เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 119

เป็นสามีภรรยากันมาสามปี นอกจากตอน‘หย่ากันปลอมๆ’ ที่เย่เฉินเฉยเมยใส่หล่อนแล้ว

ในช่วงเวลาอื่นไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่ดูแลเอาใจใส่หญิงสาวอย่างเต็มที่?

แล้วที่หวังเจียเหยาปฏิบัติต่อเขาล่ะ?

นอกจากช่วงเวลาในอดีตที่ผ่านมา ตอนที่เย่เฉินเป็นประธานบริษัทนั้นหวังเจียเหยามักจะโอนอ่อนไปกับเขา

ท่าทีของหล่อนในเวลาอื่นนั้นเป็นเหมือนคนละคน!

ตอนนี้เย่เฉินโดนขับออกจากตระกูลแล้ว หวังเจียเหยาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม!

“หล่อนรักฉันจริงเหรอ? ถ้าไม่รักแล้วทำไมถึงจำเพลงที่ฉันเคยร้อง ของที่ฉันชอบด้วย? ถ้ารัก ทำไมตอนที่ฉันตกอับ ถึงได้เยาะเย้ยฉันแบบนี้ล่ะ?”

ในตอนที่ธุรกิจและการงานของสามีตนเองตกต่ำย่ำแย่ คนเป็นภรรยาควรจะให้กำลังใจและปลอบโยนไม่ใช่เหรอ?

ในตอนที่เย่เฉินกำลังเสียใจอยู่นั้นเอง หวังเจียเหยาก็เดินเข้าไปห้องนอน

เดินมาที่เตียงนอน หวังเจียเหยาพิงหมอน แล้วกดโทรหาซ่งหงเย่

“หงเย่ เธอนอนหรือยัง?”

เย่เฉินที่นอนแผ่ไปบนโต๊ะบาร์ในห้องนั่งเล่น ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเย่เฉิน

ดังนั้นเย่เฉินจึงชันตัวลุกขึ้นมาจากบาร์ ย่องเท้าเปล่าไปยังห้องนอนของหวังเจียเหยาเพื่อแอบฟัง

หวังเจียเหยาไม่ได้ปิดประตูสนิทนักหล่อนแง้มประตูไว้เล็กน้อย

เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้ไม่เพียงแต่ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน แต่ยังสามารถมองอีกฝ่ายผ่านรูประตูได้ด้วย

ซ่งหงเย่กล่าวว่า “รู้ว่าเธอต้องโทรหาฉันแน่ ฉันยังไม่นอน สรุปเธอเป็นยังไงบ้าง? สามีเธอติดต่อคุณปู่เขาได้ไหม?”

หวังเจียเหยากล่าว “ไม่ได้ วีซ่าของเย่เฉินกับฉันโดนยกเลิกไปแล้ว ดูไปแล้วคุณปู่จะตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าไม่อยากจะนับญาติกับหลานชายคนนี้อีกต่อไป เมื่อครู่เย่เฉินเพิ่งจะดื่มเหล้าเมามายจนเสียใจ ตอนนี้ยังนอนแผ่อยู่ในห้องรับแขก”

ซ่งหงเย่ “เจียเหยาฉันว่าเธอเตรียมตัวเอาไว้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็หย่ากับเย่เฉินเถอะ หลิ่วอวี่เจ๋อชอบเธอมากขนาดนี้ อีกอย่างบ้านเขาร่ำรวยมีทรัพย์สินแสนล้านไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลเย่เลยนะ”

หวังเจียเหยาถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันกับเย่เฉินรักกันมาสามปีอีกแถมยังมีลูกด้วยกัน คิดจะหย่าก็หย่าเลยได้ที่ไหน? อีกอย่างคุณย่าเองก็ไม่เห็นด้วยแน่ ฉันกลัวว่าถ้าฉันเกิดหย่าขึ้นมาแล้วพบว่าเรื่องที่เขาโดนขับออกจากตระกูลเป็นแค่การแสดงจะทำยังไง? เขาเองก็ไม่ได้แกล้งจนเป็นครั้งแรกด้วยนะ”

หวังเจียเหยาเคยหย่ากับเย่เฉินมาครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีผลทางกฎหมายก็จริง แต่ก็ทำให้หล่อนได้เรียนรู้แล้ว

ดังนั้นหล่อนในตอนนี้จึงไม่กล้าขอหย่ากับเย่เฉินง่ายๆ อีก

สมมติถ้าหย่ากันไปแล้ว เย่เฉินกลายเป็นท่านประธานอีกครั้ง ตนเองก็จะกลายเป็นคนโง่ไม่ใช่หรือไง?

ซ่งหงเย่กล่าวพร้อมกับหัวเราะ “เรื่องนี้ง่ายนิดเดียวเธอลองทดสอบเขาดูก็ได้”

หวังเจียเหยารีบถาม “ทดสอบเขายังไง?”

ซ่งหงเย่หัวไวหล่อนกล่าวออกมาว่า “เธอก็บอกให้หลิ่วอวี่เจ๋อกับฟางเขามาอวิ๋นโจวสิ ถ้าเย่เฉินจงใจหลอกเธอจริงๆ นั่นก็แปลว่าเขาจะต้องรู้เรื่องของเธอกับฟางเชา แล้วก็เรื่องที่เธอคุยกับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว พอถึงตอนนั้นเธอก็หาวิธีทำให้เขารู้แบบเนียนๆ ว่าสองคนนั้นมาอวิ๋นโจวไง ถ้าเย่เฉินไม่ได้โดนขับออกจากตระกูลจริงๆ ด้วยอิทธิพลของเขาจะต้องสามารถเล่นงานสองคนนั้นจนหมดสภาพได้แน่นอน พอถึงตอนนั้นเธอก็แค่สังเกตฟางเชากับหลิ่วอวี่เจ๋อว่าพวกเขาปลอดภัยดีหรือเปล่าก็เป็นอันใช้ได้”

ใบหน้าหวังเจียเหยาเผยร่องรอยยินดี “เรียกอวิ๋นโจวกับฟางเชามาที่อวิ๋นโจว ถ้าพวกเขาสองคนโดนซ้อมก็จะแปลว่าที่เย่เฉินโดนขับออกจากตระกูลเป็นเรื่องโกหก ถ้าพวกเขาไม่เป็นอะไรก็จะแปลว่าเย่เฉินเป็นยาจกจริงๆ ไอเดียดีนี่! หงเย่โชคดีจริงๆ มีเพื่อนแบบเธอ ตั้งแต่คืนดีกับเย่เฉินแล้วเธอคอยช่วยเหลือฉันตลอดเลย!”

เย่เฉินที่อยู่นอกห้องนอนไม่ได้ยินเสียงซ่งหงเย่ เขาได้ยินแต่เสียงของหวังเจียเหยาเท่านั้น

แต่จากที่ฟังคำพูดของหวังเจียเหยาแล้วก็พอจะเดาเนื้อหาที่พวกหล่อนคุยกันได้ลางๆ

“ฉันเดาไว้ไม่มีผิด ซ่งหงเย่ผู้หญิงชั่วคอยเป่าหูหวังเจียเหยา หล่อนรู้เรื่องฟางเชาและหลิ่วอวี่เจ๋อ! ตอนนี้หล่อนยังบอกให้หวังเจียเหยาทดสอบฉัน โชคดีที่ได้ยินก่อนไม่อย่างนั้น ทันทีที่ฟางเชากับหลิ่วอวี่เจ๋อเหยียบเท้าเข้าอวิ๋นโจวพวกเขาตายแน่ แล้วหวังเจียเหยาก็จะไม่ยอมหย่ากับฉัน!”

กระทั่งเย่เฉินยังต้องจำใจยอมรับว่าซ่งหงเย่คนนี้ถือเป็นเบอร์หนึ่งในการรับมือกับผู้ชาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)