เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 230

ใช่แล้ว เย่เฉินตั้งใจจะขอฉินหงเหยียนแต่งงาน!

ถึงแม้ว่าช่วงเวลาในการคบหากันของพวกเขาสองคนจะไม่ได้กินระยะเวลานาน แต่กลับรักกันอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งยังผ่านอะไรๆ ด้วยกันมามาก เย่เฉินแน่ใจแล้วฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่จะเดินเคียงข้างเขา

บวกกับที่ฉินหงเหยียนก็อายุไม่น้อยแล้ว ตอนเจ้าหล่อนอายุ 31 ปีแล้ว ซึ่งช่วงอายุที่เหมาะกับการตั้งครรภ์ของผู้หญิงจะอยู่ที่ 25-30 ปี

ตอนนนี้หล่อนล่วงเลยวัยในการมีลูก ผ่านไปอีกสองปีหล่อนจะกลายเป็นผู้ตั้งครรภ์ที่สูงอายุไปเสียแล้ว

ตั้งครรภ์ตอนอายุเยอะจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย เช่นเด็กพิการ หรือเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นโรคทางพันธุกรรมต่างๆ

ตระกูลเย่ที่ถือเป็นตระกูลร่ำรวยอันดับต้นๆ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของเด็กเป็นอย่างมาก ปู่ของเย่เฉินเองก็เคยถามเย่เฉินด้วยคำถามเดียวกัน

เขาเคยพูดว่าฉินหงเหยียนอายุก็ไม่น้อยแล้วถ้าเขาชอบหล่อนจริงๆ ให้รีบมีลูกกันได้แล้ว

ที่ต่างประเทศสามารถมีลูกก่อนแล้วค่อยแต่งงานได้ บางคนลูกโตมากแล้วผู้ชายถึงจะขอแต่งงาน ทำเอาผู้หญิงดีใจสุดยอด สุดท้ายก็พาลูกไปร่วมงานแต่งงานด้วย

แต่ที่นี่ต่างออกไป คนจำนวนมากยังคงมีความคิดคร่ำครึ พวกเขาต้องแต่งงานก่อนถึงจะมีลูกได้

ถ้าหากว่าฉินหงเหยียนมีลูกโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน เกรงว่าคนจำนวนมากคงจะมองหล่อนด้วยดวงตารังเกียจ

ดังนั้นเย่เฉินจึงตั้งใจจะรีบขอแต่งงาน เมื่อเรียบร้อยแล้วจะมีลูกภายในปีนั้นทันที

และแน่นอนว่าถึงแม้เย่เฉินตั้งใจจะขอแต่งงาน แต่ไม่ได้จะขอทันทีที่กลับไป

เย่เฉินตั้งใจจะขอแฟนสาวแต่งงานหลังจากที่หวังเจียเหยาคลอดลูกแล้ว

กำหนดการในการคลอดลูกของหวังเจียเหยาคือเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เหลือเวลาอีกไม่ถึงสี่เดือนแล้ว

และพอดีกับที่ตอนนี้ฉินหงเหยียนเพิ่งจะรับตำแหน่งประธานบริษัทไป๋ลี่ หัวหมุนทั้งวัน ไม่ใช่โอกาสเหมาะที่จะขอแต่งงาน

รอให้ผ่านปีหน้าไปก่อน เย่เฉินตั้งใจว่าจะขอหล่อนแต่งงานช่วงที่หล่อนลาหยุด!

ทว่าพอได้ยินความคิดของเย่เฉิน ฉินเสี่ยวตั่วที่กำลังกินขนมอยู่ก็กล่าวอย่างตกใจ

“โอ้โห เย่เฉิน นายนี่กล้าจริงๆ เลยนะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าขอพี่สาวฉันแต่งงาน? ฉันไม่ได้จะทำลายความมั่นใจของนายนะ แต่การที่พี่สาวฉันคบกับนายไม่ได้แปลว่าหล่อนจะยอมแต่งงานกับนานยนะ อาจเพราะรู้สึกว่านายยังเด็กแรงดีอะไรแบบนี้… พี่สาวของฉันอาจแค่อยากสนุกเฉยๆ พอเบื่ออาจะสลัดนายทิ้งก็ได้!”

ฉินเสี่ยวตั่วเคยถามฉินหงเหยียนว่าเย่เฉินมีฐานะเป็นอย่างไร ฉินหงเหยียนเคยบอกว่าธรรมดา

ถึงแม้ฉินเสี่ยวตั่วจะประทับใจในตัวเย่เฉินมาก แต่ว่าหล่อนรู้สึกว่าด้วยฐานะต่างๆ ของเย่เฉินแล้ว เขาไม่คู่ควรกับพี่สาวหล่อน

เย่เฉินตะขิดตะขวงใจ “คุณรู้สึกว่าผมไม่คู่ควรกับพี่สาวผมเหรอ?”

ฉินเสี่ยวตั่วพยักหน้ารับอย่างไม่เกรงใจ “พี่สาวของฉันเป็นถึงประธานบริษัทมูลค่าแสนล้าน นายไม่คู่ควรกับหล่อนจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นนายลองจีบฉันสิ ฉันเป็นแอร์โฮสเตส สถานะของเราสองคนไม่ได้ต่างกันมากแบบนายกับพี่สาวฉัน อายุก็ไม่ต่างกันด้วยนะ ฮ่าๆ”

เย่เฉิน “…”

เย่เฉินตะขิดตะขวงใจ แม่หนูน้อยคนนี้เอาแต่อ่อยตัวเองอยู่ตลอดเวลา หรือว่าอยากจะทดสอบเขาแทนพี่สาวนะ?

ถ้าหากว่าเป็นผู้ชายที่มีจิตอกุศล เห็นน้องสะใภ้ตัวเองสวยแบบนี้แล้วยังเข้าหาตนเองแบบนี้ หรือบางทีอาจจะลงมือทำอะไรขึ้นมาจริงๆ

เย่เฉินกล่าว “สรุปเลยก็คือคุณอย่าสนใจเลยว่าพี่สาวคุณจะตกลงหรือปฏิเสธ เอาเป็นว่าบอกผมมาก่อนว่าหล่อนอยากโดนขอแต่งงานแบบไหน?”

เพราะว่าการขอแต่งงานเป็น ‘เรื่องเซอร์ไพรส์’ เย่เฉินไม่สามารถพามฉินหงเหยียนได้ตรงๆ ถ้าถามอีกฝ่ายก็จะไหวตัวทัน

อาจจะคิดได้ว่า “เอ๊ะ? ทำไมเขาถามฉันแบบนี้นะ? หรือว่าตั้งใจจะขอฉันแต่งงาน?”

ฉินเสี่ยวตั่วกินขนมไปแล้วครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยถาม “หล่อนเองก็เคยพูดกับฉันว่าถ้าคนที่ชอบขอแต่งงาน หล่อนไม่อยากให้ขอในที่สาธารณะ ไม่อยากให้ไปขอแต่งงานในสถานที่ที่โหวกเหวกเสียงดัง เหมาเกาะก็น่าจะไม่เลว มีกันแค่สองคน ถ้านายโดนปฏิเสธก็จะได้ไม่อายไง ฮ่าๆ”

เย่เฉิน “…”

แม่หนูน้อยคนนี้เอาอีกแล้ว

แต่เย่เฉินมีความมั่นใจอย่างมากว่าฉินหงเหยียนชอบตนเอง ถ้าเขาขอแต่งงานหล่อนจะต้องตกลงแน่นอน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)