คุณนายหวังคิดจะอาศัยโอกาสที่ชีวิตของคุณย่าเล็กใกล้จะถึงฝั่ง สร้างโอกาสให้หวังเจียเหยาและเย่เฉิน
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยืนยันไม่ได้นั่นก็คือเย่เฉินจะรับปากหรือไม่
อย่างไรเสียเย่เฉินก็หย่ากับหวังเจียเหยาแล้ว เขาไม่ใช่คนตระกูลหวังแล้ว
และยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนตระกูลหวังอีก ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงญาติห่างๆ อย่างน้องสาวของปู่หวังเจียเหยาอีกต่างหาก ดังนั้นครอบครัวหวังจื้อหย่วนจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย
หวังจื้อเฉียงกล่าวว่า “คุณแม่น่ะ ท่านมีเจตนาที่ดีจริงๆ แต่เจียเหยาก็อย่าดีใจเกินไปนักล่ะ เด็กคนนั้นใจแข็งจะตายไป ปล่อยเธอคุกเข่ากลางสายฝนตั้งสองชั่วโมงยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยังแนะนำคนพิการให้เจียเหยาอีก ฮ่าฮ่า ฉันว่าเขาคงจะไม่ยอมแกล้งทำเป็นสามีภรรยากับเธอเพียงเพราะเรื่องย่าเล็กหรอก”
หวังเจียเหยากัดริมฝีปาก หล่อนเองก็สงสัยว่าเย่เฉินจะไร้หัวใจแบบก่อนหน้านี้หรือเปล่า
แต่ว่าหล่อนยังรวบรวมความกล้าโทรศัพท์หาเย่เฉิน และบอกเขาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยร้อนรนเหมือนที่คุณย่าบอก
เย่เฉิน พ่อบ้านฟางและหลานชายเขายังคงนั่งกินข้าวกันที่เรือนหลงจิ่งอยู่ ทันใดนั้นเองหวังเจียเหยาก็โทรศัพท์มา
เย่เฉินเห็นหวังเจียเหยาโทรมาก็คิดในใจ “หรือว่ากลับไปคิดได้แล้วคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่เลวเลยเสียใจภายหลังขึ้นมา?”
พูดตรงๆ เขาค่อนข้างชื่นชมหล่อนทีเดียวที่เมื่อครู่ปฏิเสธการนัดดูตัวของเขา หนำซ้ำยังสาดน้ำชาใส่หน้าเขาด้วยโทสะ
นี่แปลว่าหล่อนไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน แต่หล่อนยังคงรักในเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองอยู่
สิ่งที่เย่เฉินรังเกียจที่สุดก็คือการที่หวังเจียเหยาเห็นแก่เงินจนดูถูกตนเอง ตัวหล่อนเองเดิมเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง
“ฮัลโหล” เย่เฉินรับสาย
“เย่เฉิน…”
ทันทีที่เปิดปากหวังเจียเหยาก็สะอึกสะอื้น เศร้าเสียใจอย่างยิ่ง
เย่เฉินกล่าวว่า “คุณไม่ต้องร้องไห้แล้ว ผมไม่ได้เอาเรื่องเมื่อครู่มาใส่ใจ”
หวังเจียเหยากล่าว “ขอโทษด้วยที่เมื่อครู่สาดน้ำชาใส่นาย ฉันรู้ว่าน้ำไม่ร้อนถึงได้ทำแบบนั้น”
“แต่ที่ฉันโทรหานายไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก แต่คุณย่าเล็กกำลังจะเสียแล้ว”
“อะไรนะ? คุณย่าเล็ก…”
เย่เฉินร้อนรนทันที
หวังเจียเหยากล่าวว่า “เมื่อกี้คนที่บ้านนั้นโทรมาบอกว่าย่าเล็กอาจจะอยู่ต่อได้อีกไม่กี่วัน อาจจะคืนนี้หรืออาจจะคืนพรุ่งนี้”
เย่เฉินที่กำลังกินข้าววางตะเกียบลง แล้วใช้มือข้างหนึ่งนวดขมับแล้วถอนหายใจยาว
คนตระกูลหวัง เพราะปู่ของหวังเจียเหยาเสียไปเร็ว ไม่ได้อยู่จนการแต่งเข้าของเย่เฉินสิ้นสุดลง
ส่วนคนอื่นๆ ก็ปฏิบัติกับเขาอย่างเย็นชา
มีแค่คุณย่าเล็กของหวังเจียเหยาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เห็นเย่เฉินเป็นเขยที่แต่งเข้ามาก่อน แถมยังดีกับเขาเหมือนๆ กับหวังซ่าวเจี๋ย
คุณย่าเล็กผู้นี้เป็นหนึ่งในหญิงชราที่มีเมตตาที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
ที่สำคัญที่สุดคือหล่อนยังเป็นผู้มีพระคุณของเขาอีกด้วย!
ผู้มีพระคุณ!
เมื่อครึ่งปีก่อน ตอนนั้นเย่เฉินยังไม่ได้ส่งอาหารเดลิเวอรี่ยังเป็นคนใช้ให้ตระกูลหวังอยู่
วันหนึ่งเย่เฉินมีเพื่อนทหารมาหาเขาที่อวิ๋นโจว เขาจึงไปกินข้าวกับเพื่อนของเขา
คืนวันนั้นเองเย่เฉินรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
เขาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอเองก็ไม่เคยเจออาการแบบนี้ สุดท้ายจำเป็นต้องผ่าตัดแต่เงินค่าผ่าตัดรวมๆ แล้วก็หลายแสน
ตอนนั้นคนตระกูลหวังต่างก็ไปเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์กันหมด เย่เฉินโทรหาหวังเจียเหยาไม่ได้ จึงโทรขอยืมเงินซูหลานและหวังจื้อหย่วน
พอได้ยินว่าหลายแสนทั้งสองคนก็ปฏิเสธทันที แถมยังพูดว่าเย่เฉินแกล้งป่วยอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)