หวังเจียเหยาที่นานวันยิ่งมีสภาพของคุณนายเศรษฐีสะบัดฝ่ามือใส่หน้าหม่าเสินอย่างสะใจ
ในสายตาเขาเมื่อปีก่อนหวังเจียเหยายังเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้ความอยู่เลย
แต่ปีนี้หลังจากที่แต่งงานมาสามครั้ง หวังเจียเหยาก็เริ่มกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวตระกูลหวัง อยากตบใครหล่อนก็ตบคนนั้น
หลังจากที่หวังเจียเหยาคลอดลูกแล้วตัวสูงขึ้นมา 1.5 ซม.ซึ่งนี่เป็นช่วงเวลาอัศจรรย์ที่ผู้หญิงจะตัวสูงขึ้น
หล่อนยืนตรงหน้าหม่าเสิน กล่าวอย่างวางท่า “ตระกูลหวังของเราจะตกต่ำยังไง คนแบบนายก็ดูถูกไม่ได้อยู่ดี ไสหัวไปเลยไป!”
หม่าเสินมองหวังเจียเหยา แล้วตะโกนด่า “แกมันแพศยา คิดไม่ถึงว่าจะกล้าตบฉัน? ตระกูลหวังของพวกแกกำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว แกมีสิทธิ์อะไรมายโสโอหังขนาดนี้! ตอนนี้พวกแกอาจจะไม่มีเงินเท่าฉันก็ได้”
หวังเจียเหยาแค่นเสียงเย็น “แค่แกเนี่ยนะ? ถ้าแกคิดว่าแกมีเงินมากกว่าฉันก็ได้งั้นเรามาดูกัน”
ตอนนี้ตระกูลหวังไม่มีเงินจริงๆ แถมยังโดนค่าปรับไม่น้อย แต่หวังเจียเหยามีเงิน!
ในบัญชีหวังเจียเหยายังมีเงินก้อนลับๆ อีกก้อน คนทั้งตระกูลต่างก็ไม่รู้ว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของเด็กหญิงให้เงินหล่อนมาพันล้าน
“แหมใครกำลังอวดรวยอยู่เนี่ย? อ้อ ที่แท้ก็ ‘ลูกสะใภ้’ คนดีของเรานี่เอง!”
ทันใดนั้นเองในห้องโถงก็มีคนคุ้นเคยอีกสองคนเดินเข้ามา นั่นคือฟางเสียนจู่และหลิ่วหรูซือพ่อแม่ของฟางเชา!
เย่เฉินเห็นทั้งสองคนนั้นผ่านทางกล้องวงจรปิด นานแล้วที่ไม่เจอพวกเขา
หลิ่วหรูซือสวมชุดกี่เพ้า เรือนร่างยังสมบูรณ์แบบเหมือนปีที่แล้วไม่มีผิด ที่ทั้งยังสวยและมีสเน่ห์เย้ายวน
หวังเจียเหยาเห็นทั้งสองคนก็เก้อเขิน อย่างไรเสียหล่อนก็เคยแต่งงานกับฟางเชาและเคยเรียกพวกเขาสองคนว่าพ่อกับแม่มาก่อน
ฟางเสียนจู่เดินมาเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของหวังเจียเหยา สีหน้าก็ฉายแววเหยียดหยาม
“หวังเจียเหยาตระกุลของพวกเธอตอนนี้เละเทะจนมีสภาพนี้แล้ว เธอยังจะมาวางท่าอะไรอีก? ภรรยาของฉันถามคนตระกูลหลิ่วแล้ว พวกเขาบอกว่าเธอหย่ากับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว แถมยังไม่ได้เงินจากเขาสักแดง เธอยังจะกล้าเปรียบเงินกับคนอื่นอีกนะ?
ตอนนี้นอกจากเธอจะมีลูกของเย่เฉินแล้วเธอยังมีอะไรอีก? อ้อ จริงด้วยเป็นลูกสาว ไม่ใช่ลูกชาย ได้ยินมาว่าในตระกูลใหญ่ๆ ลูกสาวไม่มีสิทธิ์สืบทอดสมบัติของตระกูล เหอะๆ เธอเองก็เก่งนี่ มีลูกแฝดสองคนแต่คนละพ่อ โชคดีที่ฟางเชาไม่ได้คบกับเธอ”
ดูแล้วฟางเสียนจู่และหลิ่วหรูซือก็คงจะเพื่อเยาะเย้ยคนตระกูลหวังเหมือนหม่าเสิน
ก่อนหน้านี้หวังเจียเหยาแต่งงานกับฟางเชา ในงานแต่งงาน หวังเจียเหยาประกาศกร้าวกลางงานว่าจะไม่แต่งงานกับฟางเชา
นี่ทำให้ตระกูลฟางขายหน้า!
อีกทั้งเป็นเพราะหวังเจียเหยา พวกเขาถึงได้ตกต่ำมาเป็นตระกูลท้ายๆ ของอวิ๋นโจวจากที่เป็นตระกูลใหญ่ๆ!
หวังเจียเหยาจึงไม่กล้าวางก้าม เพราะรู้สึกละอายใจพลางกล่าว “คุณอาฟาง คุณอาหลิ่ว ในเมื่อพวกเราสองครอบครัวไม่ได้เป็นอะไรกัน งานเลี้ยงครบรอบเดือนนี้ก็ไม่ได้เชิญพวกคุณมา พวกคุณจะมาทำไมคะ?”
ฟางเสียนจู่กล่าวอย่างไม่พอใจ “พวกเราไม่ได้มาดื่มฉลอง! แต่พวกเรามาหาเย่เฉิน!”
เย่เฉินที่อยู่ด้านบนได้ยินเช่นนี้ ก็นิ่งไป
“มาหาเย่เฉิน? คุณมาหาอดีตสามีฉันทำไม?” หวังเจียเหยาถาม
ฟางเสียนจู่เริ่มมีอารมณ์ “ฉันติดต่อลูกชายฉันไม่ได้มานานแล้ว ฉันอยากจะถามเย่เฉินว่าลูกชายฉันโดนเขาฆ่าตายไปแล้วหรือเปล่า! ถ้าเขาฆ่าลูกชายฉัน ฉันจะสู้ตายกับเขา!”
หวังเจียเหยาขมวดคิ้วแล้วกล่าว “คุณติดต่อลูกชายไม่ได้ เกี่ยวอะไรกับอดีตสามีฉันคะ? ต่อให้ลูกชายคุณเป็นอะไรขึ้นมาคุณมีปัญญาสู้กับอดีตสามีฉันเหรอคะ? ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ!”
หลิ่วหรูซือละลั่กละล่ำ “เจียเหยา พวกเราไม่เคยคิดจะต่อต้านกับคุณเย่ แล้วก็รู้ด้วยว่าสู้ไม่ได้ พวกเราก็แค่อยากถามคุณเย่ว่าพอจะรู้ข่าวลูกชายเราหรือเปล่า พูดตรงๆ เลยนะลูกเขาเพิ่งจะเป็นพ่อคน มีลูกชายคน ลูกสาวคน เด็กเพิ่งจะสองเดือน เราอยากจะบอกข่าวดีเรื่องนี้กับเขา”
เย่เฉินได้ยินก็เริ่มประหลาดใจ ฟางเชาเป็นพ่อคนแล้วหรอ
ในห้องพักซีกวาก็งุนงง “ไม่สิครับ ฟางเชาโดนพวกเราตอนไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
หลิวเจิ้งคุนกล่าว “ไม่ได้ยินที่แม่ของฟางเชาพูดเหรอ ลูกของเขาอายุได้สองเดือนแล้ว เกิดก่อนลูกของคุณชายเย่เสียอีก คาดว่าน่าจะท้องก่อนหน้านั้นแล้ว”
ซีกวาหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ถ้าแบบนั้นก็แปลว่าฟางเชานี่มันดวงดีไม่เบา อย่างน้อยๆ ก็มีลูกตั้งสองคน แต่หลิ่วอวี่เจ๋อจบเห่แล้ว ฮ่าๆ ชีวิตนี้มีลูกไม่ได้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)