ฉินหงเหยียนเคยสัญญากับเขาว่าจะปิดบังอะไรกับเขา
แต่ไม่ได้แปลว่าหล่อนจะบอกเขาทุกเรื่อง
เรื่องที่เหอเหวินเจี้ยนชอบหล่อน ฉินหงเหยียนไม่ได้พูด หญิงสาวไม่ได้จงใจจะปิดบังแต่ไม่อยากพูดให้เย่เฉินต้องระคายหู
ผู้ชายที่ชอบเจ้าหล่อนมีมากมาย มนุษย์เพศชายที่อยู่กับหญิงสาวไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่คาดว่าน่าจะชอบหล่อนแทบทุกคน
ถ้าหากว่าฉินหงเหยียนรู้ว่ามีผู้ชายสักคนชอบตนเองแล้วก็บอกแฟนหนุ่ม คิดว่าเย่เฉินคงมีเรื่องให้หัวเสียทุกวัน
ดังนั้นเจ้าหล่อนจึงไม่ได้พูดเรื่องที่เหอเหวินเจี้ยนชอบหล่อน แต่ในเมื่อตอนนี้เย่เฉินสังเกตเห็นแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม ฉินหงเหยียนย่อมไม่ปฏิเสธ
ถ้าหากเป็นผู้หญิงสารเลวอย่างหวังเจียเหยาคาดว่าคงจะตอบว่า “แหมที่รัก จะเป็นไปได้ยังไง นายคิดมากไปแล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานธรรมดาๆ”
ส่วนฉินหงเหยียนกลับถามเย่เฉินอย่างตั้งอกตั้งใจ “เขาเคยสารภาพรักกับฉันจริงๆ ค่ะ แต่ว่าฉันปฏิเสธเขาไปอย่างชัดเจนแล้วแล้วก็บอกเขาแล้วว่าระหว่างฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ ฉันเองก็ไม่อยากจะไปทำงานร่วมกับเขา แต่ว่าเขาทำงานที่ไป๋ลี่มานาน ถือว่าเป็นพนักงานเก่าแก่ ตอนนี้ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นประธานบริษัท แต่เกรงว่าก็ยังไม่สามารถไล่เขาออกได้ถามอำเภอใจ
ที่รัก คุณไม่สบายใจเหรอคะที่ฉันไปทำงานต่างจังหวัดกับเหอเหวินเจี้ยน?”
เย่เฉินยิ้มขณะลูบเรือนผมของแฟนสาว “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ผมเชื่อใจคุณอยู่แล้วครับ ผมเคยเจอตาแก่เหอเหวินเจี้ยน หน้าตาเขาก็อัปลักษณ์ แก่ด้วย เงินก็ไม่ได้มีเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณอยากจะได้แฟนแก่ คงจะเลือกสวี่ฉู่หมิงไปแล้ว ไม่มีทางเลือกเขาแน่ๆ”
คนที่สามารถทำให้เย่เฉินหวั่นใจได้มีแค่ตาแก่สวี่ฉู่หมิงเท่านั้น คนอย่างเหอเหวินเจี้ยนไม่คู่ควร
สวี่ฉู่หมิงเองก็กำลังตามจีบหญิงสาวใหม่อีกครั้ง ส่วนเหอเหวินเจี้ยนเองด้อยกว่าอีกฝ่ายในทุกด้าน
ดังนั้นถ้าหากว่าฉินหงเหยียนอยากจะหาผู้ชายที่ร่ำรวยและมีสถานะในสังคม หล่อนคงจะเลือกสวี่ฉู่หมิงไม่เลือกเหอเหวินเจี้ยน
ฉินหงเหยียนระบายยิ้ม “ขอบคุณนะคะที่รักที่คุณเชื่อฉัน!”
ในระหว่างคนรักและสามีภรรยา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเชื่อใจกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่รักที่มักจะต้องแยกกันหรือไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ
แน่นอนว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคู่รักจำนวนมากที่มักจะมีปัญหากันเมื่อแยกกันอยู่ การระแวดระวังที่ควรต้องมีนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น
……
แล้วเวลาสองวันก็ผ่านไป
ตอนบ่ายวันนี้ เย่เฉินที่อยู่ในตึกขนาดใหญ่กำลังอบรมผู้หญิงกลุ่มหนึ่งจากแอลเบเนีย
แอลเบเนียเป็นประเทศเล็กๆ ในยุโรป ประเทศนี้จนมากเสียด้วย ถูกขนานนามว่าเป็นขอทานแห่งยุโรป
แต่ว่าผู้หญิงหน้าตาสะสวยในประเทศนี้มีจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นพวกหุ่นดีขายาวเสียด้วย
ในบรรดาผู้หญิงพวกนี้ ตอนนี้ยังมีคนใช้ Iphone4 อยู่เลย บางคนถึงขนาดที่ว่าหลังจากมาที่นี่ พวกหล่อนถึงได้รู้จักอะไรสักอินและ Tiktok ต่างก็ตกหลุมรักเจ้าแอพพลิเคชันตัวนี้อย่างรวดเร็ว
พวกหล่อนมีใบหน้าสะสวย แต่กลับไม่มีมาตรฐานชีวิตที่ดี
ผู้ชายในประเทศนี้มีเงินเดือนประมาณ 5000 หยวน ต่อให้ไม่มีบ้านพวกหล่อนก็ยอมแต่งงานกับเขา
ถ้าหากว่ามีบ้านและรถแล้วเลือกจะแต่งงานกับพวกหล่อน พวกหล่อนคงรู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และคงรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากไม่เหมือนผู้หญิงที่นี่ที่จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สมควรจะเกิดขึ้น
ในตอนที่เย่เฉินกำลังคอยดูการอบรมนั้นเอง จู่ๆ มือถือของเขาก็ได้รับข้อความบางอย่าง
เป็นข้อความจากเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก เนื้อความว่า
“นายคือแฟนของฉินหงเหยียนประธานไป๋ลี่ใช่ไหม? เหอะๆ ฉันเพิ่งเห็นแฟนนายไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น ถ้าไม่เชื่อก็ลองโทรหาฉินหงเหยียนดูได้”
เย่เฉินดูข้อความเสร็จแล้ว ในวินาทีนั้นในใจก็ไม่พอใจอย่างมาก
“เชี่ย ไอ้คนสารเลวคนไหนเป็นคนส่งมา! หรือว่าเป็นฝีมือหลิ่วอวี่เจ๋อ?”
เย่เฉินไม่เชื่อเนื้อหาในข้อความ แต่ก็เหมือนว่าเขาไม่เคยล่วงเกินใครในเทียนไห่มาก่อน
ตอนนี้ผู้ชายที่เกลียดชังเขาก็มีแค่สองคน คนหนึ่งคือหลิ่วอวี่เจ๋อ อีกคนก็คือสวี่ฉู่หมิงสวี่ฉู่หมิงเป็นถึงประธานบริษัทมูลค่าแสนล้าน อายุก็ปาเข้าไปห้าสิบกว่าปี เขาไม่มีทางทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้แน่
แต่เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นหลิ่วอวี่เจ๋อ แต่เขาก็เคยรับปากแล้วว่าจะสงบศึกกับเย่เฉินเป็นการชั่วคราว แล้วไม่หาเรื่องเขากับฉินหงเหยียนอีก
“หรือจะบอกว่าเพราะช่วงนี้ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเป็นรองไป๋ลี่อย่างหนัก ดังนั้นเขาถึงทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”
มีความเป็นไปได้ แต่จากด้วยความเข้าใจที่เย่เฉินมีกับหลิ่วอวี่เจ๋อ เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่น่าทำแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)