เม็ดฝนโปรายปรายตกกระทบหน้าต่างรถ ตำแหน่งที่รถของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาจอดอยู่นั้นไม่มีแสงไฟ
บวกกับที่ฟิล์มติดกระจกของรถแอสตันมาร์ตินคันนี้สีค่อนข้างเข้ม ทำให้คนด้านนอกมองไม่เห็นเหตุการณ์ภายในรถ
หนำซ้ำหลิ่วอวี่เจ๋อยังปิดไฟรถไปอีก
ทั้งสองคนเหมือนอยู่ในห้องมืดสนิทจนปลอดภัยอย่างยิ่ง ไม่น่าจะถูกคนสังเกตเห็นได้ง่าย
สภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้หวังเจียเหยารู้สึก ‘ปลอดภัย’ อย่างมาก
เพราะต่อให้หล่อนทำอะไรกับหลิ่วอวี่เจี๋ยในรถคันนี้ คนด้านนอกก็ไม่มีทางมองเห็น
หวังเจียเหยาสอดนิ้วประสานกับหลิ่วอวี่เจ๋อแนบแน่นเหมือนคู่รักกันแล้วตอบ
“อวี่เจ๋อ ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับนายมากนะ นายทั้งหล่อทั้งหุ่นดี พื้นฐานครอบครัวก็ดี ผู้หญิงคนไหนจะไม่ชอบนายล่ะ? แต่เวลาที่เรารู้จักกันสั้นเกินไป อีกอย่างตอนนี้สามีของฉันก็ดีกับฉันมาก ขอโทษด้วยนะฉันคงทำได้แค่ปฏิเสธนาย”
พอได้ยินคำตอบของหวังเจียเหยาแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อก็พอจะเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพยายามจะสื่อ เขาจึงกล่าวถามอีกฝ่าย
“ถ้าหากว่าพวกเรารู้จักกันเป็นระยะเวลานานแล้วเกิดมาวันหนึ่งถ้าสามีคุณไม่ดีกับคุณ คุณพอจะรับผมไว้พิจารณาได้ไหมครับ?”
ครั้งนี้หวังเจียเหยาไม่ปฏิเสธแต่เงียบไม่ตอบคำถามเท่านั้น
ซ่งหงเย่ที่เป็นเหมือนกุนซือของหญิงสาวเอาแต่คอยเตือนหญิงสาวว่าทางที่ดีให้ใช้หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นตัวสำรอง เผื่อวันหน้าเลิกกับเย่เฉินหรือหากไม่ได้รับสืบทอดสมบัติของตระกูลเย่ก็ยังมีลูกคนรวยอายุยังน้อยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรมาไว้ในกำมือ
หวังเจียเหยากล่าวว่า “ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ นายคงจะมีแฟนไปนานแล้ว”
ใครจะรู้หลิ่วอวี่เจ๋อกลับกล่าวด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ “ไม่หรอกผมไม่มีทางหาแฟนหรอกครับ ผมจะรอคุณ จะสามปี ห้าปีหรือสิบปีผมก็ยินดีรอ! ต่อให้คุณมีลูกผมก็ไม่รังเกียจ!”
หวังเจียเหยามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยอย่างซาบซึ้งใจ คิดไม่ถึงเลยว่าลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยมีเงินแสนล้านคนนี้ว่าจะยอมเป็นตัวสำรองให้หล่อน?
ซึ่งอันที่จริงแล้วเมื่อเดือนก่อนหวังเจียเหยาเคยขอให้เย่เฉินเป็นตัวสำรอง โดยให้เขารอตนเองอีกสามปี รอหล่อนแต่งงานมีลูกกับฟางเชาแล้วทั้งสองคนหย่ากัน หลังจากที่แบ่งทรัพย์สมบัติกับฟางเชาแล้วหล่อนจะกลับมาอยู่กับเย่เฉิน
แต่เย่เฉินปฏิเสธทันที!
เป็นทายาทเศรษฐีเหมือนกันแต่เย่เฉินกลับไม่ยอมเป็นตัวสำรองให้หล่อน แต่หลิ่วอวี่เจ๋อยินยอม!
“ชิ เย่เฉินควรได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของหลิ่วอวี่เจ๋อ ทรัพย์สินที่มีก็พอๆ กันแล้วทำไมหลิ่วอวี่เจ๋อยอมรอฉันแต่เขาไม่ยอมรอฉัน!”
ในวินาทีนี้หวังเจียเหยาถึงกับกล่าวโทษเย่เฉินขึ้นมาน้อยๆ!
ดังนั้นหล่อนจึงเป็นฝ่ายกำมือเขาแน่นขึ้น “อวี่เจ๋อนายนี่มันโง่จริงๆ”
แต่แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนโง่ คำพูดคลั่งรักของเขาเมื่อครู่ก็พูดไปแค่เพื่อหลอกให้หวังเจียเหยาดีใจ
เศรษฐีแสนล้านจะยอมเป็นตัวสำรองได้ยังไง!
คนที่โง่ก็คือหวังเจียเหยาต่างหาก!
ที่คิดว่าแค่รูปโฉมที่งดงามของตนเองจะสามารถทำให้ชายหนุ่มทั่วหล้ายอมสยบอยู่ใต้แทบเท้าหล่อนอย่างว่าง่าย!
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “มีผู้หญิงที่ทำให้ผมยอมเป็นคนโง่ได้แบบนี้ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองมีความสุขมากเลย”
พูดพลางอาศัยจังหวะนี้จุมพิตหญิงสาว ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายปฏิเสธ
“ไม่ได้ ฉันไม่สามารถทำเรื่องที่ผิดต่อสามีฉันได้”
น้ำเสียงหวังเจียเหยาห้วนสั้น เหมือนจะเตือนหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นนัยๆ ว่าจับมือหล่อนได้แต่อย่าคิดจะจุมพิตหล่อนเด็ดขาด
หวังเจียเหยาไม่ใช่คนแบบซ่งหงเย่ หล่อนยังมีหลักการที่ตนเองยึดถือ
“ก็ได้ครับ” หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ทู่ซี้ เขายังคงแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ
“ฉันจะไปละนะ” หวังเจียเหยาปล่อยมือหลิ่วอวี่เจ๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)