เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 91

Sign in Buddha’s palm 91 เข้าพบผู้ทรงสมณศักดิ์

“ลงจากเขา”

“แสวงหาสัจธรรม!”

น้ำเสียงของนักพรตจางราบเรียบไม่มีความผันผวน แต่ในที่สุดเมื่อพูดคำว่า ‘แสวงหาสัจธรรม‘ เขาแอบแสดงความคาดหวังออกมาเล็กน้อย

“แสวงหาสัจธรรม?”

เหล่าสาวกเขาหวู่ตั้งต่างมองหน้ากัน ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร

ในสายตาของพวกเขา นักพรตจางคือที่สุดในยุทธภพแล้วในวิถีปรัชญา แล้วทำไมยังต้องลงเขาไปแสวงหาสัจธรรมอีก?

มีเพียงจางเซียวและสาวกบางคนเท่านั้นที่มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

หากจะกล่าวถึงเรื่องข่าวลือที่ว่าวัดเส้าหลินมีอรหันต์กำเนิดขึ้น ในสายตาของจอมยุทธส่วนใหญ่ก็แค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเท่านั้น…

แต่หลังจากการกลับมาของจางเซียว สาวกคนอื่นๆ หลายคนต่างก็รับรู้ได้ว่าผู้ทรงสมณศักดิ์ฯ ระดับอรหันต์นั้นมีอยู่จริงในวัดเส้าหลิน

หากมิใช่ขอบเขตอรหันต์ใครจะสามารถสังหารยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปเป็นพันลี้ได้ด้วยดาบไม้ธรรมดาๆ?

การออกมาของนักพรตจางในครั้งนี้เกรงว่าจะเพราะได้ยินข่าวนั้น

“ในครานี้ที่ข้าลงไปจากเขาหวู่ตั้ง ถ้าข้ายังไม่กลับมา เขาหวู่ตั้งจะถูกปิดเป็นเวลายี่สิบปีและไม่อนุญาตให้มีการแก้แค้นเกิดขึ้น”

สายตาของนักพรตจางจ้องมองดูเหล่าสาวกเขาหวู่ตั้งที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นท่านก็ค่อยๆ เดินลงจากเขาทีละก้าวท่ามกลางสายตาของเหล่าศิษย์สาวก

ณ วัดเส้าหลิน

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและหัวหน้าตำหนักต่างกำลังดีอกดีใจ

ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ศิษย์ถึงสามคนที่บ่มเพาะอยู่ใกล้พื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลังได้เข้าสู่ขอบเขตสามระดับบน

ระดับนี้หาได้ยากแค่ไหนกัน?

รู้หรือไม่ว่าแม้แต่สุดยอดพรรคแห่งยุทธภพอย่างวัดเส้าหลิน จอมยุทธในขอบเขตสามระดับบนก็เพียงพอจะนั่งตำแหน่งหัวหน้าตำหนักได้แล้ว

หากเป็นเมื่อก่อนจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบหรือยี่สิบปีกว่าที่วัดเส้าหลินจะให้กำเนิดจอมยุทธในขอบเขตสามระดับบนได้

แต่ตอนนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น จะไม่ให้เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและเหล่าหัวหน้าตำหนักยินดีได้อย่างไร?

ยิ่งมียอดฝีมือขอบเขตสามระดับบนมากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่จะกำเนิดปรมาจารย์ระดับชั้นที่สองและยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งก็มากขึ้นเท่านั้น เมื่อมีทั้งปรมาจารย์ระดับชั้นที่สองและชั้นที่หนึ่งจำนวนมากในระดับหนึ่ง พวกเขาก็สามารถแนะนำแนวทางให้กับลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่มีศักยภาพได้…

ผลก็คือ วัดเส้าหลินจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ…

“อย่าเพิ่งหลงระเริงยินดีไป”

“ศิษย์ทั้งสามคนที่เข้าสู่ขอบเขตสามระดับบนได้ ล้วนเป็นหัวกะทิของวัดเรา ในปีก่อนพวกเขาก็อยู่ในจุดสูงสุดของระดับชั้นที่สี่อยู่แล้ว ห่างจากขอบเขตสามระดับบนเพียงก้าวเดียวเท่านั้น”

“พอมาตอนนี้ ด้วยแรงผลักดันจากหมอกนั่นจึงเกิดความก้าวหน้าขึ้น”

“แต่ถ้าเจ้าต้องการจะให้มีคนเข้าสู่ขอบเขตสามระดับบนในเวลาอันสั้นเช่นนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้”

หัวหน้าลานธรรมกล่าวคำช้าๆ

เมื่อกล่าวออกไปเช่นนี้

หัวหน้าตำหนักคนอื่นๆ ที่กำลังจมอยู่กับความสุขพากันสงบเสงี่ยมขึ้นทันที

“ฮุ่ยจื๋อพูดถูก”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินพยักหน้าเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีความสุขไม่แพ้กัน แต่เขาก็ได้คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว

สาเหตุสำคัญที่มีวัดเส้าหลินให้กำเนิดยอดฝีมือขอบเขตสามระดับบนในเวลาไม่กี่เดือน เป็นเพราะการสั่งสมตบะมาตั้งแต่ต้น

ถ้าจะให้ราบรื่นเหมือนเช่นตอนนี้ก็คงจะยากพอๆ กับทะยานขึ้นไปแตะท้องฟ้า

“เจ้าอาวาส”

“ข้าน่าจะใกล้ทะลวงขั้นได้แล้ว”

ในเวลานั้นเองหัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

“เจ้าต้องการจะทะลวงขั้นงั้นรึ?”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินมองไปที่หน้าของหัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์ทันทีด้วยความประหลาดใจ

ทราบหรือไม่ว่าหัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์เป็นผู้ฝึกยุทธในระดับชั้นที่สาม และถ้าทะลวงขั้นได้สำเร็จก็จะเข้าขอบเขตปรมาจารย์ระดับชั้นที่สอง

ปัจจุบันนี้ ยกเว้นซูฉินเอาไว้สักหนึ่งคน วัดเส้าหลินมีเพียงเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินที่อยู่ระดับชั้นที่หนึ่ง และหัวหน้าลานธรรมที่อยู่ในระดับชั้นที่สอง

หากยามนี้มีภิกษุในวัดที่อยู่ระดับชั้นที่หนึ่งและระดับชั้นที่สองเพิ่มขึ้น รากฐานของวัดเส้าหลินก็ย่อมดีมากขึ้นไปตามธรรมชาติ

และเมื่อตอนที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและหัวหน้าตำหนักต่างพูดคุยกันอย่างมีความสุขอยู่นั้น ศิษย์วัดเส้าหลินคนหนึ่งก็รีบเข้ามาหา

“เรียนเจ้าอาวาสและหัวหน้าตำหนัก มีใครบางคนมาขอเข้าพบขอรับ”

ศิษย์วัดเส้าหลินผู้นี้รายงานอย่างรวดเร็วจนแทบจะหายใจไม่ทัน

“ขอเข้าพบ?”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผู้ใด?”

“เขาบอกว่าเขามาจากภูเขาหวู่ตั้ง และมีแซ่ว่าจาง…”

“อะไรนะ?!” นัยน์ตาของเหล่าหัวหน้าตำหนักหดตัวลง

เขาหวู่ตั้ง?

ใช้แซ่ว่าจาง?

ไม่ว่ามันจะไม่น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม แต่หัวหน้าตำหนักต่างนึกถึงนักพรตจางจากเขาหวู่ตั้งโดยไม่รู้ตัว

“ออกไปดูสักหน่อยเถอะ”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินแสดงสีหน้าเคร่งขรึมแล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปนอกวัดเส้าหลินโดยพลัน

หัวหน้าตำหนักรูปอื่นๆ มองหน้ากันแล้วรีบติดตามไปในทันที

ไม่ช้านาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]