เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 69

สิ่งที่เผยมู่ซีวาดหวังเอาไว้เป็นอันว่าล้มเหลว เมื่อกลับถึงจวนคนทั้งสี่ที่ดื่มกินจนอิ่มหนำล้วนง่วงเหงาหาวนอนขอลาแยกย้ายกลับห้องนอน จังฮูหยินที่คอพับคออ่อนเพราะดื่มด้วยความเกรงใจเข้าไปจนเต็มคราบถูกเสี่ยวลิ่งประคองเข้าห้องนอนก่อนผู้อื่น เผยมู่ซีขำท่าทางของมารดาที่โบกไม้โบกมือ พูดจาอ้อแอ้

“แม่ม่ายมาวว!!! จาวรีบปายนอนเถอะ!”

“ท่านแม่เจ้าคะ ท่าทางเช่นนี้ล่ะที่เรียกว่าเมา ฮ่าๆ ท่านแม่...เดินให้ตรงสิเจ้าคะ อย่าๆ อย่าเซไปทางนั้น”

เสียงวี้ดว้ายขำขันของคุณหนูกับเสี่ยวลิ่งทำเอาเหล่าลู่อดหัวเราะออกมามิได้ หลายปีแล้วที่สตรีทั้งสามมิได้หัวเราะเต็มเสียงเช่นนี้ นานๆ ทีดื่มสุราเพื่อความเบิกบานก็ดีเช่นนี้ เหล่าลู่มองดูพวกนางด้วยความสุขใจ หลายปีที่เฝ้าดูแลและเป็นห่วงพวกนาง คอยปกป้องและระวังอันตรายที่จะมาถึง

เสี่ยวลิ่งทั้งขำทั้งหนักแต่ก็แบกเอาฮูหยินเข้าห้องนอนจนสำเร็จโดยมีเผยมู่ซีเดินไปประคองแขนอีกข้างช่วย หลังจากได้รับการทะลวงลมปราณแล้วร่างกายของนางก็แข็งแรงขึ้นมา การประคองจังฮูหยินด้วยแขนข้างเดียวก็รับน้ำหนักได้เท่ากับที่เสี่ยวลิ่งประคองด้วยสองมือ

“คุณหนู กลับไปนอนเถิดเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปวาดภาพแต่เช้านะเจ้าคะ หากสายละก็องค์ชายอาจจะไม่ทรงพอพระทัยก็ได้”

“นั่นสิ! ข้าลืมไปเลยว่างานข้าที่ค้างไว้วันนี้ต้องเร่งมือทำอีก”

แม้นางจะบอกเสี่ยวลิ่งเช่นนั้นแต่กลับไปนั่งเขียนแผนการสืบเรื่องในตระกูลชิงให้ชัดเจน หากคิดจะเริ่มก็คงจะหาทางจัดการเรื่องของชิงหลานเสียก่อนจึงจะจัดการเรื่องของเผยมู่ซีได้ ยามนี้แม้แต่จุดยืนของชิงหลานก็ยังไม่มีแล้วจะแก้แค้นให้เผยมู่ซีได้อย่างไร?

...สวรรค์! ในเมื่อส่งนางกลับมาแล้ว...เหตุใดไม่ส่งหนทางแก้แค้นมาด้วยเล่า?

องค์ชายสิบห้าฟังรายงานจากจงเหยียนที่กลับมาอย่างเร่งด่วน

“ตวนเจี้ยนผู้นั้นแต่ก่อนเป็นผู้ช่วยเสมียนอยู่ในหน่วยทะเบียนของเมืองฉู่จิ้งขอรับ ภายหลังลาออกกลับไปอยู่บ้านเกิดที่อำเภอยินเหลียง เขาร่วมกับโจรป่ากลุ่มหนึ่งรอดักปล้นเฉพาะเศรษฐีและผู้มีฐานะดีเท่านั้นพะยะค่ะ หากเป็นคนยากจนผ่านมาพวกเขาจะปล่อยไปเฉยๆ และไม่เคยทำร้ายเหยื่อ ตวนเจี้ยนกับเกาสงเป็นเพื่อนบ้านกันตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขารักใคร่กันประดุจพี่น้อง ภายหลังเกาสงไปทำงานที่เมืองหลวง เพิ่งกลับบ้านเกิดได้ไม่นานพะยะค่ะ แต่ไม่ยอมกลับบ้าน มีคนยืนยันว่าเกาสงแอบติดต่อกับตวนเจี้ยนให้พาไปซ่อนตัวอยู่ในป่าพะยะค่ะ”

“อืม...เช่นนั้นคำให้การของคนผู้นี้ก็เชื่อถือได้”

“กังเฉิน ทางเมืองหลวงยืนยันว่าเกาสงคือคนขับรถม้าของตระกูลเผยที่หายไปในคืนเกิดเหตุใช่หรือไม่?”

“พะยะค่ะ”

“หากว่าเกาสงถูกบังคับให้ร่วมมือฆ่าเผยมู่ซีแต่เขากลับหนีไปได้ จากนั้นจึงติดต่อสหายคือตวนเจี้ยนให้ช่วยหาที่หลบซ่อนจากการตามล่า เพียงแต่ตวนเจี้ยนไม่อาจช่วยเขาหนีไปได้ตลอด เกาสงจึงต้องถูกคนผู้นั้นปลิดชีวิต”

“หัวหน้ามือปราบหน่วยที่สามเป็นคนสกุลเฉา ฝ่ายมารดาเป็นตระกูลพ่อค้าเจ้าของร้านข้าวสาร ฝ่ายบิดาทำงานอยู่กรมพิธีการเป็นขุนนางขั้นห้า คนผู้นี้ชอบใช้ชีวิตหรูหรามักใหญ่ใฝ่สูง มีภรรยาและอนุภรรยาหนึ่งคน ทว่ากลับชอบไปหอโคมเขียว พะยะค่ะ”

องค์ชายเคาะพระดรรชนีกับโต๊ะเบาๆ สองสามครั้ง “หอโคมเขียวที่เขาชอบไปอาจจะเป็นแหล่งข่าวก็ได้ ส่งคนของเราไปสืบให้ดี”

“พะยะค่ะ”

“หากว่าคนผู้นี้เป็นผู้ตามล่าสังหารเกาสงจริงหรือล่ะก็...เรื่องนี้อาจจะซับซ้อนกว่าที่เราคาดไว้ ที่แน่ๆ เผยมู่ซีมิได้ตายเพราะอุบัติเหตุ คงมีใครสักคนที่ต้องการชีวิตนางเพื่อให้แผนการที่วางไว้สะดวกยิ่งขึ้น ในเมื่อสกุลเผยเสนอว่าที่พระชายาคนใหม่ขึ้นมาแล้ว หากไม่มีผู้อื่นปรากฏตัวข้าก็คงจะมั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนในสกุลเผย”

“องค์ชายคิดว่ายังมีผู้อื่นอีกหรือพะยะค่ะ?”

“ในการสืบสวนเราไม่ควรตัดความเป็นไปได้อื่นๆ มิใช่หรือ?”

“พะยะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)