เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 169

“ในแวบแรกที่ฉันเห็นหลิ่วอวี่เจ๋อก็ชอบเขา แล้วแน่ใจได้ในทันทีว่าเขาจะเป็นคู่ชีวิตของฉัน!”

หวังเจียเหยากล่าวด้วยใบหน้าลึกซึ้งเปี่ยมอารมณ์

หวังซ่าวเจี๋ยใช้มือถืออัดคลิปต่อ แล้วใบหน้าผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

หวังเจียเหยาเอ้ยหวังเจียเหยา ถ้าไม่ใช่เป็นคนสายเลือดเดียวกัน อนาคตยังต้องพึ่งพากันเพื่อนำพาให้ตระกูลเรารุ่งเรืองล่ะก็ ไม่งั้นแล้วพี่ชายคงจะทนไม่ไหวแฉเธอไปแล้วกลางงานแต่งงาน!

คนที่นี่ต่างก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นหวังเจียเหยามีสามีแล้ว ดังนั้นพอได้ยินถึงได้รู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นโรแมนติกมาก

ฉันชอบคุณตั้งแต่แรกเห็น ส่วนคุณก็ชอบฉันตั้งแต่แรกเห็น นี่ไม่ใช่ความรักที่ดีที่สุดหรอกเหรอ?

อีกทั้งหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อถือเป็นพวกหน้าตาดีอย่างมาก ทั้งสองคนจะตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็นก็ไม่มีใครสงสัย

หวังเจียเหยากล่าวต่อ “อวี่เจ๋อดีกับฉันมาก เขาทะนุถนอมฉัน ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยเจอผู้ชายที่อ่อนโยนกับฉันแบบนี้มาก่อนเลย ฉันจำได้ว่าตอนนั้นพวกเราทำงานด้วยกัน เขามักจะเล่าไอเดียและแรงบันดาลใจในการออกแบบให้ฉันฟังอย่างใจเย็น แล้วก็เคารพในความเห็นของฉันมากๆ เลยล่ะค่ะ ทันทีที่ฉันมีไอเดียใหม่ๆ ต่อให้เขาต้องอดหลับอดนอนก็จะร่างแบบให้ฉันดู ฉันเลยถูกดึงดูดเข้าหาเขาจากความอบอุ่นและความสามารถของเขา ดังนั้นพวกเราก็เลยคบกัน”

พอหวังเจียเหยาพูดถึงตรงนี้ เรื่องราวความรักของทั้งสองคนก็สรุปกันได้พอประมาณ

แต่เหอเฉินพิธีกรยังดึงดันจะถามต่อ “เมื่อครู่ตอนที่คุณหลิ่วอวี่เจ๋อบอกว่าตอนออกแบบห้องนั้น คุณเห็นพวกมันเป็นเหมือนรังรักของคุณเลยใช่ไหมครับ งั้นตอนที่คุณตกหลุมรักคุณหลิ่วอวี่เจ๋อตั้งแต่แรกเห็น แล้วตอนนั้นคุณเคยจินตนาการไหมครับว่าที่นั่นจะเป็นรังรักของพวกคุณในอนาคต?”

หวังเจียเหยากัดริมฝีปาก ในเสี้ยววินาทีนั้นหญิงสาวก็นึกถึงเย่เฉิน

หล่อนไม่กล้าตอบ เพราะว่าอีผิ่นเจียเหยาเป็นสถานที่ที่เย่เฉินริเริ่ม ที่นั่นควรจะเป็นรังรักของหล่อนกับเย่เฉิน!

แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแขกเหรื่อจำนวนมากขนาดนี้ หวังเจียเหยาทำได้เพียงตอบว่า

“ค่ะ ตอนนั้นฉันเองก็เคยคิดว่าอนาคตจะได้อยู่ที่นี่กับอวี่เจ๋อ แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข…”

เหอเฉินเห็นหวังเจียเหยาตอบเสียงแผ่วลงเรื่อยๆ จึงกระเซ้า “ดูแล้วเจ้าสาวของเราเริ่มอายขึ้นมานิดหน่อยแล้วครับ เด็กผู้หญิงน่ะ เพิ่งจะรู้จักกับฝ่ายชายแล้วเริ่มจินตนาการถึงเรื่องพวกนี้ก็คงจะเขินนิดหน่อย จริงสิ ผมยังมีอีกคำถามอีผิ่นเจียเหยาแห่งนี้ชื่อไพเราะมากทีเดียว ใครเป็นคนคิดชื่อนี้เหรอครับ?”

หวังเจียเหยาตัวแข็งค้างไปอีกครั้ง ชื่อนี้เย่เฉินเป็นคนคิดแต่จะให้หล่อนพูดออกมาได้อย่างไร!

หวังเจียเหยาจึงโกหกอีกครั้ง “ฉันคิดเองค่ะ เพราะฉันชื่อเจียเหยา ฉันหวังว่าคู่ชีวิตในอนาคตจะเป็นคนเก่งเหมือนหลิ่วอวี่เจ๋อดังนั้นจึงตั้งชื่อนี้”

หวังเจียเหยายื่นมืออกมาแล้วชี้ไปหลิ่วอวี่เจ๋อพลางกล่าว ‘อีผิ่น’ แล้วชี้ไปที่ตัวเองแล้วกล่าว ‘เจียเหยา’

“อีผิ่น เจียเหยา แหมเหมาะจริงๆ เลย! เดี๋ยวถ้าสร้างเสร็จแล้วทุกคนอยากไปดูไหมครับ รังรักของบ่าวสาวของเรา?”

“อยาก!”

แขกเหรื่อไม่น้อยประสานเสียงขึ้นมา

หวังซ่าวเจี๋ยส่ายหน้า “โชคดีที่เย่เฉินไม่อยู่ในงานไม่อย่างนั้นเขาคงโกรธจนทุบโต๊ะทิ้ง”

พูดจบหวังซ่าวเจี๋ยก็หยุดอัดวีดีโอ แล้วส่งคลิปที่อัดไว้เมื่อครู่ให้เย่เฉิน

ส่วนซูหลานที่นั่งด้านข้างเห็นหลานชายก็ถาม “ซ่าวเจี๋ยส่งคลิปให้ใครน่ะ?”

หวังซ่าวเจี๋ยตอบพลางหัวเราะร่วน “อ้อ น้องสาวผมไงครับ”

ซูหลานตะคอก “ให้ยัยเด็กหยวนหยวนได้เห็นงานแต่งงานหรูหราบ้างก็ดี ต่อไปเผื่อแต่งกับใครจะได้ไม่ขายหน้า”

ซูหลานและหวังจื้อหย่วนตอนนี้อาศัยหวังเจียเหยาตีสนิทกับตระกูลหลิ่ว คุณนายหวังจึงกลับมาเข้าข้างพวกเขาอีกครั้ง ทำให้ครอบครัวของเขาเริ่มมีสถานะในบ้านสูงกว่าครอบครัวของหวังจื้อเฉียง

ดังนั้นหวังซ่าวเจี๋ยจึงเคารพพวกเขาสองคน ตลอดทางที่ผ่านมาโดนพวกเขาใช้เหมือนคนรับใช้

เขาหวังว่าเรื่องที่เย่เฉินโดนขับออกจากตระกูลเป็นเรื่องโกหก จากนั้นเย่เฉินก็แต่งงานกับน้องสาวเขาอีกครั้ง

พอถึงตอนนั้นหวังซ่าวเจี๋ยจะได้ไม่ต้องโดนคนในครอบครัวหวังเจียเหยากลั่นแกล้งอีก

ต่อมางานแต่งงานก็ดำเนินไปจนถึง ขั้นตอนการสาบานรักที่มีชื่อเสียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)