ณ บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป
วันนี้หวังเจียเหยาและฉินหงเหยียนต่างก็ใส่ชุดสูทสีแดงเลือดหมู ทั้งสองคนนั้นพร้อมใจกันสร้างภาพลักษณ์ผู้บริหารหญิงที่แข็งแกร่ง
การสวมใส่เสื้อแบบเดียวกันของหญิงสาวสองคนนี้ทำให้ผู้ชายทั้้งหลายในบริษัทอิ่มตาอิ่มใจ
ในทันทีที่เห็นทำให้พวกเขาแยกแยะไม่ได้ว่าใครสวยกว่ากันกันแน่
ถ้านับแค่เรื่องรูปลักษณ์ หวังเจียเหยาย่อมเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าพูดเรื่องมาดผู้บริหารมืออาชีพแล้วฉินหงเหยียนนั้นโดดเด่นกว่าอีกฝ่าย
“คุณนายท่านประธานสวยจังเลย!”
“ภรรยาท่านประธานสวยมากเลย!”
พวกลูกน้องในบริษัทเอาแต่เยินยอหวังเจียเหยา รวมไปถึงโจวหรงหรงผู้เป็นเลขาของฉินหงเหยียนก็ร่วมวงด้วย
หวังเจียเหยาดีใจมาก นี่คือวินาทีที่หล่อนเฝ้าฝันหา!
เป็นภรรยาของท่านประธานผู้บริหาร มีคนนับหน้าถือตาและเป็นคนที่ทั้งบริษัททั้งเคารพและริษยา!
นี่ถึงจะเป็นชีวิตที่หล่อนต้องการ!
แล้วเย่เฉินก็เรียกประชุมอย่างรวดเร็ว
ในที่ประชุมเย่เฉินประกาศว่าเขาจะโอนหุ้นจำนวน 5% ของเขาให้กับหวังเจียเหยา และแต่งตั้งหล่อนเป็นรองประธานอีกคนของบริษัท
หลังจากได้ตำแหน่งและหุ้นแล้วทำให้ตำแหน่งของหวังเจียเหยาเทียบเท่ากับฉินหงเหยียน
เพราะเย่เฉินมีธุระปะปังอีกมากที่ต้องจัดการดังนั้นจึงไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนหวังเจียเหยา
หนำซ้ำหวังเจียเหยาก็ว่านอนสอนง่ายบอกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายให้เย่เฉิน ถ้ามีอะไรจะไปขอความรู้จากฉินหงเหยียน
หวังเจียเหยาเป็นฝ่ายไปที่ห้องทำงานของฉินหงเหยียนก่อน จากนั้นฉินหงเหยียนก็เดินตามหลังหวังเจียเหยาไปแล้วปิดประตูห้องทำงาน
ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “แสดงความยินดีด้วยนะคะคุณหวัง คิดไม่ถึงว่าหมากกระดานนี้ที่ตายจนไม่รู้จะตายยังไงของคุณจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งนะ”
ในสายตาฉินหงเหยียน หวังเจียเหยาและเย่เฉินจบเห่กันไปนานแล้ว พวกเขาไม่มีทางจะกลับมารักกัน!
ก่อนนี้หวังเจียเหยามีชู้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะผู้ชายคนใดก็ไม่สามารถจะให้อภัยได้
ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากที่หวังเจียเหยาทำผิดแล้ว ยังไม่รู้จักสำนึกแถมยังพูดจาด้วยคำพูดแย่ๆ อีกมากมาย
ไม่ว่าจะดูอย่างไรพวกเขาสองคนก็ไม่น่าจะคืนดีกัน!
แต่ว่าตอนนี้หวังเจียเหยากลับยังเป็นภรรยาของเย่เฉินอยู่ หนำซ้ำหล่อนยังกลายมาเป็นรองประธานของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปด้วย!
หวังเจียเหยาระบายยิ้ม หล่อนนั่งบนเก้าอี้ทำงานรองประธานของฉินหงเหยียน หล่อนนั่งไขว่ห้างแล้วกล่าว
“ใครๆ ก็พูดว่าคุณฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงเก่งลำดับหนึ่งในโลกธุรกิจของอวิ๋นโจว ต่อให้เป็นประธานที่วางอำนาจขนาดไหนก็จะต้องพ่ายแพ้ให้คุณ ขนาดคุณย่าของฉันยังชมคุณอยู่บ่อยๆ แถมยังกำชับให้ฉันเรียนรู้จากคุณ! ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าระหว่างเราสองคนใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”
ที่หวังเจียเหยามาครั้งนี้ก็เพื่อโอ้อวด!
หล่อนรู้ว่าฉินหงเหยียนเองก็ชอบเย่เฉิน แต่ในระหว่างที่พวกเขาสองคนหย่ากันปลอมๆ ฉินหงเหยียนก็ยังจับเย่เฉินไม่สำเร็จ
นี่แสดงให้เห็นว่าหวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงที่มีสเน่ห์กว่าฉินหงเหยียน!
ฉินหงเหยียนเองก็ไม่ใคร่จะพอใจนักที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงแพศยาคนนี้ หนำซ้ำยังเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าจะดับสนิทจนไม่มีหวังไปแล้ว ทำให้หล่อนรู้สึกหัวเสียเหลือเกิน!
ถ้าจะพูดว่าหวังเจียเหยาเป็นยอดฝีมือแบบหล่อน รู้วิธีเอาอกเอาใจผู้ชายแถมยังรู้จักจุดตายของผู้ชายเป็นอย่างดี ถ้าเป็นอย่างนั้นต่อให้ตนเองต้องพ่ายแพ้ หล่อนก็ยินยอม
แต่หวังเจียเหยาทำร้ายเย่เฉินไม่หยุด คิดไม่ถึงว่าประสบความสำเร็จทำให้หล่อนรู้สึกคับแค้นใจ!
ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “ชิ ถ้าไม่ใช่ปู่ของคุณมองการณ์ไกลรู้ว่าคุณจะโยนสมบัติล้ำค่าที่เขามอบให้ทิ้ง แล้วจัดแจงส่งคนไปอยู่ที่หน่วยกิจการพลเรือนล่ะก็ คุณจะมีวันนี้ได้ยังไง?”
“หวังเจียเหยา คุณอย่าได้ใจไวเกินไป คุณก็แค่ยังไม่ได้หย่ากับเย่เฉินเท่านั้นเอง แต่คุณก็ยังคงไม่ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติของตระกูลเย่เหมือนเดิม เมื่อไหร่กลายมาเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเย่อย่างเป็นทางการแล้วค่อยมาอวดฉันแล้วกันนะคะ!”
หวังเจียเหยาเองก็ผุดลุกขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด “ฉันจะมีลูกให้เย่เฉินอยู่แล้ว ไม่ว่าช้าหรือเร็วฉันก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเย่อยู่ดี!”
ฉินหงเหยียนเองก็ริษยาอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เฉินถึงอยากจะมีลูกกับผู้หญิงแพศยาคนนี้!
“หรือว่า… คุณไม่ได้มีอะไรกับฟางเชาจริงๆ เหรอ?” ฉินหงเหยียนถามอย่างประหลาดใจ
…………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)