ฉินหงเหยียนมีท่าทีร้อนใจ
เย่เฉินพยักหน้ารับ “อืม คุณไปเถอะ ค่อยๆ ขับรถนะครับ”
และในเวลาเดียวกันนั้นเองหวังเจียเหยาที่อยู่ในวิลล่าด้านข้างก็เพิ่งตื่น เห็นเนื้อหาในโพสต์ที่ติดเทรนด์ในเวยป๋อ
“เอ๊ะ ฉินหงเหยียนจูบกับเหอเหวินเจี้ยนที่หน้าลิฟต์เหรอ? สวรรค์ ฉินหงเหยียนทรยศเย่เฉินไปแล้วเหรอ?”
ตอนนี้หวังเจียเหยาตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว ท้องโย้เย้ ทุกวันของหล่อนผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย ชีวิตกำลังต้องการข่าวสังคมสนุกๆ แบบนี้
เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะไปเจอข่าวที่เกี่ยวกับอดีตสามีเข้า
หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพบว่าฉินหงเหยียนกำลังขับรถ porshe ของหล่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนหลิ่วอวี่เจ๋อนั้นเมื่อวานไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน ดังนั้นหวังเจียเหยาจึงรีบออกจากวิลล่า แล้ววิ่งโร่ไปยังวิลล่าของเย่เฉินและหวังเจียเหยา
ก๊อก ก๊อก
“เย่เฉิน”
เย่เฉินเปิดประตูเห็นหวังเจียที่หอบท้องโตมา ถึงแม้ว่าท้องโตโย้เย้ เรือนร่างไม่อาจเทียบได้กับที่ผ่านมา แต่ใบหน้าของอดีตภรรยาก็ยังคงงดงามไร้ที่ติเหมือนผ่านมา
หล่อนเป็นสตรีตั้งครรภ์ที่สวยที่สุดเท่าที่เย่เฉินเคยเห็นมา
“คุณมาทำไม?” เย่เฉินถาม
หวังเจียเหยาถามเขาอย่างระมัดระวัง “นายทะเลาะกับหวังเจียเหยาเหรอ?”
“ไม่นี่” เย่เฉินตอบ
หวังเจียเหยาปลดล็อคโทรศัพท์แล้วถาม “พวกนายไม่ได้ดูข่าวกันเหรอ?”
เย่เฉินปรายตามองหน้าจอมือถืออีกฝ่าย “อ้อ เห็นแล้ว”
หวังเจียเหยาประหลาดใจทันที “เห็นข่าวแล้วแต่ไม่ทะเลาะกันเนี่ยนะ? เย่เฉิน ทำไมนายถึงได้ใจเย็นแบบนี้แล้วล่ะ โดนสวมเชาแล้วยังไม่โกรธเนี่ย?”
เย่เฉินตอบอีกฝ่ายอย่างเบื่อหน่าย “คนในรูปไม่ใช่ฉินหงเหยียน”
หวังเจียเหยากล่าวอย่างประหลาดใจ “คำพูดแบบนี้นายก็เชื่อด้วยเหรอ? นายโง่เกินไปแล้วมั้ง? ไม่ใช่รูปตัดต่อเสียหน่อย มีรูปเคลื่อนไหวยืนยันได้! ฉินหงเหยียนทำผิดต่อนาย นายอย่าไปเชื่อหล่อนเด็ดขาดล่ะ!”
เย่เฉินเองก็คร้านจะอธิบาย “เอาล่ะ ต่อให้หล่อนทำแบบนั้นจริงๆ ผมก็ให้อภัยหล่อนไปแล้ว พอใจหรือยัง?”
“อะไร…อะไรนะ?”
หวังเจียเหยาตะลึงค้างไป ไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อรวบรวมสติแล้วทันใดก็โบกกำปั้นน้อยๆ ระดมทุบอดีตสามีทันที
“นายมันคนชั่ว ให้อภัยหล่อนได้แล้วทำไมตอนนั้นไม่ให้อภัยฉัน!”
หวังเจียเหยาตอนนี้กำลังท้องโต เย่เฉินเองก็ไม่กล้าจะระบายโทสะใส่เจ้าหล่อน ทำได้เพียงคว้าแขนเจ้าหล่อนเอาไว้เพื่อให้หล่อนอยู่นิ่งๆ “เจียเหยา คุณอย่าพูดถึงเรื่องในอดีตของเราได้ไหม? แล้วอีกอย่างตอนนี้คุณใกล้จะคลอดลูกแล้ว อย่าลงไม้ลงมือบ่อยนักเลยเดี๋ยวถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?”
หวังเจียเหยาโกรธจนกระทืบเท้าเร่าๆ แค่นเสียง “นายยังรู้จักเป็นห่วงลูกในท้อง! นายมันเป็นพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย! หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ได้กลับบ้านมานานมาแล้ว ส่วนนายเองก็ไม่รู้จักมาอยู่เป็นเพื่อนฉันกับลูกเลยในตอนกลางวัน”
เย่เฉินกล่าวอย่างอิอดหนาระอาใจ “ตอนกลางวันผมต้องไปทำงานเข้าใจไหม?”
“แฟนของนายก็เป็นถึงตั้งประธานบริษัท นายไม่ไปทำงาน หล่อนจะไล่นายออกหรือไง?” หวังเจียเหยากล่าวต่อ
เย่เฉินไม่อยากจะเถียงกับหญิงสาวต่อเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “เจียเหยา ท้องคุณโตกว่าคนท้องทั่วไปตั้ง 7 เดือน เด็กในท้องเป็นแฝดหรือเปล่า?”
ก่อนหน้านี้เย่เฉินรู้มาจากหลิ่วอวี่เจ๋อว่าหวังเจียเหยามีลูกแฝด แต่หวังเจียเหยาไม่เคยบอกเขาด้วยตัวเองมาก่อน
ในฐานะที่เป็นบิดาของเด็กในท้อง เขาย่อมอยากรู้ว่าเด็กในท้องอีกฝ่ายใช่ฝาแฝดหรือไม่
ใบหน้าหวังเจียเหยาฉายแววตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดแล้วถามชายหนุ่มว่า “นายอยากให้ฉันมีลูกแฝดมากสินะ? ฮึ ฉันไม่บอกนายหรอก ยังไงเสียอีกสองเดือนลูกก็จะคลอดแล้ว พอถึงตอนนั้นนายมาดูเองที่โรงพยาบาลแล้วกัน!”
บนใบหน้าเย่เฉินฉายแววรอคอยทันที เพราะเขาเองก็พอจะเข้าใจความหมายของคำพูดของอีกฝ่าย เมื่อวัดจากความเข้าใจที่เขามีต่อตัวอีกฝ่าย
เย่เฉินรู้ว่าเด็กในท้องหวังเจียเหยาเป็นฝาแฝดแน่นอน!
“ได้ ผมจะไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาล” เย่เฉินกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)