เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 39

แค่นาฬิการิชาร์ด มิลล์เรือนเดียว?

พวกภาพวาดและรูปตัวหนังสือโบราณในห้องใต้ดินของตระกูลหวัง?

เย่เฉินไม่แม้แต่จะเหลือบแลของพวกนี้ในสายตาด้วยซ้ำ!

ของเพียงสิ่งเดียวที่เขาอาวรณ์ก็คือฮัวฮัว เจ้าพุดเดิ้ลที่เขาเลี้ยงมาสามปีนั่นต่างหาก เพราะสุนัขตัวนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวในตระกูลหวังที่รู้จักสำนึกบุญคุณ!

หลังจากที่เย่เฉินไปแล้ว ซีกวาและเหล่าลูกน้องของเขาก็เดินคอตกออกจากวิลล่าไป

ซีกวาเพิ่งขึ้นรถ หวังซ่าวเจี๋ยก็วิ่งมา เมื่อครู่ตอนที่ซีกวาถูกเย่เฉินซ้อมนั้นก็ยังไม่ยอมพูดชื่อของหวังซ่าวเจี๋ย เขาจึงตื้นตันใจอย่างมาก

“พี่กวา…ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” สีหน้าหวังซ่าวเจี๋ยไม่สู้ดีนัก

ซีกวาเห็นหวังซ่าวเจี๋ยก็หัวเสีย “น้องชาย คิดไม่ถึงว่านายจะหางานยากแบบนี้มาให้ฉัน! นายต้องเพิ่มเงินอีกล้านหนึ่ง เพื่อชดเชยค่ารักษาพยาบาลของพี่น้องฉัน!”

หวังซ่าวเจี๋ยกล่าว “เงินไม่ใช่ปัญหา ขอแค่พี่จัดหนักสั่งสอนเด็กเย่เฉินนั่นสักครั้ง พี่กวา…พี่ตั้งใจจะเอาเขาให้ตายเลยใช่ไหม?”

ซีกวาโบกมือ “เอาเถอะ เรื่องนี้ฉันจะต้องเอาคืนให้นายแน่ เร็วเข้า ไปได้แล้ว!”

ซีกวานั่งรถตู้แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

พอออกจากวิลล่าแล้ว ซีกวาก็ถ่มน้ำลายออกนอกหน้าต่าง “แม่งเอ๊ยงานของหวังซ่าวเจี๋ย ตอนนี้ถ้ายังมีลูกน้องจะยอมออกหน้าเองเพื่อเงินแค่สองล้านเหรอ?”

ความจริงแล้วสองปีมานี้ ร้านรวงน้อยใหญ่ที่ซีกวามีถูกสั่งปิดจวนจะหมดแล้ว ตอนนี้เขากำลังขัดสนอย่างยิ่งยวด

ทว่าวันนี้ซีกวาถูกเย่เฉินเหยียดหยามต่อหน้าธารกำนัลแถมตนเองยังโดนอีกฝ่ายหักนิ้ว เขาย่อมอยากล้างแค้นอยู่แล้ว

“รีบจองตั๋วไปไทยให้ฉันใบหนึ่ง!”

ซีกวาจะไปหาท่านหลิว!

……

เย่เฉินกลับมาถึงบริษัท แล้วกำลังเข้าร่วมประชุมตอนเช้ากับผู้บริหารระดับสูงที่ห้องประชุม

ประชุมเช้านี้หลักๆ คือถกเรื่อจะลงทุนในโปรเจกต์ ‘อีผิ่นซือจ๋าย’หรือไม่

ซึ่งผู้บริหารระดับสูงที่ว่านี้รวมฉินหงเหยียนด้วย ซึ่งส่วนมากแล้วต่างก็เห็นด้วยที่จะลงทุนเงินเจ็ดสิบล้านนี้

หนึ่งคือเงินลงทุนไม่มาก สองคือโปรเจกต์นี้ดีมาก หากสร้างเสร็จแล้วจะต้องดึงดูดเศรษฐีในอวิ๋นโจวหรือกระทั่งคนนอกพื้นที่ด้วย

แต่บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปได้เพิ่มข้อความลงไปอีกอันในสัญญาความว่า เงื่อนไขในการซื้อบ้านใน ‘อีผิ่นซือจ๋าย’ คือผู้ซื้อจะต้องมีความร่วมมือในด้านธุรกิจกับบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเท่านั้น

บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปมีธุรกิจมากมาย การที่พวกเขามีธุรกิจมากแต่ก็ไม่ได้มีคู่แข่งมากมาย ดังนั้นถ้าหากทำความร่วมมือกับครอบครัวนักธุรกิจที่ร่ำรวยพวกนี้ จะต้องเหมือนเสือติดปีกอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นโปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีกับตระกูลหวังแต่ยังส่งผลดีกับบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปด้วย

แต่โปรเจกต์นี้เป็นไอเดียของเย่เฉิน เขาเองจึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความคิดของตนเอง

ในห้องประชุมเย่เฉินนั่งอยู่ตรงตำแหน่งผู้บริหารแล้วกล่าว

“ก็ดี ในเมื่อทุกคนต่างก็เห็นด้วย อย่างนั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปก็เริ่มร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ติ่งเฉิง หงเหยียนคุณให้คนตระกูล…ให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ติ่งเฉิงส่งคนมานำเสนอรายละเอียดคร่าวๆ เกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้ของพวกเขากับผม ผมจะได้ดูแผนของพวกเขาสักหน่อย”

“ค่ะ ฉันจะแจ้งพวกเขาเดี๋ยวนี้” ฉินหงเหยียนกล่าว

หลังจากการประชุมจบลง ฉินหงเหยียนก็รีบโทรหาหวังจื้อเฉียงทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)